ระนอง - คณะกรรมาธิการกิจการชายแดนไทย สภาผู้แทนราษฎร เดินทางลงพื้นที่เร่งติดตามแก้ไขปัญหาเรื่องยาเสพติด การลักลอบเข้าเมืองแบบผิดกฎหมาย รวมทั้งปัญหาแนวเขตแดนที่เหลื่อมล้ำ เพื่อความพร้อมก่อนเปิดประชาคมอาเซียน
วันนี้ (18 มี.ค.) ที่ห้องประชุม ศาลากลางจังหวัดระนอง นายวิโรจน์ แสงศิวะฤทธิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง กล่าวว่า ทางคณะกรรมาธิการกิจการชายแดนไทย สภาผู้แทนราษฎร ร่วมกับคณะอนุกรรมาธิการกิจการชายแดนไทย ได้เดินทางมาศึกษาดูงานและตรวจเยี่ยมหน่วยงานด้านความมั่นคงในพื้นที่ชายแดนด้าน จ.ระนอง พร้อมรับฟังการบรรยายสรุปเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหา และการพัฒนาเศรษฐกิจการค้าชายแดนไทย-พม่า ในบริเวณ จ.ระนอง-เกาะสอง
ด้าน นายสมคิด บาลไธสงค์ รองประธานคณะกรรมาธิการกิจการชายแดนไทย สภาผู้แทนราษฏร กล่าวว่า ทางคณะกรรมาธิการกิจการชายแดนไทยสภาผู้แทนราษฎร และคณะอนุกรรมธิการฯ เดินทางลงพื้นที่ จ.ระนอง เพื่อติดตามสถานการณ์ชายแดนไทย-พม่า ด้าน จ.ระนอง-เกาะสอง ในหลายด้าน ทั้งปัญหาแนวเขตแดนที่ยังเหลื่อมล้ำในหลายจุดจนเกิดกรณีปัญหาชาวบ้านคนไทยรุกล้ำดินแดนของประเทศเพื่อนบ้าน จนเกิดปัญหาการจับกุม 92 คนไทย ในคดีบุกรุกป่าที่บ้านอินทนินขวาง ส่วนประเด็นเรื่องการเตรียมพร้อมเรื่องอาเซียนนั้น ขณะนี้ทางจังหวัดชายแดนจะต้องเร่งเตรียมพร้อมเพราะเป็นเมืองหน้าด่านที่ได้รับผลประโยชน์ตจากการขยายการค้า การลงทุน การขนส่ง การท่องเที่ยว และการเดินทางไปมาของประชาชนของทั้ง 2 ประเทศที่มีแนวพื้นที่พรมแดนติดต่อกัน
จากนั้นได้ตรวจเยี่ยมศูนย์ปฏิบัติการเตรียมความพร้อมการเข้าสู่ประชาคมอาเซียนของ จ.ระนอง เพื่อรับฟังข้อมูล สภาพปัญหา อุปสรรค เพื่อนำเสนอต่อรัฐบาลในการช่วยผลักดัน และพัฒนาต่อไป พร้อมกันนี้ ได้เดินทางเยี่ยมชมท่าเรือระนอง ศึกษาดูงาน ตรวจเยี่ยมฐานปฏิบัติการของตำรวจตระเวนชายแดนที่ 415 บนเกาะตาครุฑ ปัญหาชายแดนไทย-พม่าด้าน จ.ระนอง มีหลายด้านที่ต้องเร่งแก้ปัญหาโดยเฉพาะความเหลื่อมล้ำของพื้นที่ตามแนวชายแดนที่จะต้องเร่งแก้ไขให้แล้วเสร็จเพื่อป้องกันปัญหาที่จะเกิดขึ้นในอนาคต นอกจากนี้ ปัญหาการหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายก็ยังเป็นปัญหาที่ทุกฝ่ายจะต้องช่วยกันแก้ไขเช่นกัน นอกจากนี้ ยังได้ติดตามสถานการณ์ปัญหายาเสพติดตามแนวพื้นที่ชายแดนไทย-พม่าด้าน จ.ระนอง-เกาะสอง ซึ่งพบว่า จ.ระนอง เป็นทางผ่านสำคัญของยาเสพติดสู่จังหวัดชั้นใน และปัญหาการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย
