xs
xsm
sm
md
lg

ผบ.ตร.แถลงจับกุมแก๊งปล้นทรัพย์-ข่มขืนสาวรัสเซีย

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


ผบ.ตร.แถลงจับกุม 3 ผู้ต้องหาปล้นทรัพย์ข่มขืนนักท่องเที่ยวสาวชาวรัสเซีย เหตุเกิดบริเวณริมถนนพระตำหนักซอย 2 หมู่ 12 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี

วันนี้ (2 ม.ค) เวลา 16.00 น.ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร. พร้อมด้วย Mr.Alexey Budanov รองกงสุลประจำ สอท.รัสเซีย ประจำประเทศไทย พล.ต.อ.ปานศิริ ประภาวัต รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.จรัมพร สุระมณี ผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.ท.วินัย ทองสอง ผบช.ภ.2 ตำรวจสอบสวนกลาง ตำรวจท่องเที่ยว และตำรวจสืบสวน สภ.พัทยา แถลงการจับกุมผู้ต้องหาคดีปล้นทรัพย์และข่มขืนนักท่องเที่ยวชาวรัสเซีย ประกอบด้วย ผู้ต้องหา 3 ราย ได้แก่ นายวิเชียร หรือบังฟี ใจจา อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 41/7 หมู่ 5 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี, นายธงชัย หรือโก๋ จันท์ดี อายุ 20 ปี และนายอนุวัตร์ หรือเค วัดอ่อน อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 162 หมู่ 1 ต.ท่าทอง อ.เมือง จ.พิษณุโลก พร้อมของกลางอาวุธปืนไทยประดิษฐ์ลูกซองสั้น 1 กระบอก รถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า รุ่นไมตี้เอ็กซ์ สีน้ำเงินเข้ม หมายเลขทะเบียน บธ 7200 ชลบุรี กระสุนปืนลูกซองเบอร์ 12 จำนวน 3 นัด โทรศัพท์มือถือยี่ห้อซัมซุง 1 เครื่อง กระเป๋าสะพายรูปจระเข้ 1 ใบ ธนบัตรไทย 1,320 บาท ธนบัตรสิงคโปร์ 7 ดอลลาร์ สร้อยทองเหลือง 1 เส้น กุญแจต่างๆ รวม 51 ดอก และอาวุธมีด 1 เล่ม โดยจับกุมตัวนายวิเชียรได้ที่โรงแรมบลูไดมอนด์ อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา ส่วนนายอนุวัตร์อยู่ในเรือนจำจังหวัดชลบุรีข้อหายาเสพติด และนายธงชัยอยู่ภายในห้องขัง สภ.พัทยา คดียาเสพติด

พล.ต.อ.อดุลย์เปิดเผยว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 25 ธ.ค. 2555 เวลาประมาณ 03.00-05.00 น. โดยคนร้ายทั้ง 3 คนได้ใช้ปืนและมีดเป็นอาวุธ พร้อมด้วยรถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า รุ่นไมตี้เอ็กซ์ สีน้ำเงินเข้ม หมายเลขทะเบียน บธ 7200 ชลบุรี วิ่งมาบริเวณถนนพระตำหนักซอย 2 หมู่ 12 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี กระทั่งพบนักท่องเที่ยวหญิงสาวชาวรัสเซีย 2 คนกำลังเดินอยู่ จึงได้จี้ตัวฉุดขึ้นรถแล้วทำการปล้นทรัพย์สินต่างๆ และนำตัวไปในที่เปลี่ยวซึ่งเป็นป้อมร้างเพื่อลงมือข่มขืนกระทำชำเราแล้วหลบหนีไป

พล.ต.อ.อดุลย์กล่าวอีกว่า คดีนี้เป็นการปฏิบัติร่วมกันภายใต้การควบคุมของของ พล.ต.อ.ปานศิริ โดยภายหลังเกิดเรื่องได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ทำงานอย่างเต็มที่ จนสามารถจับกุมคนได้ภายในเวลาอันรวดเร็ว นอกจากนี้ ได้สั่งการให้เยียวยาผู้เสียหายอย่างเต็มที่ โดยผู้เสียหายได้เขียนการ์ด ส.ค.ส.ขอบคุณตำรวจไทยที่สามารถจับกุมคนร้ายได้

พล.ต.ท.วินัยกล่าวว่า หลังจากเกิดเหตุแล้วผู้เสียหายทั้งสองรายได้เดินทางมาแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พัทยา หลังจากนั้นได้เร่งทำการสืบสวน โดยจัดตั้งศูนย์ ศปก.ตร.เพื่อบูรณาการระดมความร่วมมือกับตำรวจหลายหน่วยงาน จนสามารถแกะรอยคนร้ายได้จากพยานหลักฐานภาพกล้องวงจรปิดไล่ดูจนพบหลักฐาน พยานบุคคล และพยานหลักฐานจากที่เกิดเหตุ กระทั่งสามารถติดตามไปพบรถต้องสงสัยคันดังกล่าวได้ที่บ้านภรรยาหลวงของนายวิเชียร ที่อยู่ในจังหวัดชลบุรี แล้วสืบสวนทราบว่าหลบหนีมาพักอยู่กับภรรยาน้อยที่ จ.ฉะเชิงเทรา จึงติดตามจับกุมตัวได้ที่โรงแรมดังกล่าว

ด้าน พล.ต.ท.จรัมพรกล่าวว่า ผลจากทางนิติวิทยาศาสตร์นั้น จากสถานที่เกิดเหตุซึ่งเป็นป้อมร้าง พบกระเบื้องที่เป็นรอยแตก มีคราบเลือดของผู้เสียหาย เส้นผม และก้นบุหรี่ของคนร้ายตกอยู่ จากการบอกของผู้เสียหายว่า เพื่อนได้อาเจียนไว้บริเวณประตูรถ เมื่อตรวจสอบประตูรถพบคราบอาเจียน ซึ่งตรงกับผู้เสียหาย อีกทั้งภายในรถยังเก็บเส้นผมได้อีก 11 เส้น ซึ่งมี 1 เส้นเป็นสีทองตรงกับผู้เสียหาย จากคราบอสุจิที่เสื้อของผู้เสียหายทั้ง 2 เส้น ขนเพชรเปรียบเทียบแล้วตรงกับ นายอนุวัตร์ หรือเค และดีเอ็นเอจากก้นบุหรี่ก็ตรงกับผู้ต้องหา ทำให้เชื่อมโยงจนเป็นแนวทางสืบสวนหาเส้นทางหลบหนีคนร้ายได้ และหากคนร้ายปฏิเสธสามารถเอาผิดได้เนื่องจากพยานหลักฐานแน่นหนาชัดเจน

จากการสอบสวนนายวิเชียรให้การอ้างว่า นายธงชัยเป็นคนชักชวนไปปล้นทรัพย์ เห็นน้องอยากได้เงินก็เลยพาไป ที่ทำไปนั้นเพียงประสงค์ต่อทรัพย์ไม่ได้ตั้งใจจะข่มขืน แต่พอทำไปแล้วก็ไม่รู้จะทำยังไงจึงหลบหนีไป ตนก็รู้สึกเสียใจและอยากขอโทษ อีกทั้งปืนก็เป็นของนายธงชัย ส่วน นายอนุวัตร์ทำหน้าที่ขับรถเท่านั้น ขยายผลทราบว่านายธงชัยขณะถูกจับได้ถูกควบคุมตัวที่ สภ.พัทยาในข้อหายาเสพติด และจับกุมนายอนุวัตร์ขณะฟื้นฟูยาเสพติดที่เรือนจำชลบุรี นอกจากนี้ ผู้ต้องหาทั้ง 3 ยังติดยาเสพติดอีกด้วย เมื่อตรวจสอบประวัติพบว่านายวิเชียรมีหมายจับของศาลจังหวัดกำแพงเพชรในคดีพยายามฆ่า ส่วนนายธงชัยมีหมายจับในข้อหายาเสพติดด้วย

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาร่วมกันปล้นทรัพย์ผู้อื่น โดยมีหรือใช้อาวุธปืนและยานพาหนะ เพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดหรือพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นการจับกุม ข่มขืนกระทำชำเราหญิงอื่นโดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยมีหรือใช้อาวุธปืนพาหญิงอื่นไปเพื่อการอนาจารโดยใช้กำหลังประทุษร้าย ข่มขืนผู้อื่นให้กระทำการใดหรือจำยอมต่อสิ่งใดโดยใช้กำลังประทุษร้ายจนผู้ถูกข่มขืนจำยอมต่อสิ่งนั้นโดยมีอาวุธ หน่วยเหนี่ยว หรือกังขังผู้อื่น หรือทำให้ปราศจากเสรีภาพในการร่างกาย ทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ มีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไมได้รับอนุญาตและพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต และไม่มีเหตุอันสมควร

ด้าน มิสเตอร์อเล็กซ์เซย์ บูดานอฟ กล่าวว่า ขอขอบคุณตำรวจไทยที่สามารถจับกุมคนร้ายได้ในเวลาอันรวดเร็ว ด้วยความที่เป็นมืออาชีพ และขอให้ปกป้องนักท่องเที่ยวอย่างนี้ตลอดไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังแถลงข่าว นายอิทธิพล คุณปลื้ม นายกเทศเมืองพัทยา ได้มอบกระเช้าดอกไม้ขอบคุณ ผบ.ตร.และเจ้าหน้าที่ตำรวจที่สามารถจับกุมคนร้ายได้อย่างรวดเร็ว ซึ่ง ผบ.ตร.ได้มอบเงินรางวัลให้แก่เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม

ต่อมา พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร.เปิดเผยถึงเหตุนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษถูกยิงเสียชีวิต ภายในงานเคานต์ดาวน์ที่ เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี เมื่อวันที่ 1 มกราคม 2556 เวลาประมาณ 04.10 น.ที่ผ่านมาว่า จากการสืบสวนพบว่าเป็นเหตุกลุ่มวัยรุ่นทะเลาะวิวาท และใช้อาวุธปืนไล่ยิงกัน แต่กระสุนพลาดไปถูกนายนายสตีเฟน เดวิด แฮนตัน อายุ 22 ปี นักท่องเที่ยวชาวอังกฤษ เสียชีวิต 1 ราย และนายปิยะพล จันทร์ทอง อายุ 20 ปี นักท่องเที่ยวชาวไทย ได้รับบาดเจ็บ 1 รายด้วย ทั้งนี้ ล่าสุดทางเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้แล้ว คือ นายเอกพันธ์ หรือเหล่ แกล้วกล้า อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 46/1 ต.บ้านใต้ อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี พร้อมของกลางอาวุธปืนลูกซอง 1 กระบอก
กำลังโหลดความคิดเห็น