ตรัง - หนูน้อยวัยปีเศษชาวตรัง ป่วยเป็นโรคหัวแตงโมจนมีขนาดใหญ่เกือบ 2 ฟุต ขณะที่หมอก็ผ่าตัดช่วยเหลือไม่ได้ เพราะมีสภาพร่างกายไม่พร้อม วอนผู้ใจบุญช่วยเหลือเพราะมีฐานะยากจน
เมื่อเวลา 11.30 น. วันนี้ (11 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังหอผู้ป่วยทารกแรกเกิด ห้องผู้ป่วยหนักทารกแรกเกิด ศูนย์กระตุ้นพัฒนาการเด็ก ชั้น 1 ตึก 298 โรงพยาบาลตรัง เพื่อไปดูอาการของเด็กคนหนึ่งซึ่งป่วยเป็นโรคน้ำขึ้นในสมอง หรือโรคหัวแตงโม และล่าสุด มีอาการไข้ ตัวร้อนสูง ไอ และปอดบวม โดยที่เตียงหมายเลข 13 ผู้สื่อข่าวได้พบกับ ด.ช.กรกฤต หรือน้องกร ช่วยพันธ์ อายุ 1 ปี 15 วัน อาศัยอยู่บ้านเลขที่ 259 ถ.พัทลุง ต.ทับเที่ยง ใกล้กับสถานีขนส่งแห่งใหม่ ในเขตเทศบาลนครตรัง กำลังนอนอยู่บนเตียงผู้ป่วยในสภาพที่อิดโรย และต้องให้อาหารทางสายยาง
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ทำให้ผู้พบเห็นเกิดความรู้สึกสลดใจอย่างมากก็คือ ที่บริเวณศีรษะของน้องกร มีขนาดใหญ่โตขึ้นกว่า 56 เซนติเมตรแล้ว ทั้งๆ ที่มีน้ำหนักเพียงแค่ 4.5 กิโลกรัมเท่านั้น โดยมี นางยุพา ซ้ำมุ้ง อายุ 41 ปี ผู้เป็นแม่ และ นางจรวย ซ้ำมุ้ง อายุ 72 ปี ผู้เป็นยาย คอยเฝ้าดูแลอยู่อย่างใกล้ชิด ซึ่ง น้องกร เองก็มีอาการร้องงอแงอยู่เป็นระยะๆ อันเนื่องมาจากอาการป่วย ประกอบกับสภาพอากาศที่ค่อนข้างจะอบอ้าวด้วย แต่ไม่สามารถเปิดพัดลมเพื่อช่วยคลายร้อนได้เลย เนื่องจาก น้องกร ยังมีอาการตัวร้อน และหายใจไม่สะดวก จึงหวั่นเกรงว่าจะทำให้อาการป่วยรุนแรงมากขึ้นได้
นางจรวย ซ้ำมุ้ง ผู้เป็นยายเล่าว่า น้องกร ถือเป็นลูกเพียงคนเดียวของ นางยุพา โดยเกิดด้วยการผ่าท้อง และมีน้ำหนักเพียง 2,600 กรัม แต่ขณะนั้นร่างกายยังสมบูรณ์แข็งแรงเป็นปกติ กระทั่ง น้องกร มีอายุได้ 4 เดือน ก็พบว่าศีรษะเริ่มมีขนาดใหญ่โตขึ้น จึงนำตัวไปให้แพทย์ที่โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ (ม.อ.) หาดใหญ่ ตรวจ จึงได้ทราบว่าป่วยเป็นโรคน้ำขึ้นในสมอง หรือโรคหัวแตงโม จากนั้น น้องกร ก็มีศีรษะโตขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งถึงปัจจุบัน ขณะเดียวกัน ยังพบความผิดปกติของหัวใจด้วย โดยได้ไปอยู่ทางด้านขวา แทนที่จะอยู่ทางด้านซ้ายเหมือนกับเด็กคนอื่น พร้อมทั้งล่าสุด ยังมีอาการของโรคไตแทรกซ้อนด้วย
นางจรวย เล่าว่า ถึงแม้โรงพยาบาล ม.อ.หาดใหญ่ จะช่วยเหลือรับเป็นคนไข้พิเศษ และดูแลอย่างเต็มที่แล้ว แต่อาการก็ไม่ดีขึ้น เพราะการรักษาจะต้องทำด้วยวิธีการผ่าตัดเพื่อเอาน้ำในสมองออกมา และได้มีการประสานให้แพทย์ที่โรงพยาบาลตรัง ช่วยผ่าตัดมาแล้ว 4 ครั้ง แต่ไม่สามารถทำได้ เนื่องจากสภาพร่างกายของหลานชายไม่พร้อม เพราะยังคงมีอาการไข้ และมีเสมหะอยู่เป็นประจำ หรือจนกว่าจะสามารถทำให้หลานชายมีความแข็งแรงมากขึ้น และสามารถเพิ่มน้ำหนักตัวขึ้นไปอีก 10 กิโลกรัมก่อน ถึงจะสามารถทำการผ่าตัดได้ แต่หากฝืนไปดำเนินการก็อาจจะทำให้เกิดอันตราย จึงต้องยอมดูแลรักษาด้วยวิธีการอื่นๆ ไปตามสภาพ
ด้าน นางยุพา ซ้ำมุ้ง ผู้เป็นแม่ บอกกับผู้สื่อข่าวว่า อยากให้ลูกชายหายป่วย และมีชีวิตเหมือนเด็กทั่วไป เพราะขณะนี้กินได้แค่นมผงละลายน้ำผ่านท่อสายยางเท่านั้น อีกทั้งโรคน้ำขึ้นในสมอง หรือโรคหัวแตงโม ต้องใช้เงินในการรักษาจำนวนมากและต่อเนื่องยาวนาน เพราะตนไม่ได้ไปทำงานที่โรงน้ำดื่มอีกแล้ว ต้องออกมาช่วยดูแล น้องกร เหลือแต่พ่อของเขาที่ทำงานเพียงคนเดียวเท่านั้น ขณะที่ทางบ้านฐานะก็ยากจน โดยผู้ใจบุญสามารถบริจาคเงินช่วยได้ผ่านบัญชี “ยุพา ซ้ำมุ้ง” ธนาคารกรุงไทย สาขาสิริบรรณชอปปิ้งเซ็นเตอร์ หมายเลขบัญชี 846-0-01204-2 หรือโทรศัพท์หมายเลข 08-7387-1852