ระนอง - ผู้บังคับการหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 25 “พ.อ.เกรียงไกร ศรีรักษ์” เผยเตรียมจัดประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนท้องถิ่นไทย-พม่า หรือทีซีบี พร้อมผลักดันจุดผ่อนปรนการค้าตามแนวชายแดนด้านจังหวัดระนอง-เกาะสอง รองรับการเปิดประชาคมอาเซียน
วันนี้ (26 เม.ย.) พ.อ.เกรียงไกร ศรีรักษ์ ผู้บังคับการหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 25 กองกำลังเทพสตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการชายแดนส่วนท้องถิ่นไทย-พม่า ด้าน จ.ระนอง-เกาะสอง หรือทีบีซี เปิดเผยว่า ทางคณะกรรมการชายแดนส่วนท้องถิ่นของทั้ง 2 ประเทศ ได้กำหนดการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนท้องถิ่นไทย-พม่า หรือทีบีซี ในระดับท้องถิ่น ครั้งที่ 31 ขึ้นที่ จ.เกาะสอง ประเทศพม่า เพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน รวมถึงการหารือในประเด็นปัญหาความขัดแย้งที่เกิดขึ้น รวมทั้งเพื่อหาแนวทางในการร่วมแก้ไขปัญหา ประกอบกับเตรียมความพร้อมในการเข้าสู่ประชาคมอาเซียนในปี 2558 ที่คาดว่า จ.ระนอง และ จ.เกาะสอง จะเป็นเมืองหน้าด่านทางตอนใต้ที่สำคัญ
ขณะเดียวกัน พ.อ.เกรียงไกร กล่าวต่อว่า ในส่วนของประเด็นหารือร่วมของฝ่ายไทยที่สำคัญคือ การผลักดันเปิดจุดผ่อนปรนทางการค้าตามแนวชายแดนเพิ่มที่ อ.ละอุ่น และ อ.กระบุรี เพื่อรับการขยายตัวทางการค้า การลงทุน หลังการเข้าสู่การเป็นประชาคมอาเซียนในปี 2558 ซึ่งขณะนี้ฝ่ายไทยมีความพร้อมที่จะดำเนินการเพื่อเตรียมรองรับการขยายตัวทางด้านต่างๆ ระหว่าง 2 ประเทศ
ด้าน พ.ต.เพ็ตทูซ่า ประธานคณะกรรมการชายแดนส่วนท้องถิ่นพม่า-ไทย กล่าวว่า ในส่วนของฝ่ายพม่าสิ่งที่นำเข้าหารือฝ่ายไทยคือ ประเด็นปัญหาข้อขัดแย้งต่างๆ ที่จะต้องเร่งดำเนินการเพื่อลดปัญหาการกระทบกระทั่ง หรือนำไปสู่ความขัดแย้งระหว่างกันในอนาคต ประกอบด้วย ปัญหาเกาะทั้ง 3 แห่ง คือ เกาะคัน เกาะหลาม และเกาะขี้นก ที่ทั้งฝ่ายไทย และพม่าอ้างเป็นเจ้าของ ซึ่งทางฝ่ายพม่ายืนยันตามแผนที่ของอังกฤษ และอินเดียที่จัดทำไว้ว่า เกาะทั้ง 3 แห่งเป็นของพม่าไม่ใช่ของไทย จึงแจ้งฝ่ายไทยให้ระมัดระวังในการดำเนินการใดๆ บนเกาะทั้งสาม
นอกจากนี้ ยังมีประเด็นปัญหาเรื่องการก่อสร้างเขื่อนกันน้ำเซาะชายฝั่งของฝ่ายไทยที่บ้านปากจั่น ซึ่งเป็นสถานที่กันน้ำเซาะชายฝั่งริมแม่น้ำกระบุรีนั้น ล่าสุด พบว่าได้ส่งผลกระทบยังฝั่งพม่าที่ทำให้กระแสน้ำตีกลับสร้างความเสียหายให้แก่พม่า จึงต้องการให้ไทยหยุดดำเนินการ รวมถึงการขอให้ไทยดูแลสวัสดิภาพของชาวพม่าที่เข้ามาทำงานใน จ.ระนอง ซึ่งพบว่าถูกนายจ้างเอารัดเอาเปรียบ ทำร้ายร่างกาย บางรายถึงขั้นเสียชีวิต