สุโขทัย - ส.อบจ.เมืองสุโขทัยดับปริศนา กลายเป็นศพเปลือยกายคารถฟอร์จูนเนอร์ ตรวจสอบเบื้องต้นพบรอยฟกช้ำบนใบหน้า-ลำคอ แต่ไร้ร่องรอยการต่อสู้ภายในรถ แถมกระเป๋าตังค์-เงินสด และปืนอยู่ครบ มีเพียงโทรศัพท์มือถือหายไปอย่างไร้ร่องรอย
วันนี้ (13 ม.ค.) พ.ต.ท.ศักดิ์สรณ์ แยงทิพย์ พนักงานสอบสวนเวร สภ.เมืองเก่า อ.เมือง จ.สุโขทัย ได้รับแจ้งเหตุว่า มีคนเสียชีวิตอยู่ในรถยนต์ที่จอดอยู่บนถนนตรงบริเวณปากทางเข้าวัดศรีพิจิตรกิรติกัลยาราม หมู่ 8 ต.เมืองเก่า จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ จากนั้นรุดไปตรวจสอบพร้อมแพทย์เวรโรงพยาบาลสุโขทัย และหน่วยกู้ภัย
ที่เกิดเหตุ พบรถยนต์โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ สีดำ ทะเบียน กค 9108 สุโขทัย จอดอยู่ใต้ต้นไม้ริมถนน โดยประตูรถปิดล็อกทุกด้านไม่สามารถเปิดได้ เจ้าหน้าที่จึงตรวจสอบโดยมองผ่านกระจกรถ พบว่า ตรงเบาะนั่งคู่หน้าด้านซ้ายถูกปรับเอนนอน และมีศพผู้ชายทราบคือ นายเชยศักดิ์ ถาละถี สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด (ส.อบจ.) สุโขทัย เขต 2 อ.เมือง และเป็นอดีตนายกเทศมนตรีตำบลบ้านกล้วย อ.เมือง จ.สุโขทัย สภาพศพนอนคว่ำหน้า ท่อนล่างเปลือยเปล่า สวมเสื้อกล้ามสีขาว และมีเสื้อเชิ้ตแขนยาวคลุมปิดแผ่นหลังกับท่อนล่างไว้
ต่อมา เจ้าหน้าที่ได้ประสานให้ญาติผู้ตายนำกุญแจรถสำรองมาเปิด พร้อมแจ้งให้เจ้าหน้าที่กองวิทยาการตำรวจภูธรจังหวัดสุโขทัย มาร่วมตรวจพิสูจน์ เมื่อเปิดประตูรถได้จึงตรวจสอบภายในรถ พบว่า ตรงเบาะนั่งคนขับมีกางเกงยีนส์ของผู้ตายวางกองอยู่ และมีกระเป๋าสตางค์กับเงินสดอีกกว่า 10,000 บาท และยังมีอาวุธปืนพกสั้นวางซุกอยู่ข้างเบรกมือรถด้วย
นายมงคลศักดิ์ บัวหลาย อายุ 34 ปี ลูกเขยนายเชยศักดิ์ (ผู้ตาย) ให้การว่า นายเชยศักดิ์ ขับรถยนต์ออกจากบ้านมาตั้งแต่เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 12 ม.ค.56 ที่ผ่านมา กระทั่งมืดค่ำเห็นว่ายังไม่กลับเข้าบ้าน โทรศัพท์ก็ติดต่อไม่ได้ ญาติจึงเป็นห่วงเพราะไม่เคยกลับบ้านผิดเวลา กระทั่งมาเช้าวันนี้จึงได้ออกตามหา และมาพบเป็นศพอยู่ในรถดังกล่าว จึงแจ้งให้เจ้าหน้าที่มาตรวจพิสูจน์
เบื้องต้น จากการชันสูตรศพไม่พบว่ามีร่องรอยของการถูกทำร้ายร่างกาย เพียงแต่มีรอยฟกช้ำตรงใบหน้า และที่บริเวณหน้าอก ส่วนในรถก็ไม่พบร่องรอยการต่อสู้ และทรัพย์สินผู้ตายก็อยู่ครบ ทั้งสร้อยคอทองคำหนัก 5 บาท แหวนทอง นาฬิกาข้อมือ เงินสด และอาวุธปืน มีเพียงโทรศัพท์มือถือของผู้ตายเท่านั้นที่หายไป อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่จะได้ส่งศพผ่าพิสูจน์การตายอีกครั้ง และสืบสวนสาเหตุแท้จริงต่อไป