ศูนย์ข่าวภูเก็ต - สภาวะเงินบาทแข็งตัว ส่งผลนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติลดค่าใช้จ่าย ส่วนบรรดาร้านค้าปลีกขนาดเล็กเร่งลดราคาสินค้าหวังเพิ่มยอดขาย
วันนี้ (30 เม.ย.) นายภูริต มาศวงศ์ศา ผู้จัดการทั่วไปโรงแรมป่าตองรีสอร์ท และอุปนายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ช่วงที่เงินบาทแข็งตัวมีผลกระทบต่อนักท่องเที่ยวบางส่วนที่ตัดสินใจซื้อแพกเกจการเดินทางในระยะสั้นๆ เพราะช่วงเงินบาทแข็งตัวทำให้อัตราการแลกเปลี่ยนสูงขึ้น ทำให้ต้องจ่ายเงินเพิ่มขึ้นในการซื้อเพกเกจท่องเที่ยว ซึ่งในช่วงนั้น ราคาที่ตั้งไว้ถ้าเป็นเงินในสกุลต่างชาติก็คงถูกจ่ายเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับอัตราเงินบาท แต่ก็แค่ในระยะเวลาสั้นๆ 2 อาทิตย์ ก็กลับมาสู่สภาวะปกติ โดยราคาส่วนต่างทั้งหลายก็จะมีเปอร์เซ็นต์ที่โรงแรม หรือผู้ให้บริการเขาทำบันทึกอยู่แล้ว เพื่อกันการผันผวนของราคาเงิน และอัตราแลกเปลี่ยนด้วย เพราะฉะนั้น จึงมีผลกระทบน้อยมากต่อผู้ที่ทำการติดต่อแบบถาวร
สำหรับผู้ที่ซื้อแพกเกจแบบออนไลน์นี้ อันนี้จะมีผลกระทบในการตัดสินใจในช่วง 2 อาทิตย์นั้นก่อนเกิดการเปลี่ยนแปลง เพราะฉะนั้น เมื่อเทียบกับอัตราส่วนที่เป็นลูกค้าประจำแล้ว ลูกค้าออนไลน์จะมีน้อยกว่า เมื่อเทียบกับลูกค้าที่เดินทางเข้ามาภูเก็ตโดยตรง ซึ่งถ้ามองในภาพรวมแล้วถือว่ามีผลกระทบน้อยมาก และช่วงนี้อัตราการแข็งตัวไม่ได้ยืนระยะ ถ้ายืนระยะนี้ก็อาจจะกระทบต่อการทำแพกเกจท่องเที่ยวระยะยาวในอนาคต
นอกจากนี้ นายภูริต กล่าวต่อว่า เงินบาทเริ่มแข็งตัวหลังจากประเพณีสงกรานต์ โดยช่วงสงกรานต์ตั้งแต่วันที่ 12 เม.ย.2556 จะเห็นว่า มีนักท่องเที่ยวเข้ามาเป็นจำนวนมาก แต่พอหลังวันที่ 15 เม.ย.2556 นักท่องเที่ยวลดลง ทุกคนก็เลยคิดว่าเกิดจากพิษเงินบาทหรือไม่ ซึ่งความจริงแล้วไม่ใช่ ปกติคือ ช่วงวันหยุดยาวนักท่องเที่ยวเดิมมีอยู่แล้ว 60-70 เปอร์เซ็นต์ บวกกับชาวไทยที่เข้ามาอีก 20-25 เปอร์เซ็นต์ก็เกือบเต็มร้อย เมื่อหลังสงกรานต์นักท่องเที่ยวไทย สิงคโปร์ มาเลเซีย หรือจีนที่อยู่ใกล้ๆ ก็เดินทางกลับไป ก็ลดไป 20-25 เปอร์เซ็นต์ ก็ประจวบเหมาะกันพอดีกับค่าเงินบาท ขณะนี้นักท่องเที่ยวในโรงแรมอยู่ที่ 80 เปอร์เซ็นต์ ของภูเก็ตอยู่ที่ 75 เปอร์เซ็นต์
ด้าน นายนุชา เพ็ชรวิมล รองประธานชมรมเจ็ตสกีหาดป่าตอง กล่าวว่า ปัจจุบัน ณ ตอนนี้เริ่มจะเข้าสู่ช่วงโลว์ซีซัน ดังนั้น นักท่องเที่ยวที่เข้ามาจะมีปริมาณลดน้อยลง ไม่มากเหมือนตอนไฮซีซัน และปัจจุบันค่าเงินบาทที่ตกลงมาแต่ไม่ได้มากมาย จึงไม่มีผลกระทบต่ออาชีพต่างหน้าหาด เพราะว่านักท่องเที่ยวก็ดูราคาก่อนถึงจะตัดสินใจเล่น หรือใช้บริการ บางคนที่คิดว่าแพงก็ไม่เล่น บางคนพอใจที่จะเล่นก็เล่น ถ้าถามว่ามีผลกระทบไหมนั้น ส่วนตัวแล้วคิดว่าไม่มี ซึ่งสมมติถ้าเปรียบเทียบอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราก่อนหน้านี้อาจจะแลกได้ 3,000 บาท ตอนนี้อาจจะแลกได้แค่ 2,900 บาท ซึ่งก็แค่ 100 บาท จึงคิดว่าไม่กระทบแน่นอน แต่ยอมรับว่าปริมาณนักท่องเที่ยวที่มาใช้บริการลดน้อยลง แต่ยังสามารถทำมาหากินกันได้ ชาวบ้านยังคงทำงานได้เป็นปกติ
ขณะที่ นายธงชัย ราดลงกรต ลูกจ้างร้านขายเสื้อผ้า และนาฬิกาภายในซอยบางลา กล่าวว่า ขณะนี้ยอดขายลดลงกว่า 30 เปอร์เซ็นต์ อาจจะเป็นเพราะเงินบาทที่แข็งตัวที่อัตราแลกเปลี่ยนเงินยูโรต่ำอยู่ที่ 39-40 ตอนนี้เหลือ 37 ก็ยิ่งต่ำ ทำให้ลูกค้าซื้อน้อยลง ถ้าบอกราคาแพงไปเขาจะไม่ซื้อ เพราะเมื่อเขาเปรียบเทียบเงินเขาแล้วมันเยอะขึ้นกว่าเดิม ส่วนใหญ่เป็นลูกค้ากลุ่มเดิม แต่การใช้จ่ายจะใช้จ่ายน้อยลง ทางร้านก็พยายามลดราคาสินค้าลงเล็กน้อยเพื่อให้สามารถเพิ่มยอดขายได้
