ทุกๆ ปี คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ จัดพิธีพระราชทานเพลิงศพเป็นกรณีพิเศษ แก่ผู้อุทิศร่างกายเพื่อการศึกษา หรืออาจารย์ใหญ่ สำหรับปีการศึกษา 2555 นี้ จัดขึ้นเมื่อวันที่ 10 มีนาคมที่ผ่านมา เพื่ออุทิศบุญกุศล และเป็นเกียรติแก่ผู้บริจาคร่างกายเพื่อการศึกษา และวงศ์ตระกูลผู้สร้างคุณูปการทางด้านการศึกษา สำหรับปีนี้ มีผู้อุทิศร่างกายทั้งหมด 69 ร่าง ผู้บริจาคร่างกายเพื่อการศึกษา หรืออาจารย์ใหญ่ คือ ร่างกายอันไร้วิญญาณของมนุษย์ การบริจาคร่างกายของท่านถือเป็นการเสียสละอันยิ่งใหญ่ เพื่อรักษาไว้ซึ่งชีวิตของอนุชนรุ่นหลัง และเพื่อความเจริญก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์การแพทย์ ผู้ที่ได้อุทิศร่างกายด้วยเจตนาบริสุทธิ์ที่จะก่อประโยชน์เป็นครั้งสุดท้ายของชีวิต เพื่อให้นักศึกษาที่เรียนกายวิภาคศาสตร์ ใช้ศึกษาเล่าเรียน และค้นคว้าวิจัย
ผศ.ดร.อุราพร วงศ์วัชรานนท์ หัวหน้าภาควิชากายวิภาคศาสตร์ กล่าวว่า หลังจากนักศึกษาเรียนร่างของอาจารย์ใหญ่ศึกษาเสร็จเรียบร้อยแล้ว เราก็จะจัดพิธีบำเพ็ญกุศล และพิธีพระราชทานเพลิงศพอาจารย์ใหญ่เป็นประจำทุกปี สำหรับปีนี้มีร่างอาจารย์ใหญ่ 96 ร่าง ขณะนี้ก็มีผู้ประสงค์บริจาคร่างกายอยู่เรื่อยๆ แต่อย่างไรก็ตามเราก็ต้องการจำนวนมาก เพราะร่างกายที่มีผู้อุทิศเข้ามาเป็นประโยชน์มากๆ แก่นักศึกษา ทุกคณะเลย วิทยาศาสตร์การแพทย์ เภสัช พยาบาล นักศึกษาทุกคนจะต้องเรียนวิชากายวิภาค เป็นวิชาพื้นฐานที่สำคัญสำหรับนักศึกษาทุกคน
อาจารย์ใหญ่ร่างของท่านเป็นสื่อการสอนที่ดีที่สุด ที่ไม่สามารถจะหาสื่อการสอนใดๆ มาทดแทนได้ เพราะว่าได้ศึกษาจากของจริง เพราะฉะนั้น แต่ละปีเราจะมีนักศึกษาเพิ่มขึ้นทุกปี ร่างของอาจารย์เราจึงมีความต้องการเพิ่มขึ้นทุกปีเช่นกัน จึงขอประชาสัมพันธ์ไว้ ณ ที่นี้เลย
นอกจากนี้ ภาควิชาก็มีการขยับขยายให้บริการการเรียนการสอนแก่แพทย์ด้วย คือ แพทย์ที่ศึกษาเฉพาะทาง แพทย์เหล่านี้จะเรียนกับอาจารย์เพื่อจะศึกษาการผ่าตัด หรือใช้เครื่องมือใหม่ๆ ดังนั้น เราจึงต้องการร่างของอาจารย์ใหญ่เพิ่มขึ้นมาก จึงขอเชิญชวนบริจาคร่างกายกัน ทำกุศลเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง ในส่วนของวงการแพทย์ นอกจากที่นักศึกษาจะได้ความรู้กายวิภาคแล้ว ตรงส่วนนี้เรายังได้ปลูกฝังคุณธรรมจริยธรรมให้นักศึกษาด้วยการเสียสละของอาจารย์ใหญ่ เป็นการปลูกฝังคุณธรรมจริยธรรมที่ดีให้นักศึกษาได้แสดงการกตัญญูรู้คุณด้วย
นักศึกษาที่เรียนผ่าศพทุกคนจะให้ความเคารพดุจอาจารย์ และเรียกศพที่ตนเองเรียนว่า อาจารย์ใหญ่ เพราะนักศึกษาทุกคนได้ซาบซึ้งใจดีถึงเจตนารมณ์ของอาจารย์ใหญ่ที่เสียสละร่างให้พวกเขาได้เรียนรู้ เพื่อที่จะเป็นหมอที่รู้จักเสียสละช่วยเหลือผู้อื่นต่อไป
เปรมอานันต์ มโนเรศ นศ.คณะแพทยศาสตร์ ม.อ.หาดใหญ่ กล่าวว่า ก่อนอื่นต้องขอขอบพระคุณญาติๆ ของอาจารย์ใหญ่รวมถึงผู้ที่เกี่ยวข้องที่ผมมีโอกาสรับร่างมาเรียนกับอาจารย์ใหญ่เพราะว่า การเรียนในตำราถ้าเปรียบเทียบกับการเรียนของจริงแล้ว เรียกได้ว่าไม่เหมือนกันเลย เพราะว่าการเรียนกับร่างอาจารย์จริงๆ เราจะได้เห็นเราจะได้สัมผัส เราจะได้เห็นมากกว่าในตำรา มันเป็นมิติออกมามากกว่า ตรงจุดนี้ที่คิดว่าถ้านักศึกษาแพทย์ไม่ได้เรียนกับอาจารย์ใหญ่ก็จะเป็นปัญหาในการเรียนที่จะลงมือกับคนจริงๆ อาจารย์ใหญ่เป็นผู้เสียสละที่จะมอบร่างกายให้แก่พวกเราได้ศึกษา ก่อนที่เราจะลงมือกับคนจริงๆ
สำหรับอาจารย์ใหญ่ คือ ผู้มีพระคุณแก่พวกเรานักศึกษาแพทย์เป็นอย่างมาก เพราะว่าท่านเป็นผู้เสียสละ และอุทิศร่างกายให้แก่เราได้ศึกษา ขอเป็นตัวแทนของนักศึกษาแพทย์ในการกราบขอบพระคุณอาจารย์ใหญ่มา ณ ที่นี่ด้วย พวกเรานักศึกษาแพทย์ก็มีการแต่งคำไว้อาลัย เพื่อเป็นการสดุดี และเป็นการแสดงออกถึงความกตัญญูกตเวทีแก่อาจารย์ใหญ่เป็นครั้งสุดท้าย และบันทึกไว้ในหนังสืออนุสรณ์ด้วย
อรจิรา มังคละมณ นศ.คณะแพทยศาสตร์ ม.อ.หาดใหญ่ กล่าวว่า รู้สึกเป็นเกียรติ และซาบซึ้งมากที่ท่านได้สละร่างให้พวกเราได้มาศึกษา และรวมถึงญาติๆ ที่ช่วยเหลือในการนำร่างอาจารย์มามอบให้ที่ภาค อาจารย์ใหญ่เป็นผู้ที่ช่วยเหลือในเรื่องของการเรียนรู้ของพวกเรามาก การที่เรียนกับอาจารย์ใหญ่ ทำให้เราเข้าใจหลักอะนาโตมีมากขึ้น เชื่อว่าทุกคนที่ได้เรียนกับอาจารย์ใหญ่ ต้องซาบซึ้งในพระคุณของอาจารย์ และมั่นใจว่าจะนำคุณงามความดีที่อาจารย์ใหญ่สร้างไว้ไปพัฒนาต่อไป เป็นหมอที่ดีในอนาคตแน่นอน
แม้ปัจจุบัน เทคโนโลยีจะพัฒนาไปมากเพียงใดอาจารย์ใหญ่ก็ยังไม่มีเทคโนโลยี หรือสิ่งเทียมใดสามารถทดแทนได้ และทางการศึกษายังมีความต้องการอาจารย์ใหญ่อีกจำนวนมาก สำหรับผู้ประสงค์จะบริจาคร่างกายติดต่อขอรับแบบพินัยกรรมบริจาคร่างกายได้ที่ ภาควิชากายวิภาคศาสตร์ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานรินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา โทร.0-7428-8151, 0-7428-8130
คลิกเพื่อชมคลิป:
อาลัยจากศิษย์
เมื่อกล่าวนามถึงอาจารย์ใหญ่
คือร่างไร้ลมหายใจอันมีค่า
ผู้ที่พร้อมมอบกายใจเพื่อการศึกษา
ให้วิชาทางการแพทย์เป็นอนันต์
จุดเริ่มต้นคือใจกายที่อุทิศ
เพื่อเป็นวิทยาทานแก่รุ่นหลัง
ต่อยอดต่อชีวิตอีกทั้งยัง
สร้างความหวังให้การแพทย์ได้สืบไป
แม้เงินทองมีอยู่ก็ไม่อาจ
จะสามารถเอาไปใช้ในภพหน้า
แต่ความดีที่ทำจะนำพา
สู่หนหน้าเป็นชื่อเสียงแก่ตระกูล
จากวันแรกจนถึงวันสุดท้าย
กว่าร่างกายจะสมบูรณ์ทุกแห่งหน
กว่าจิตใจถูกปรุงแต่งให้เป็นคน
กว่าหลุดพ้นอนิจจังใช้เวลา
ขอขอบคุณด้วยใจที่เคารพ
จากวันนั้นจนวันจบการศึกษา
เราทั้งหลายขอนับถือและบูชา
นำคุณค่าสู่ลูกหลานสานต่อไป