สุราษฎร์ธานี - ตำรวจเกาะสมุย บุกช่วยนักธุรกิจชาวรัสเซียหลังถูกแก๊งมาเฟียชาติเดียวกันจับเรียกค่าไถ่ รวบได้แล้ว 2 คน ยังหลบหนีอีก 1 คน เบื้องต้น ยังไม่ยอมเปิดปากให้การต่อทางเจ้าหน้าที่
เมื่อเวลา 22.30 น.วันที่ 25 ก.พ.ที่ผ่านมา พ.ต.อ.จำโนทย์ แก้วขาว ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ และตำรวจท่องเที่ยวเกาะสมุย นำกำลังเข้าปิดล้อมโรงแรมแกรนด์ฮิลล์ เกาะสมุย หมู่ 4 ตำบลแม่น้ำ อำเภอเกาะสมุย หลังได้จับแจ้งจากญาติของนายอัลเบิร์ต สโลต์ (ALBERT SLOTR) อายุ 33 ปี ให้ทำการช่วยเหลือนายอัลเบิร์ต สโลต์ ถูกเพื่อนร่วมชาติทำร้ายร่างกาย และถูกคุมขังอยู่ที่ห้อง 401 โรงแรมแกรนด์ฮิลล์
เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจไปถึง และเข้าปิดล้อมโรงแรมตามที่ได้รับแจ้ง พบนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติท่าทางมีพิรุธกำลังวิ่งขึ้นรถยนต์โตโยต้าวีออส สีขาว ทะเบียน ฎค 4153 กรุงเทพมหานคร จึงเข้าควบคุมตัว และขอตรวจค้นในรถยนต์ พบมีเงินสดวางอยู่ จำนวน 7 หมื่นบาท และทราบชื่อต่อมา คือ นายเดนนิน มาสสโลกี้ (DANNIN MASLOVSKI) อายุ 33 ปี สัญชาติรัสเซีย จึงได้สอบถาม โดยนายเดนนิน ให้การด้วยท่าทางมีพิรุธ
ทางตำรวจจึงได้ควบคุมตัวขึ้นไปที่ห้อง 401 เมื่อเปิดประตูเข้าไป เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงพบนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติกำลังคุมตัวนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติอีก 2 คนไว้ ทราบชื่อคือ นายเฟสตอป เซอร์กี้ (FIRDOTOV SERGEY) อายุ 34 ปี สัญชาติรัสเซีย ส่วนคนที่ถูกควบคุมตัวคือ นายอัลเบิร์ต สโลต์ และนายวาสิเนีย มาคาเรนโต้ อายุ 31 สัญชาติรัสเซีย เจ้าหน้าที่จึงคุมตัวนายเฟสตอป เซอร์กี้ อีกคน
ขณะที่ผู้เสียหายทั้ง 2 คนเมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจถึงกับร้องให้โฮด้วยความดีใจ และเปิดเผยต่อเจ้าหน้าทีตำรวจว่า รอดตายแล้ว โดยนายวาสิเนีย มาคาเรนโต้ ผู้เสียหายกล่าวว่า ตนเป็นทนายความอยู่ที่ประเทศรัสเซีย และมาทำธุรกิจบาร์เบียร์ ขณะที่นายอัลเบิร์ต อายุ 33 ปี ทำธุรกิจบาร์เบียร์เช่นกันอยู่ในย่านหาดเฉวง ที่เกาะสมุย และต่อมาได้มีนายเดนนิน มาสสโลกี้ และ นายเฟสตอป เซอร์กี้ ผู้ต้องหา มาขอร่วมลงหุ้น 50% แต่ไม่ยอมออกเงิน และตั้งกลุ่มเป็นแก๊งมาเฟียรัสเซีย หาเหยื่อที่เป็นชาวรัสเซียพร้อมกับเรียกเงินค่าคุ้มครองตั้งแต่ช่วงปีที่ผ่านมาจนถึงวันเกิดเหตุ
โดยกลุ่มคนร้ายได้เงินไปแล้วทั้งหมด 1,670,000 บาท และกำลังจะเรียกเงินไปอีก 1 ล้านบาท แต่พวกตนไม่ยอม และได้มีนายมาเชฟ อเล็กซานเดอร์ อายุ 31 ปี เพื่อนร่วมแก๊งที่หลบหนีไปก่อนหน้านี้ ได้ใช้อาวุธปืนข่มขู่ว่าห้ามแจ้งตำรวจ พร้อมช่วยกันทำร้ายร่างกายกลุ่มผู้เสียหาย และห้ามติดต่อใคร ให้โทร.ได้เฉพาะญาติที่โอนเงินมาให้เท่านั้น และเมื่อกลุ่มผู้ต้องหาเผลอผู้เสียหายจึงได้ส่งไลน์แจ้งเหตุแก่ญาติให้แจ้งตำรวจ
อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุของเจ้าหน้าที่ พบไขควงปลายแหลมยาว จำนวน 4 อัน ส่วนคนร้ายอีกคนทีหลบหนีไปพร้อมกับอาวุธปืน ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทราบชื่อแล้ว และได้ติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีต่อไป เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตรวจสถานีตำรวจภูธรเกาะสมุยได้สอบปากคำผู้ต้องหา แต่ผู้ต้องหายังไม่ยอมเปิดปากใดๆ ทางตำรวจจึงได้แจ้งข้อกล่าวหากรรโชกทรัพย์ ทำร้ายร่างกาย กังขังหน่วงเหนี่ยว และกำลังขยายผล และติดตาม นายมาเชฟ อเล็กซานเดอร์ ผู้ต้องหาอีกคนที่หลบหนี
เมื่อเวลา 22.30 น.วันที่ 25 ก.พ.ที่ผ่านมา พ.ต.อ.จำโนทย์ แก้วขาว ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ และตำรวจท่องเที่ยวเกาะสมุย นำกำลังเข้าปิดล้อมโรงแรมแกรนด์ฮิลล์ เกาะสมุย หมู่ 4 ตำบลแม่น้ำ อำเภอเกาะสมุย หลังได้จับแจ้งจากญาติของนายอัลเบิร์ต สโลต์ (ALBERT SLOTR) อายุ 33 ปี ให้ทำการช่วยเหลือนายอัลเบิร์ต สโลต์ ถูกเพื่อนร่วมชาติทำร้ายร่างกาย และถูกคุมขังอยู่ที่ห้อง 401 โรงแรมแกรนด์ฮิลล์
เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจไปถึง และเข้าปิดล้อมโรงแรมตามที่ได้รับแจ้ง พบนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติท่าทางมีพิรุธกำลังวิ่งขึ้นรถยนต์โตโยต้าวีออส สีขาว ทะเบียน ฎค 4153 กรุงเทพมหานคร จึงเข้าควบคุมตัว และขอตรวจค้นในรถยนต์ พบมีเงินสดวางอยู่ จำนวน 7 หมื่นบาท และทราบชื่อต่อมา คือ นายเดนนิน มาสสโลกี้ (DANNIN MASLOVSKI) อายุ 33 ปี สัญชาติรัสเซีย จึงได้สอบถาม โดยนายเดนนิน ให้การด้วยท่าทางมีพิรุธ
ทางตำรวจจึงได้ควบคุมตัวขึ้นไปที่ห้อง 401 เมื่อเปิดประตูเข้าไป เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงพบนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติกำลังคุมตัวนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติอีก 2 คนไว้ ทราบชื่อคือ นายเฟสตอป เซอร์กี้ (FIRDOTOV SERGEY) อายุ 34 ปี สัญชาติรัสเซีย ส่วนคนที่ถูกควบคุมตัวคือ นายอัลเบิร์ต สโลต์ และนายวาสิเนีย มาคาเรนโต้ อายุ 31 สัญชาติรัสเซีย เจ้าหน้าที่จึงคุมตัวนายเฟสตอป เซอร์กี้ อีกคน
ขณะที่ผู้เสียหายทั้ง 2 คนเมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจถึงกับร้องให้โฮด้วยความดีใจ และเปิดเผยต่อเจ้าหน้าทีตำรวจว่า รอดตายแล้ว โดยนายวาสิเนีย มาคาเรนโต้ ผู้เสียหายกล่าวว่า ตนเป็นทนายความอยู่ที่ประเทศรัสเซีย และมาทำธุรกิจบาร์เบียร์ ขณะที่นายอัลเบิร์ต อายุ 33 ปี ทำธุรกิจบาร์เบียร์เช่นกันอยู่ในย่านหาดเฉวง ที่เกาะสมุย และต่อมาได้มีนายเดนนิน มาสสโลกี้ และ นายเฟสตอป เซอร์กี้ ผู้ต้องหา มาขอร่วมลงหุ้น 50% แต่ไม่ยอมออกเงิน และตั้งกลุ่มเป็นแก๊งมาเฟียรัสเซีย หาเหยื่อที่เป็นชาวรัสเซียพร้อมกับเรียกเงินค่าคุ้มครองตั้งแต่ช่วงปีที่ผ่านมาจนถึงวันเกิดเหตุ
โดยกลุ่มคนร้ายได้เงินไปแล้วทั้งหมด 1,670,000 บาท และกำลังจะเรียกเงินไปอีก 1 ล้านบาท แต่พวกตนไม่ยอม และได้มีนายมาเชฟ อเล็กซานเดอร์ อายุ 31 ปี เพื่อนร่วมแก๊งที่หลบหนีไปก่อนหน้านี้ ได้ใช้อาวุธปืนข่มขู่ว่าห้ามแจ้งตำรวจ พร้อมช่วยกันทำร้ายร่างกายกลุ่มผู้เสียหาย และห้ามติดต่อใคร ให้โทร.ได้เฉพาะญาติที่โอนเงินมาให้เท่านั้น และเมื่อกลุ่มผู้ต้องหาเผลอผู้เสียหายจึงได้ส่งไลน์แจ้งเหตุแก่ญาติให้แจ้งตำรวจ
อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุของเจ้าหน้าที่ พบไขควงปลายแหลมยาว จำนวน 4 อัน ส่วนคนร้ายอีกคนทีหลบหนีไปพร้อมกับอาวุธปืน ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทราบชื่อแล้ว และได้ติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีต่อไป เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตรวจสถานีตำรวจภูธรเกาะสมุยได้สอบปากคำผู้ต้องหา แต่ผู้ต้องหายังไม่ยอมเปิดปากใดๆ ทางตำรวจจึงได้แจ้งข้อกล่าวหากรรโชกทรัพย์ ทำร้ายร่างกาย กังขังหน่วงเหนี่ยว และกำลังขยายผล และติดตาม นายมาเชฟ อเล็กซานเดอร์ ผู้ต้องหาอีกคนที่หลบหนี
