เชียงราย - ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองเชียงแสนจับกุมต่างด้าวชาวพม่าได้ 7 คน หลังถูกนำไปซ่อนตัวอยู่ในเพิงไม้ไผ่ เชื่อเจ้าของบ้านเตรียมส่งต่อ ด้านเจ้าหน้าที่ควบคุมตัว พร้อมแจ้งข้อหาให้ที่พักพิงแก่ต่างด้าวโดยผิดกฎหมาย-หลบหนีเข้าเมืองผิดกฎหมาย
วันนี้ (6 มี.ค.) พ.ต.ท.เกรียงไกร อาริยะยิ่ง สารวัตรใหญ่ด่านตรวจคนเข้าเมือง อ.เชียงแสน จ.เชียงราย สืบทราบมีการลักลอบขนแรงต่างด้าวไปพักไว้ในพื้นที่รับผิดชอบ จึงนำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตม.ไปตรวจสอบที่บ้านเลขที่ 42/1 บ้านวังลาว ม.4 ต.เวียง อ.เชียงแสน พบเป็นบ้าน 2 ชั้นภายในบ้านพบนางบัวน้อย ขจร อายุ 27 ปี อยู่ภายในบ้าน ไม่พบสิ่งของผิดกฎหมาย แต่ที่ดินหลังบ้านพบมีการสร้างเป็นเพิงไม้ไผ่มุงหลังคาสังกะสี เมื่อเปิดเข้าไปปรากฏว่าพบชายและหญิงทั้งผู้ใหญ่และเด็กจำนวน 9 คน นอนเรียงกันอยู่กับพื้นห้องที่ปูด้วยไม้กระดาน
สอบถามทราบว่าเป็นชาวพม่า และไม่มีเอกสารการเข้าออกเมืองอย่างถูกต้องจึงควบคุมตัวเอาไว้ อย่างไรก็ตาม ทั้งหมดไม่สามารถพูดภาษาไทยได้ จากการสอบสวนเบื้องต้นนางบัวน้อยให้การว่าตนเป็นลูกสะใภ้ของบ้านนี้และสามารถพูดภาษาพม่าได้ โดยนายก๋อง ขจร อายุ 60 ปี บิดาของสามีที่เป็นพม่าและเป็นเจ้าของบ้านได้สั่งไว้ว่าจะมจักรยานยนต์รับคนมาส่งที่หน้าบ้านและให้ตนพาไปอยู่ที่เพิงหลังบ้านดังกล่าว
นางบัวน้อยให้การอีกว่า ไม่รู้คนต่างด้าวทั้งหมดเดินทางมาจากไหนและจะส่งไปที่ไหน เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อกล่าวหาแก่นางบัวน้อยและนายก๋องว่าให้ที่พักพิงแก่คนต่างด้าวโดยผิดกฎหมาย และแจ้งข้อกล่าวหาต่อต่างด้าวทั้งหมดว่าหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย
พ.ต.ท.เกรียงไกรกล่าวว่า กรณีนายก๋องนั้นจะได้ติดตามหาตัวมาดำเนินคดีต่อไป ในส่วนของเจ้าหน้าที่จะพยายามสกัดกั้นการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายให้เข้มงวดต่อไป เพราะแนวชายแดนไทย-พม่าด้าน อ.เชียงแสน มีเพียงแม่น้ำสายรวกซึ่งเป็นลำน้ำสายเล็กๆ กั้นไว้ก่อนไหลลงสู่แม่น้ำโขงทำให้การลักลอบข้ามไปมาทำได้ง่าย