ปัตตานี - ผบก.ภ.จ.ปัตตานี สั่งเจ้าหน้าที่ชุดตรวจพิสูจน์หลักฐานเร่งเก็บหลักฐาน และพยานวัตถุ เหตุคนร้ายป่วนในพื้นที่ 4 อำเภอ 18 จุด เพื่อเร่งเปรียบเทียบกับหลักฐานที่เก็บได้จากเหตุป่วนต่างๆ
วันนี้ (20 เม.ย.) พล.ต.ต.เอกภพ ประสิทธิ์วัฒนชัย ผบก.ภ.จ.ปัตตานี เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ชุดตรวจพิสูจน์หลักฐานเร่งเก็บหลักฐาน และพยานวัตถุ เหตุคนร้ายป่วนในพื้นที่ 4 อำเภอ 18 จุด เพื่อเร่งเปรียบเทียบกับหลักฐานที่เก็บได้จากเหตุป่วนต่างๆ ก่อนหน้านี้ ซึ่งคาดว่ากลุ่มที่ก่อเหตุน่าจะเป็นกลุ่มเดิมๆ
ทั้งนี้ ยังให้ชุดสืบสวนสอบสวนทั้งใน และนอกเครื่องแบบลงพื้นที่หาข่าวติดตามพฤติกรรมแนวร่วมก่อความไม่สงบ เพื่อแกะรอยหากลุ่มที่กระทำผิด โดยจากการข่าวเบื้องต้นพบความเชื่อมโยงของกลุ่มก่อเหตุกับกลุ่มก่อความไม่สงบในหลายท้องที่ ซึ่งจากนี้ไปจะเพิ่มมาตรการให้มีการจัดกำลังลงพื้นที่ปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่เป้าหมายให้มากขึ้น เพื่อเป็นการกดดัน และปิดกั้นโอกาสในการจะออกมาก่อเหตุได้ยากยิ่งขึ้น
ขณะที่แนวทางป้องกันได้กำชับให้ ผกก.สภ.ทุกแห่ง มีการประสานกองกำลังต่างๆ เข้ามาร่วมในการเฝ้าระวังป้องกัน รวมไปถึงให้มีการจัดสายที่เป็นภาคประชาชนเข้ามาร่วมช่วยเป็นหูเป็นตา ช่วยแจ้งข่าวการก่อเหตุร้ายต่างๆ ซึ่งเชื่อว่าการออกมาก่อเหตุในช่วงนี้ก็เพื่อหวังสร้างความวุ่นวาย และให้เจ้าหน้าที่เข้าตรวจที่เกิดเหตุ และจะมีการก่อเหตุอย่างระเบิดซ้ำ จึงได้มีการแจ้งเตือนให้กำลังทุกหน่วย หากมีการก่อเหตุป่วนในลักษณะดังกล่าวในยามค่ำคืน และหากไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ หรือเสียชีวิต ก็ควรจะหลีกเลี่ยง และควรเข้าตรวจสอบในเวลากลางวัน เพื่อเป็นการลดการสูญเสีย
วันนี้ (20 เม.ย.) พล.ต.ต.เอกภพ ประสิทธิ์วัฒนชัย ผบก.ภ.จ.ปัตตานี เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ชุดตรวจพิสูจน์หลักฐานเร่งเก็บหลักฐาน และพยานวัตถุ เหตุคนร้ายป่วนในพื้นที่ 4 อำเภอ 18 จุด เพื่อเร่งเปรียบเทียบกับหลักฐานที่เก็บได้จากเหตุป่วนต่างๆ ก่อนหน้านี้ ซึ่งคาดว่ากลุ่มที่ก่อเหตุน่าจะเป็นกลุ่มเดิมๆ
ทั้งนี้ ยังให้ชุดสืบสวนสอบสวนทั้งใน และนอกเครื่องแบบลงพื้นที่หาข่าวติดตามพฤติกรรมแนวร่วมก่อความไม่สงบ เพื่อแกะรอยหากลุ่มที่กระทำผิด โดยจากการข่าวเบื้องต้นพบความเชื่อมโยงของกลุ่มก่อเหตุกับกลุ่มก่อความไม่สงบในหลายท้องที่ ซึ่งจากนี้ไปจะเพิ่มมาตรการให้มีการจัดกำลังลงพื้นที่ปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่เป้าหมายให้มากขึ้น เพื่อเป็นการกดดัน และปิดกั้นโอกาสในการจะออกมาก่อเหตุได้ยากยิ่งขึ้น
ขณะที่แนวทางป้องกันได้กำชับให้ ผกก.สภ.ทุกแห่ง มีการประสานกองกำลังต่างๆ เข้ามาร่วมในการเฝ้าระวังป้องกัน รวมไปถึงให้มีการจัดสายที่เป็นภาคประชาชนเข้ามาร่วมช่วยเป็นหูเป็นตา ช่วยแจ้งข่าวการก่อเหตุร้ายต่างๆ ซึ่งเชื่อว่าการออกมาก่อเหตุในช่วงนี้ก็เพื่อหวังสร้างความวุ่นวาย และให้เจ้าหน้าที่เข้าตรวจที่เกิดเหตุ และจะมีการก่อเหตุอย่างระเบิดซ้ำ จึงได้มีการแจ้งเตือนให้กำลังทุกหน่วย หากมีการก่อเหตุป่วนในลักษณะดังกล่าวในยามค่ำคืน และหากไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ หรือเสียชีวิต ก็ควรจะหลีกเลี่ยง และควรเข้าตรวจสอบในเวลากลางวัน เพื่อเป็นการลดการสูญเสีย