สุราษฎรํธานี - ตำรวจ สภ.เกาะสมุย ขยายผลจับแก๊งมาเฟียรัสเซียอุ้มนักธุรกิจชาติเดียวกันเรียกค่าคุ้มครองได้เพิ่มอีก 2 ราย หลังรวบได้เมื่อคืนนี้ 2 ราย ผกก.เผยต้องกวาดล้างแก๊งมาเฟียให้หมดไป เพื่อสร้างความมั่นใจให้นักลงทุน
จากกรณีที่เมื่อช่วงดึกของคืนวันที่ 26 ก.พ.56 พ.ต.อ.จำโนทย์ แก้วขาว ผกก.สภ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี พร้อม พ.ต.ท.กัมปนาท นิรัตติมานนท์ รอง ผกก.(ป) พ.ต.ท.สมพงศ์ เพ็ชรสุด สวป. พ.ต.ท.เด่นดวง ทองศรีสุข สวป. พ.ต.ท.ธนวัตร สุขคะตะ สว.สส. นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมอาวุธครบมือ บุกเข้าช่วยเหลือ นายวลาดิเมีย มาคาร์เรนโก้ อายุ 31 ปี และนายอัลเบิร์ต สโลต์ อายุ 33 ปี อดีตทนายความ และนักธุรกิจชาวรัสเซียที่ถูกแก๊งมาเฟียชาติเดียวกัน จำนวน 3 คน ใช้อาวุธบังคับขึ้นรถเก๋งมายังโรงแรมแกรนฮิล เรสซิเด้น เพื่อบังคับให้ทั้ง 2 คนให้เพื่อนนำเงิน จำนวน 1.2 ล้านบาทมาไถ่ตัว ซึ่งก่อนหน้านี้ นายวลาดิเมีย เคยถูกแก๊งดังกล่าวข่มขู่เอาเงินไปแล้ว จำนวน 1.6 ล้านบาท ได้แอบส่งข้อความผ่านทางอินเทอร์เน็ตขอความช่วยเหลือจากเพื่อน จนได้ประสานไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจ จนสามารถบุกเข้าไปช่วยเหลือ และจับกุมผู้ต้องหามาได้
โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี นำกำลังกว่า 10 นาย บุกเข้าไปในห้อง 401 ของโรงแกรนฮิล เรสซิเด้น ที่ตั้งอยู่พื้นที่หมู่ 4 ต.แม่น้ำ อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี เมื่อเจ้าหน้าที่เข้าไปถึงพบผู้ต้องหา จำนวน 2 คน คือ นายเฟสสตอป เชยร์เก้ อายุ 31 ปี และนายเดนนิส วาสโลวาสกี้ อายุ 33 ปี สัญชาติรัสเซีย นั่งอยู่ริมระเบียงห้องพัก ขณะที่ผู้เสียหาทั้ง 2 คน ที่ถูกผู้ต้องหากักขังตัวไว้ในห้อง เจ้าหน้าที่จึงได้สอบถามผู้เสียหายเบื้องต้น
นายอัลเบิร์ต เล่าให้เจ้าหน้าที่ฟังว่า ตนเองถูกผู้ต้องหาซึ่งเป็นชาวรัสเซีย จำนวน 3 คน ใช้อาวุธปืนบังคับให้ขึ้นรถเก๋งยี่ห้อโตโยต้า สีขาว ทะเบียน ฏค 4153 สุราษฎร์ธานี จากพื้นที่เฉวงตั้งแต่เมื่อวานนี้ โดยผู้ต้องหาได้นำตนมากักขังไว้ที่ห้องพักดังกล่าว ซึ่งเป็นห้องพักของนายวลาดิเมีย มาคาร์เรนโก้ โดยบังคับตน และนายวลาดิเมีย โทรศัพท์ไปหาเพื่อนของตน ซึ่งเป็นหุ้นส่วนเปิดร้านบาร์เบียร์ร่วมกันกับ นายวลาดิเมีย ให้นำเงิน จำนวน 1.2 ล้านบาท มาไถ่ตัว หรือไม่ก็ให้โอนหุ้นที่เพื่อนของตนถือครองอยู่ให้แก่กลุ่มผู้ต้องหา ไม่เช่นนั้นตนจะได้รับอันตราย โดยผู้ต้องหาได้ลงมือทำร้ายร่างกายนายอัลเบิร์ต จนเป็นรอยช้ำตามร่างกายหลายจุด และยังบังคับไม่ให้ผู้ต้องหาออกไปจากห้อง
ขณะที่นายวลาดิเมีย ซึ่งเป็นอดีตทนายความ และนักธุรกิจ เจ้าของร้านบาร์เบียร์ที่กำลังจะเปิดให้บริการในพื้นที่เฉวงได้เล่าว่า ก่อนหน้านี้ ผู้ต้องหาได้เข้ามาข่มขู่รีดไถเงินไปแล้ว จำนวน 3 ครั้ง รวมเป็นจำนวน 1.6 ล้านบาท โดยอ้างว่าเป็นการเก็บค่าคุ้มครองหากไม่ยอมจ่ายอาจจะได้รับอันตราย จึงทำให้เกิดความเกรงจะได้รับอันตราย เลยยอมจ่ายให้ไป
ขณะที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ตรวจค้นในรถเก๋งโตโยต้าของผู้ต้องหา พบเงินสดจำนวน 70,000 บาท ซึ่งเจ้าหน้าที่คาดว่าน่าจะเป็นเงินที่ผู้ต้องหาได้มาจากการข่มขู่ไปก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 คนมาสอบสวนเพื่อขยายผลติดตามจับกุมผู้ร่วมขบวนการที่หลบหนีไปได้
วันนี้ (26 ก.พ.) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เกาะสมุย ได้ขอหมายศาลเข้าตรวจค้นบ้านเช่าเลขที่ 42/61 ม.3 ต.บ่อผุด อ.เกาะสมุย ซึ่งเป็นบ้านที่นายเฟสสตอป เช่าพักอาศัยอยู่ จากการตรวจค้นพบนายอเล็กซานเดอร์ โทลมาเชฟ อายุ 35 ปี สัญชาติรัสเซีย ที่ถูกระบุว่าเป็นอีกคนหนึ่งที่ร่วมกันอุ้มผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ที่รอดพ้นการจับกุมมา เมื่อคืนนี้พักอยู่ที่บ้านหลังดังกล่าว เจ้าหน้าที่ยึดเงินสดไทย จำนวน 41,000 บาท คาดว่าเป็นเงินที่ได้มาจากการรีดไถก่อนหน้านี้
และได้ขอหมายศาลเข้าตรวจค้นบ้านเช่าเลขที่ 42/59 ม.3 ต.บ่อผุด อ.เกาะสมุย ที่อยู่ใกล้กัน ซึ่งเป็นบ้านพักของ นายเดนนิส พบว่า บ้านหลังดังกล่าวมีนางแอนนา อาคาร์เม็ดยาโนวา อายุ 27 ปี แฟนสาวของ นายเดนนิส พักอาศัยอยู่ จากการตรวจค้นเจ้าหน้าที่พบอาวุธปืนขนาด 380 จำนวน 1 กระบอก เครื่องกระสุนปืน จำนวน 68 นัด และเงินสดไทย และเงินดอลลาร์อีกจำนวนกว่า 2 แสนบาท โดยเงินที่ตรวจยึดได้บางส่วนจากผู้ต้องหา เมื่อนำมาเปรียบเทียบกันเอกสารหมายเลขธนบัตรที่ผู้เสียถ่ายเอกสารไว้บางฉบับหมายเลขตรงกัน
ขณะที่ทาง พ.ต.อ.จำโนทย์ แก้วขาว ผกก.สภ.เกาะสมุย เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้เคยได้ทราบข่าวว่ามีแก๊งมาเฟียชาวรัสเซียตั้งแก๊งรีดไถนักธุรกิจชาติเดียวกัน แต่ก็ไม่มีข้อมูลที่จะนำไปสู่การจับกุมได้ แต่ครั้งนี้เจ้าหน้าที่สามารถบุกเข้าช่วยเหลือผู้เสียหาย และได้รวบรวมพยานหลักฐานติดตามจับกุมแก๊งนี้ได้ จำนวน 4 คน และยึดเงินสดของผู้เสียหามาได้อีกจำนวนหนึ่ง โดยก่อนหน้านี้ กลุ่มผู้ต้องหาได้ข่มขู่เอาเงินจากผู้เสียหายไปแล้ว จำนวนกว่า 1.6 ล้านบาท ซึ่งทางเจ้าหน้าที่จะได้ติดตามขยายผลจับกุมแก๊งมาเฟียชาวรัสเซียแก๊งนี้ต่อไป เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักลงทุนชาวต่างชาติที่จะมาลงทุนทำกิจการในเกาะสมุยว่าจะได้รับการดูแลอย่างปลอดภัยจากเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่