xs
xsm
sm
md
lg

SCBAM-ดิเอราวัณตั้งกองอสังหาฯ ลุยลงทุนโรงแรมไอบิสภูเก็ต-พัทยา

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


บลจ.ไทยพาณิชย์ จับมือ บมจ.ดิ เอราวัณ กรุ๊ป ส่งกองทุนอสังหาฯ เอราวัณ โฮเทล โกรท ลุยลงทุนโรงแรมไอบิส ป่าตอง ภูเก็ต และพัทยา มูลค่ากว่า 1.8 พันล้าน ชูจุดเด่นโรงแรมขนาดกลาง-ราคาไม่เเพง เผยทาร์เกตนักท่องเที่ยวกลุ่มบริค รัสเซีย และคนไทย เปิดจองตั้งแต่วันที่ 15-22 มีนาคมนี้ ราคาเสนอขาย 10.40 บาทต่อหน่วยลงทุน

นางโชติกา สวนานนท์ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์จัดกองทุน (บลจ.) ไทยพาณิชย์ จำกัด กล่าวว่า บริษัท ดิ เอราวัณ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) และกลุ่มไทยพาณิชย์ ได้ร่วมมือกันจัดตั้งกองทุนอสังหาริมทรัพย์เอราวัณ โฮเทล โกรท (ERWPE) เพื่อลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ประเภทโรงแรมจำนวน 2 แห่ง ได้แก่ โรงแรมไอบิส ป่าตอง และโรงแรมไอบิส พัทยา

โดยกองทุน ERWPE จะรับโอนกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สิน (Freehold) ของทั้งสองโรงแรม ซึ่งประกอบไปด้วยที่ดินพร้อมอาคารสิ่งปลูกสร้าง งานระบบสาธารณูปโภคที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมโรงแรมและเฟอร์นิเจอร์ ทรัพย์สินติดตรึงตา และอุปกรณ์ต่างๆ จากบริษัท ดิเอราวัณ กรุ๊ป สำหรับโรงแรมไอบิส ป่าตอง ตั้งอยู่ใจกลางหาดป่าตอง จังหวัดภูเก็ต ตัวโรงแรมมีลักษณะเป็นอาคารสูง 5 ชั้นอยู่บนพื้นที่ 3 ไร่ 3 งาน และ 28.6 ตารางวา มีพื้นที่ใช้สอยทั้งหมดประมาณ 10,400 ตารางเมตร และห้องพัก 260 ห้อง ส่วนโรงแรมไอบิสพัทยา ตั้งอยู่ใกล้ชายหาดพัทยา ตัวโรงแรมประกอบด้วย อาคารสูง 7 ชั้นอยู่บนพื้นที่ 2 ไร่ 2 งาน และ 34.3 ตารางวา มีพื้นที่ใช้สอยทั้งหมด 10,00 ตารางเมตร และห้องพักจำนวน 254 ห้อง

ทางด้านนางกมลวรรณ วิปุลากร กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ดิเอราวัณ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในปี 2555 โรงแรมไอบิส ป่าตอง และโรงแรมไอบิส พัทยา มีรายได้รวมสูงถึง 114.2 ล้านบาท และ 106.3 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเติบโตเฉลี่ย (CAGR) ในช่วงปี 2552 ถึง 2555 เท่ากับ 11% และ 22% ตามลำดับ

อย่างไรก็ตาม ปัญหาเรื่องของการชะลอตัวทางเศรษฐกิจยุโรป และเรื่องค่าเงินบาทแข็งตัวนั้นไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวเท่าไหร่ โดยกลุ่มนักท่องเที่ยวจากลุ่มประเทศจีน อินเดีย และรัสเซีย ซึ่งเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวใหม่ที่มีความสำคัญต่อประเทศและมีแนวโน้มที่จะขยายตัวมากขึ้นในอนาคต

นอกจากการเพิ่มขึ้นของนักท่องเที่ยวต่างชาติแล้ว นักท่องเที่ยวไทยมีการเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศมากขึ้นซึ่งเป็นผลจากการส่งเสริมการท่องเที่ยวในประเทศจากรัฐบาลอย่างจริงจังในช่วงหลายปีที่ผ่านมา โดยนักท่องเที่ยวไทยส่วนใหญ่จะเลือกพักในโรงแรมชั้นประหยัดและระดับกลางมากกว่าโรงแรมระดับบน ซึ่งสภาวะดังกล่าวเป็นปัจจัยสำคัญที่สนับสนุนต่อการดำเนินธุรกิจของโรงแรมในกลุ่มนี้ของบริษัท

ทางด้านนายไกรลักขณ์ อัศวฉัตรโรจรน์ รองกรรมการผู้จัดการสายบริหารเงิน และเทคโนโลยีสารสนเทศ และประธานเจ้าหน้าที่การเงินบริษัท ดิเอราวัณ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในอนาคตอันใกล้นั้นเรามีโครงการที่จะนำโรงแรมมาทำกองทุนอสังหาฯเพิ่มเติม หรืออาจจะมีการเพิ่มทุนเพื่อซื้อสินทรัพย์เพิ่มเติมด้วยเช่นกัน สำหรับฐานลูกค้าส่วนใหญ่นั้นเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มอินเดีย และจีน ที่เติบโตกว่า 400% ขณะที่กลุ่มบริคและคนไทยนั้นที่พัทยาเติบโตกว่า 45% ส่วนที่ภูเก็ตเติบโตประมาณ 75%

ส่วนายเมธี วินิชบุตรผู้ช่วยกรรมการ กลุ่มผู้อำนวยการ กลุ่มอสังหาริมทรัพย์และโครงสร้างพื้นฐาน บลจ.ไทยพาณิชย์ กล่าวว่า กองทุนอสังหาริมทรัพย์เอราวัณ โฮเทล โกรท จะได้รับค่าเช่าคงที่ตลอดระยะเวลาการเช่าและได้รับค่าเช่าแปรผันเพิ่มเติมตามที่กำหนดในสัญญา พร้อมรับประกันรายได้ค่าเช่าขั้นต่ำที่จ่ายเข้ากองทุนรวมในช่วง 4 ปีแรก นับตั้งแต่วันที่กองทุนเข้าลงทุนในทรัพย์สินจาก บริษัท ดิ เอาราวัณ กรุ๊ป จำนวน 111.5 ล้านบาทต่อปี ซึ่งกระบวนการรับประกันรายได้ดังกล่าวเป็นการเพิ่มความแน่นอนในการจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหน่วยที่กำหนดจ่ายอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง ขณะเดียวกันกองทุนดังกล่าวมีนโยบายชัดเจนในการประมูลหนึ่งในสินทรัพย์ที่ลงทุนในทุกๆ รอบ 5 ปี ซึ่งเพิ่มโอกาสในการสร้างรายได้เพิ่มเติมให้แก่กองทุนรวมนอกเหนือจากรายได้ค่าเช่า เนื่องจากทรัพย์สินมีศักยภาพในการเพิ่มมูลค่าในอนาคต

สำหรับภาพรวมกองทุนอสังหาฯ ได้รับความสนใจจากนักลงทุนทั้งสถาบัน และรายย่อยเป็นจำนวนมาก เนื่องจากดอกเบี้ยยังอยู่ในระดับต่ำ ซึ่งกองทุนอสังหาฯ มีความคึกคักต่อ และเป็นปีที่สุดท้ายที่จะเปิดขายกองทุนอสังหาฯ ในลักษณะนี้

นางสาววรดา ตั้งสืบสกุล ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ สาย Investment Banking Coverage 2 ฝ่ายวาณิชธนกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า กองทุน ERWPE จะเปิดเสนอขายให้กับนักลงทุนทั่วไประหว่างวันที่ 15-22 มีนาคม 2556 ในราคา 10.40 บาทต่อหน่วย โดยมีจำนวนเงินของโครงการทั้งสิ้นไม่เกิน 1,831,440,000 ล้านบาท โดยจำนวนจองซื้อขั้นต่ำ 4,000 หน่วย และเพิ่มเป็นทวีคูณ 1,000 หน่วย ซึ่งเป็นวิธีการเสนอขายและจัดสรรหน่วยลงทุนให้กับผู้จองซื้อทั่วไป

ปลื้ม AUM ปี 55 เติบโตต่อเนื่อง

นางโชติกา กล่าวต่อว่า ในปี 55 ที่ผ่านมา บริษัทฯ มีสินทรัพย์สุทธิภายใต้การบริหารรวม (AUM) เพิ่มขึ้นเป็น 666,239.87 ล้านบาท จากสิ้นปี 54 ที่ 582,869.14 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 14.30% โดยเป็นการปรับตัวเพิ่มขึ้นในทุกธุรกิจโดยในส่วนของธุรกิจกองทุนรวมมีสินทรัพย์สุทธิ 555,996.16 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15.14% ธุรกิจกองทุนส่วนบุคคลมีสินทรัพย์สุทธิ 38,637.76 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12.94% และธุรกิจกองทุนสำรองเลี้ยงชีพมีสินทรัพย์สุทธิ 71,605.95 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.90%


กำลังโหลดความคิดเห็น