พัทลุง - กองทุนหมู่บ้านพัทลุงประสบความสำเร็จ ย่างเข้าปีที่ 12 ยอดเงินรวมกว่า 2,000 ล้านบาท โดยยอดเงินสะสมพุ่งปีละ 100 ล้านบาท ส่วนใหญ่ขึ้นอยู่กับภาวะทางเศรษฐกิจทางการเกษตร และปศุสัตว์ ในขณะที่หนี้เสียมีน้อยมาก
นายสมชาย นรเศรษฐพงศ์ ประธานเครือข่ายกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองจังหวัดพัทลุง เปิดเผยว่า กองทุนหมู่บ้านและชุมชมเมืองพัทลุง มีอายุย่างก้าวสู่ปีที่ 12 ขณะนี้มียอดเงินสะสมกว่า 2,000 ล้านบาท และสามารถยกฐานะเป็นสถาบันการเงินได้จำนวน 10 สถาบัน จากกองทุน 710 แห่ง
“กองทุนเดิมที่รัฐบาลให้การสนับสนุนกว่า 700 ล้านบาท ซึ่งสามารถขยายตัวเติบโตเพิ่มไม่ต่ำกว่าปีละ 100 ล้านบาท กองทุนหมูบ้านประสบความสำเร็จอย่างสูงกว่า 85 เปอร์เซ็นต์ หนี้เสียมีน้อยมาก ในส่วนของภาคใต้กองทุนหมู่บ้านจังหวัดพัทลุงประสบความสำเร็จเป็นอันดับต้น”
นายสมชาย กล่าวอีกว่า สินเชื่อ และเงินฝากกองทุนหมู่บ้านจะขึ้นอยู่กับภาวะทางเศรษฐกิจทางการเกษตร และปศุสัตว์ เช่น ยางราคาดี ปาล์มราคาดี ข้าวราคาดี พืชผักผลไม้ราคาดี จะมีเงินฝากสะสมเข้ามาเป็นจำนวนมาก แต่ถ้าเศรษฐกิจทางการเกษตรและปศุสัตว์ไม่ดี จะมีสินเชื่อออกมาก ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับภาวะเศรษฐกิจการเกษตร และดอกเบี้ยเพดานเดียวกับธนาคารพาณิชย์
นายสมชาย ยังกล่าวอีกว่า สำหรับเงินกู้ของกองทุนที่สมาชิกเอาสินเชื่อไปรายละประมาณ 200,000 บาท และ 500,000 บาท หากจะเอาสินเชื่อมากกว่านั้นก็จะไปใช้บริการธนาคารพาณิชย์ ทั้งนี้ สมาชิกที่เอาสินเชื่อไปลงทุนจะเป็นธุรกิจที่ประกอบในหมู่บ้าน เป็นต้น
“กองทุนหมู่บ้านเคยประสบปัญหามาบ้างบางช่วง อย่างในช่วงระยะ 2 ปีหลังที่ผ่านมาที่ถูกน้ำท่วม และวาตภัย ยอดเงินฝากชะลอลง มีการปล่อยสินเชื่อเพิ่มขึ้น และมีหนี้ไม่สามารถผ่อนชำระได้ แต่ก็ไม่ได้ประสบปัญหาแต่อย่างใด เพราะไม่ได้เป็นหนี้สูญ” นายสมชายกล่าว
นอกจากนี้ แหล่งข่าวจากผู้นำหมู่บ้านในพื้นที่ ต.ตะโหมด อ.ตะโหมด จ.พัทลุง ยังกล่าด้วยว่า สำหรับกองทุนหมู่บ้านที่ไม่ประสบความสำเร็จ ส่วนใหญ่จะดำเนินการเป็นเครือญาติกันเอง ไม่ดำเนินการตามนโยบายของกองทุนหมู่บ้าน ไม่ได้มีการต่อยอดเอาไปลงทุน และกิจการไม่ประสบความสำเร็จ กับเอาเงินไปใช้นอกรูปแบบ
นายสมชาย นรเศรษฐพงศ์ ประธานเครือข่ายกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองจังหวัดพัทลุง เปิดเผยว่า กองทุนหมู่บ้านและชุมชมเมืองพัทลุง มีอายุย่างก้าวสู่ปีที่ 12 ขณะนี้มียอดเงินสะสมกว่า 2,000 ล้านบาท และสามารถยกฐานะเป็นสถาบันการเงินได้จำนวน 10 สถาบัน จากกองทุน 710 แห่ง
“กองทุนเดิมที่รัฐบาลให้การสนับสนุนกว่า 700 ล้านบาท ซึ่งสามารถขยายตัวเติบโตเพิ่มไม่ต่ำกว่าปีละ 100 ล้านบาท กองทุนหมูบ้านประสบความสำเร็จอย่างสูงกว่า 85 เปอร์เซ็นต์ หนี้เสียมีน้อยมาก ในส่วนของภาคใต้กองทุนหมู่บ้านจังหวัดพัทลุงประสบความสำเร็จเป็นอันดับต้น”
นายสมชาย กล่าวอีกว่า สินเชื่อ และเงินฝากกองทุนหมู่บ้านจะขึ้นอยู่กับภาวะทางเศรษฐกิจทางการเกษตร และปศุสัตว์ เช่น ยางราคาดี ปาล์มราคาดี ข้าวราคาดี พืชผักผลไม้ราคาดี จะมีเงินฝากสะสมเข้ามาเป็นจำนวนมาก แต่ถ้าเศรษฐกิจทางการเกษตรและปศุสัตว์ไม่ดี จะมีสินเชื่อออกมาก ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับภาวะเศรษฐกิจการเกษตร และดอกเบี้ยเพดานเดียวกับธนาคารพาณิชย์
นายสมชาย ยังกล่าวอีกว่า สำหรับเงินกู้ของกองทุนที่สมาชิกเอาสินเชื่อไปรายละประมาณ 200,000 บาท และ 500,000 บาท หากจะเอาสินเชื่อมากกว่านั้นก็จะไปใช้บริการธนาคารพาณิชย์ ทั้งนี้ สมาชิกที่เอาสินเชื่อไปลงทุนจะเป็นธุรกิจที่ประกอบในหมู่บ้าน เป็นต้น
“กองทุนหมู่บ้านเคยประสบปัญหามาบ้างบางช่วง อย่างในช่วงระยะ 2 ปีหลังที่ผ่านมาที่ถูกน้ำท่วม และวาตภัย ยอดเงินฝากชะลอลง มีการปล่อยสินเชื่อเพิ่มขึ้น และมีหนี้ไม่สามารถผ่อนชำระได้ แต่ก็ไม่ได้ประสบปัญหาแต่อย่างใด เพราะไม่ได้เป็นหนี้สูญ” นายสมชายกล่าว
นอกจากนี้ แหล่งข่าวจากผู้นำหมู่บ้านในพื้นที่ ต.ตะโหมด อ.ตะโหมด จ.พัทลุง ยังกล่าด้วยว่า สำหรับกองทุนหมู่บ้านที่ไม่ประสบความสำเร็จ ส่วนใหญ่จะดำเนินการเป็นเครือญาติกันเอง ไม่ดำเนินการตามนโยบายของกองทุนหมู่บ้าน ไม่ได้มีการต่อยอดเอาไปลงทุน และกิจการไม่ประสบความสำเร็จ กับเอาเงินไปใช้นอกรูปแบบ
