ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - ผู้แทนอธิบดีกรมพลังงานทดแทนฯ จัดเวทีชี้แจงเตรียมมาตรการรับมือวิกฤตพลังงานในช่วงที่พม่าหยุดจ่ายก๊าซแล้ว โดยร้องขอให้พม่าเลื่อนหยุดจ่ายก๊าซช้าลง 36 ชม. และเตรียมแผนจัดเก็บพลังงานสำรอง พร้อมตั้งเครือข่าย Energy Hot Line ช่วยเหลือภาคอุตสาหกรรม และธุรกิจ
วันนี้ (26 มี.ค.) ที่ห้องประชุมสำนักงานอธิการบดี มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (ม.อ.) วิทยาเขตหาดใหญ่ จ.สงขลา ได้มีพิธีส่งมอบรายงานการจัดการพลังงานปี 2555 (ภาคใต้) และการบรรยายพิเศษการรับมือภาวะวิกฤตพลังงาน “เมื่อพม่าหยุดจ่ายก๊าซให้ไทย” ในวันที่ 4-15 เม.ย.2556 นี้ โดยมี รศ.ดร.สุเมธ ไชยประพัทธ์ ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยระบบพลังงาน ม.อ. พร้อมด้วยนายมานิต วงษ์สุรีย์รัตน์ รองประธานสภาอุตสาหกรรมภาคใต้ นายศุภเดช อ๋องสกุล รองเลขาธิการสมาคมยางพาราไทย นายกิตติเทพ ถาวรสุข เลขาธิการสภาอุตสาหกรรม จ.สงขลา นายดำรง ไสยะ วิศวกรระดับ 11 โรงไฟฟ้าจะนะ และนายจักรพันธ์ ชูแก้ว พลังงาน จ.ปัตตานี รวมทั้งตัวแทนภาคอุตสาหกรรมเข้าร่วมประมาณ 90 คน
นายจักรพันธ์ ผู้แทนอธิบดีกรมพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน กล่าวว่า กรมพลังงานในฐานะหน่วยงานภาครัฐที่รับผิดชอบในการรับมือ และแก้ปัญหาสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจากกรณีพม่าหยุดจ่ายก๊าซธรรมชาติในวันที่ 5-14 เม.ย.56 ได้มีมาตรการแก้ไข และบรรเทาผลกระทบจากเหตุการณ์ให้พม่าเลื่อนการหยุดซ่อมบำรุงแหล่งก๊าซออกไป 1 วันครึ่ง เป็นช่วงเวลา 12.00 น. วันที่ 5 เม.ย.2556 ซึ่งจะลดความเสี่ยงของระบบไฟฟ้า ลดการใช้น้ำมันเตาลง 26 ล้านลิตร ลดน้ำมันดีเซล 15 ล้านลิตร และให้ ปตท. สำรองน้ำมันเตา และดีเซลให้แก่โรงไฟฟ้า เพื่อใช้เป็นเชื้อเพลิงทดแทน พร้อมทั้งให้เตรียมก๊าซเอ็นจีวี 350 ล้านลูกบาศก์ฟุต เพื่อนำไปผลิตเอ็นจีวีใช้งาน 12 วัน ส่วนก๊าซหุงต้มที่จะหายไปจากโรงแยกก๊าซ 10,000 ตันนั้น ต้องเตรียมแผนรองรับด้วยการนำเข้าแอลพีจีเพิ่มขึ้น 5,000 ตัน
ขณะที่แผนรับมือด้านไฟฟ้า ได้มอบหมายให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยปรับเปลี่ยนเชื้อเพลิงผลิตไฟฟ้า จากก๊าซธรรมชาติเป็นน้ำมันดีเซล และน้ำมันเตาในโรงไฟฟ้าสำรองโรงไฟฟ้าราชบุรี ราชบุรีเพาเวอร์ และโรงไฟฟ้าไตรเอนเนอร์ยี่ ซึ่งให้ กฟผ. ประสานกับผู้ประกอบการขนาดใหญ่ลดการใช้ไฟฟ้าลง คาดว่าจะสามารถช่วยลดความต้องการใช้ไฟฟ้า 56 เมกะวัตต์ และห้างสรรพสินค้าให้ปิดไฟในห้างบางจุด และปรับอุณหภูมิเครื่องปรับอากาศอยู่ที่ 25 องศาเซลเซียส รวมทั้งจัดตั้งเครือข่าย Energy Hot Line เพื่อบรรเทาผลกระทบต่อสถานประกอบการในภาคอุตสาหกรรม และธุรกิจอีกด้วย