ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ตร.แจ้งข้อหาหนุ่มแท็กซี่ทำร้ายร่างกาย ข่มขืน หน่วงเหนี่ยวกักขัง หลังสาวร้านคาราโอเกะแจ้งความตำรวจดำเนินคดี
เมื่อวานนี้ (5 มี.ค.) เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สถานีตำรวจภูธรเมืองภูเก็ต นำโดย พ.ต.ท.ประวิทย์ เอ้งฉ้วน สารวัตรสืบสวน สภ.เมืองภูเก็ต นำตัวนายสุขสันต์ หมอน้ำร้อง อายุ 28 อยู่บ้านเลขที่ 113/1 หมู่ 7 ต.ห้วยน้ำขาว อ.คลองท่อม จ.กระบี่ พร้อมของกลาง ประกอบด้วย โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง เงินสด 4,000 บาท สร้อยคอสีเงิน สร้อยคอสีทอง บัตรเอทีเอ็ม บัตรประจำตัวประชาชน กระเป๋าสตางค์ แว่นตา ซึ่งเป็นของผู้เสียหาย มาสอบสวนภายหลังจับกุมได้ที่บ้านเลขที่ 32/8 ม.5 ต.เกาะแก้ว อ.เมือง จ.ภูเก็ต หลังจากสอบปากคำในเบื้องต้น เจ้าหน้าที่ควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.ทุ่งทอง ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
สำหรับการจับกุมในครั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อช่วงเช้าวันที่ 5 มี.ค.55 น.ส.เอ (นามสมมติ) พนักงานเสิร์ฟร้านคาราโอเกะ บริเวณซอยวานิช 1 ม.7 ต.รัษฎา พร้อมญาติ ได้เข้าแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่สถานีตำรวจภูธรทุ่งทอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต ว่า ถูกชายไทยข่มขืน ทำร้ายร่างกาย และกักขังหน่วงเหนี่ยว รวมทั้งเอาทรัพย์สินไป โดยเหตุเกิดในพื้นที่เมืองภูเก็ต และพื้นที่ สภ.ทุ่งทอง ซึ่งผู้เสียหายจำรถที่คนร้ายใช้ก่อเหตุได้ เป็นรถเก๋งโตโยต้า อัลติส สีขาว ป้ายทะเบียน กน 9463 ภูเก็ต
หลังรับรับแจ้ง พ.ต.อ.ฐิติรัฐ อาษากิจ ผกก.สภ.ทุ่งทอง ได้ประสานมายัง พ.ต.อ.เสริมพันธ์ ศิริคง ผกก.สภ.เมืองภูเก็ต เพื่อให้ช่วยติดตามจับกุม โดย ผกก.สภ.เมืองภูเก็ต ได้สั่งการให้ พ.ต.ท.ประวิทย์ เอ่งฉ้วน สารวัตรสืบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองภูเก็ต พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสืบสวนหาข่าว และติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดี ซึ่งจากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ทราบตัวผู้ต้องสงสัย คือ นายสุขสันต์ หมอน้ำร้อน จึงนำกำลังเข้าตรวจสอบที่บ้านพักเลขที่ 32/8 ม.5 ต.เกาะแก้ว อ.เมือง จ.ภูเก็ต ในเวลาประมาณ 11.00 น. และเชิญตัวผู้ต้องสงสัยคือ นายสุขสันต์ หมอน้ำร้อง มาที่สถานีตำรวจภูธรเมืองภูเก็ต พร้อมด้วยของกลางซึ่งเป็นของผู้เสียหายที่แจ้งความไว้
จากการสอบถามในเบื้องต้น นายสุขสันต์ ให้การว่า ของกลางทั้งหมดเป็นของผู้เสียหายจริง โดยเมื่อคืนวันที่ 4 มี.ค.ที่ผ่านมา รับผู้เสียหายออกจากร้านคาราโอเกะ ซอยวานิช 1 ม.7 ต.รัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต โดยพาไปที่โรงแรมแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.เมือง จ.ภูเก็ต และพยายามมีเพศสัมพันธ์ 1 ครั้ง แต่ไม่สำเร็จความใคร่ และได้มีการทำร้ายร่างกายผู้เสียหาย ก่อนที่จะพาออกจากโรงแรมขึ้นรถเพื่อไปที่โรงแรมอีกแห่งในพื้นที่ทุ่งทอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต
แต่ขณะที่กำลังขับรถผู้เสียหายได้ใช้มือบีบคอ ตนจึงใช้ปากกัดที่นิ้วมือของผู้เสียหาย เมื่อไปถึงโรงแรมได้พาผู้เสียหายเข้าห้องพัก และด้วยความโมโหได้ทำร้ายร่างกายผู้เสียหายอีก หลังจากนั้น ได้ใช้สายไฟฟ้าผูกมือ และเท้าของผู้เสียหาย ก่อนที่จะหยิบเอาเงิน และทรัพย์สินของผู้เสียหายไป พร้อมทั้งขู่ให้บอกรหัสบัตรเอทีเอ็ม ก่อนที่จะออกจากห้องพักดังกล่าว หลังจากนั้น ก็ได้ขับรถไปส่งนักท่องเที่ยวที่สนามบินภูเก็ต เมื่อส่งนักท่องเที่ยวเสร็จก็ได้ขับรถกลับบ้านพักเพื่อพักผ่อน แต่ถูกเจ้าหน้าที่จับกุมเสียก่อน
พ.ต.ท.ยศพัฒน์ สุวรรณสิทธิ์ ร้อยเวรสถานีตำรวจภูธรทุ่งทอง กล่าวว่า การจับกุมผู้ต้องหาในครั้งนี้ สืบเนื่องจากมีผู้เสียหายเข้าแจ้งความต่อทางเจ้าหน้าที่ตำรวจที่สถานีตำรวจภูธรกะทู้ เมื่อช่วงเช้าวันที่ 5 มี.ค.ที่ผ่านมา หลังจากนั้น ได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องในการจับกุมผู้ต้องหา สำหรับผู้ต้องหานั้นทางเจ้าหน้าที่ได้แจ้งความดำเนินคดีในข้อหาทำร้ายร่างกาย ข่มขืนกระทำชำเรา หน่วงเหนี่ยวกักขัง ซึ่งจะต้องมีการสอบปากคำผู้เสียหาย และผู้ต้องหาเพิ่มเติมเพื่อดำเนินคดีต่อไป
เมื่อวานนี้ (5 มี.ค.) เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สถานีตำรวจภูธรเมืองภูเก็ต นำโดย พ.ต.ท.ประวิทย์ เอ้งฉ้วน สารวัตรสืบสวน สภ.เมืองภูเก็ต นำตัวนายสุขสันต์ หมอน้ำร้อง อายุ 28 อยู่บ้านเลขที่ 113/1 หมู่ 7 ต.ห้วยน้ำขาว อ.คลองท่อม จ.กระบี่ พร้อมของกลาง ประกอบด้วย โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง เงินสด 4,000 บาท สร้อยคอสีเงิน สร้อยคอสีทอง บัตรเอทีเอ็ม บัตรประจำตัวประชาชน กระเป๋าสตางค์ แว่นตา ซึ่งเป็นของผู้เสียหาย มาสอบสวนภายหลังจับกุมได้ที่บ้านเลขที่ 32/8 ม.5 ต.เกาะแก้ว อ.เมือง จ.ภูเก็ต หลังจากสอบปากคำในเบื้องต้น เจ้าหน้าที่ควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.ทุ่งทอง ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
สำหรับการจับกุมในครั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อช่วงเช้าวันที่ 5 มี.ค.55 น.ส.เอ (นามสมมติ) พนักงานเสิร์ฟร้านคาราโอเกะ บริเวณซอยวานิช 1 ม.7 ต.รัษฎา พร้อมญาติ ได้เข้าแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่สถานีตำรวจภูธรทุ่งทอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต ว่า ถูกชายไทยข่มขืน ทำร้ายร่างกาย และกักขังหน่วงเหนี่ยว รวมทั้งเอาทรัพย์สินไป โดยเหตุเกิดในพื้นที่เมืองภูเก็ต และพื้นที่ สภ.ทุ่งทอง ซึ่งผู้เสียหายจำรถที่คนร้ายใช้ก่อเหตุได้ เป็นรถเก๋งโตโยต้า อัลติส สีขาว ป้ายทะเบียน กน 9463 ภูเก็ต
หลังรับรับแจ้ง พ.ต.อ.ฐิติรัฐ อาษากิจ ผกก.สภ.ทุ่งทอง ได้ประสานมายัง พ.ต.อ.เสริมพันธ์ ศิริคง ผกก.สภ.เมืองภูเก็ต เพื่อให้ช่วยติดตามจับกุม โดย ผกก.สภ.เมืองภูเก็ต ได้สั่งการให้ พ.ต.ท.ประวิทย์ เอ่งฉ้วน สารวัตรสืบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองภูเก็ต พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสืบสวนหาข่าว และติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดี ซึ่งจากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ทราบตัวผู้ต้องสงสัย คือ นายสุขสันต์ หมอน้ำร้อน จึงนำกำลังเข้าตรวจสอบที่บ้านพักเลขที่ 32/8 ม.5 ต.เกาะแก้ว อ.เมือง จ.ภูเก็ต ในเวลาประมาณ 11.00 น. และเชิญตัวผู้ต้องสงสัยคือ นายสุขสันต์ หมอน้ำร้อง มาที่สถานีตำรวจภูธรเมืองภูเก็ต พร้อมด้วยของกลางซึ่งเป็นของผู้เสียหายที่แจ้งความไว้
จากการสอบถามในเบื้องต้น นายสุขสันต์ ให้การว่า ของกลางทั้งหมดเป็นของผู้เสียหายจริง โดยเมื่อคืนวันที่ 4 มี.ค.ที่ผ่านมา รับผู้เสียหายออกจากร้านคาราโอเกะ ซอยวานิช 1 ม.7 ต.รัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต โดยพาไปที่โรงแรมแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.เมือง จ.ภูเก็ต และพยายามมีเพศสัมพันธ์ 1 ครั้ง แต่ไม่สำเร็จความใคร่ และได้มีการทำร้ายร่างกายผู้เสียหาย ก่อนที่จะพาออกจากโรงแรมขึ้นรถเพื่อไปที่โรงแรมอีกแห่งในพื้นที่ทุ่งทอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต
แต่ขณะที่กำลังขับรถผู้เสียหายได้ใช้มือบีบคอ ตนจึงใช้ปากกัดที่นิ้วมือของผู้เสียหาย เมื่อไปถึงโรงแรมได้พาผู้เสียหายเข้าห้องพัก และด้วยความโมโหได้ทำร้ายร่างกายผู้เสียหายอีก หลังจากนั้น ได้ใช้สายไฟฟ้าผูกมือ และเท้าของผู้เสียหาย ก่อนที่จะหยิบเอาเงิน และทรัพย์สินของผู้เสียหายไป พร้อมทั้งขู่ให้บอกรหัสบัตรเอทีเอ็ม ก่อนที่จะออกจากห้องพักดังกล่าว หลังจากนั้น ก็ได้ขับรถไปส่งนักท่องเที่ยวที่สนามบินภูเก็ต เมื่อส่งนักท่องเที่ยวเสร็จก็ได้ขับรถกลับบ้านพักเพื่อพักผ่อน แต่ถูกเจ้าหน้าที่จับกุมเสียก่อน
พ.ต.ท.ยศพัฒน์ สุวรรณสิทธิ์ ร้อยเวรสถานีตำรวจภูธรทุ่งทอง กล่าวว่า การจับกุมผู้ต้องหาในครั้งนี้ สืบเนื่องจากมีผู้เสียหายเข้าแจ้งความต่อทางเจ้าหน้าที่ตำรวจที่สถานีตำรวจภูธรกะทู้ เมื่อช่วงเช้าวันที่ 5 มี.ค.ที่ผ่านมา หลังจากนั้น ได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องในการจับกุมผู้ต้องหา สำหรับผู้ต้องหานั้นทางเจ้าหน้าที่ได้แจ้งความดำเนินคดีในข้อหาทำร้ายร่างกาย ข่มขืนกระทำชำเรา หน่วงเหนี่ยวกักขัง ซึ่งจะต้องมีการสอบปากคำผู้เสียหาย และผู้ต้องหาเพิ่มเติมเพื่อดำเนินคดีต่อไป