พ่อเมืองภูเก็ตลงพื้นที่ตรวจสอบการแก้ปัญหาน้ำเสียก่อนลงคลองบางใหญ่

ศูนย์ข่าวภูเก็ต - พ่อเมืองภูเก็ตลงพื้นที่ตรวจสอบการระบายน้ำเสียลงสู่คลองบางใหญ่ ในพื้นที่ตำบลรัษฎา กำหนดแก้ปัญหาไว้ 2 ระยะ ทั้งระยะสั้น และระยะปานกลาง

นายไมตรี อินทุสุต ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวถึงการลงพื้นที่ตรวจสอบลำรางสาธารณะในพื้นที่ตำบลรัษฎา บริเวณหลังบ้านพักข้าราชการสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย จังหวัดภูเก็ต และบริเวณใกล้เคียงทั้งหมด โดยมี น.ส.สมใจ สุวรรณศุภพนา นายกเทศมนตรีนครภูเก็ต นายภูดิท รักษาราษฎร์ นายกเทศมนตรี ตำบลรัษฎา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมลงพื้นที่ตรวจสอบ

โดยจุดดังกล่าวเป็นจุดที่มีน้ำเสียซึ่งถูกปล่อยมาจากบ้านเรือนของประชาชนไหลผ่านก่อนที่น้ำเสียทั้งหมดจะไหลลงสู่คลองบางใหญ่ ขณะลงพื้นที่ตรวจสอบ พบว่า บริเวณดังกล่าวมีน้ำเสียสีดำไหลผ่านลำรางสาธารณะตลอดเวลา และส่งกลิ่นเหม็นไปทั่วบริเวณ
นายไมตรี กล่าวว่า การลงพื้นที่ตรวจสอบปัญหาน้ำเสียในครั้งนี้เพื่อเป็นแนวทางการแก้ปัญหาเรื่องของน้ำเสีย ซึ่งไหลผ่านลำรางสาธารณะจากพื้นที่ตำบลรัษฎา ลงสู่คลองบางใหญ่นั้น ทุกฝ่ายจะต้องร่วมกันแก้ทั้งระบบ โดยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันทำงานแบบบูรณาการเพื่อแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นในพื้นที่ทั้งหมด

อย่างไรก็ตาม ในเบื้องต้นเทศบาลตำบลรัษฎาจะทำการเปลี่ยนขนาดท่อระบายน้ำที่ไหลผ่านบริเวณหลังสำนักงาน สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย จังหวัดภูเก็ต จากขนาด 1.2 เมตร เป็น 1.5 เมตร พร้อมจัดทำบล็อกคอนเวิร์สเพื่อให้น้ำเสียสามารถไหลได้สะดวก และเร็วขึ้น รวมทั้งเป็นการป้องกันเรื่องของน้ำท่วมไปพร้อมกันด้วย

นายไมตรี กล่าวต่อไปอีกว่า สำหรับการแก้ไขปัญหาน้ำเสียในพื้นที่ตำบลรัษฎานั้น แบ่งเป็น 2 ระยะ ประกอบด้วย แนวทางแก้ไขในระยะสั้นต้องแก้ไขอย่างเร่งด่วน โดยเร่งดำเนินการขุดลอกตะกอนท้องน้ำ และปรับปรุงลำรางสาธารณะก่อนเข้าโรงสูบน้ำ เพื่อเอาตะกอนส่วนเกินออก เติมออกซิเจนในลำรางสาธารณะ โดยการปั๊มน้ำให้สัมผัสกับอากาศ ทำให้จุลินทรีย์ชนิดที่ใช้ออกซิเจนในการย่อยสลายของเสียในน้ำย่อยสลายได้ดีมากขึ้น รวมทั้งสูบน้ำจากลำรางสาธารณะลงสู่คลองบางใหญ่อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้น้ำในลำรางไหลเวียนไม่ให้เกิดสภาพนิ่ง โดยเมื่อฝนตกหนักให้ระบาย และสูบน้ำในลำรางลงคลองบางใหญ่ในปริมาณที่มากยิ่งขึ้น โดยใช้น้ำหมักชีวภาพเพื่อลดกลิ่น และเพิ่มการย่อยสลายของเสียที่ปนอยู่ในน้ำเสีย

สำหรับแนวทางแนวทางแก้ไขปัญหาในระยะกลาง ต้องเร่งรณรงค์ประชาสัมพันธ์การลดน้ำเสีย ตั้งแต่ในครัวเรือน สถานประกอบการ ร้านอาหาร และชุมชนที่อยู่ริมน้ำ โดยการติดตั้งถังดักไขมันในห้องครัวเพื่อช่วยลดค่าบีโอดี (BOD) ที่ไหลลงแหล่งน้ำ รวมทั้งรณรงค์ให้ชุมชนซึ่งมีอาคารบ้านเรือนที่ตั้งอยู่ริมน้ำ ลด และคัดแยกขยะอินทรีย์จากครัวเรือนเพื่อลดความสกปรกลงสู่แหล่งน้ำควบคู่กับการบังคับใช้กฎหมายในการตรวจสอบการปล่อยน้ำทิ้งของโรงงาน โครงการบ้านจัดสรร และแหล่งกำเนิดมลพิษอื่น รวมถึงตรวจสอบโครงการต่างๆ ที่ได้ออกใบอนุญาตก่อสร้าง ดัดแปลงอาคาร เปลี่ยนการใช้อาคารดำเนินการให้เป็นไปตามมาตรการป้องกันและแก้ไขผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม สุดท้ายการบริหารจัดการน้ำเสียตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำควรมีการทำงานประสานกันแบบไตรภาคีซึ่งเป็นแนวทางการบริหารจัดการน้ำเสียแบบยั่งยืนต่อไป