ร.ร.ญีฮาดวิทยา ปัตตานี โวยขอความเป็นธรรมกรณี ปปง.สั่งอายัดทรัพย์สิน

ปัตตานี - ทายาทโรงเรียนญีฮาดวิทยา โวยขอความเป็นธรรมกรณีสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินสั่งอายัดทรัพย์สินของโรงเรียน และข้อกล่าวหาที่เกินความเป็นจริงในหลายๆ กรณี

วันนี้ (8 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณโรงเรียนญีฮาดวิทยา (ปอเนาะ) ตั้งอยู่ ม.4 บ้านท่าด่าน ต.ตะโล๊ะกาโปร์ อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี เป็นไปอย่างเงียบเหงา มีอาคารเรียนที่อยู่ในสภาพทรุดโทรม มีปอเนาะที่พักของนักศึกษาบางหลังเริ่มชำรุด และพังไปบางส่วน หลังจากที่ถูกเจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงมีคำสั่งติดประกาศปิดโรงเรียนแห่งนี้เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2548 ทำให้นักเรียนต่างก็แยกย้ายไปเรียนที่โรงเรียนอื่น บางคนถึงขั้นหยุดเรียนกลางคัน

ซึ่งเยาวชนในชุมชนส่วนใหญ่ที่เข้ามาศึกษาในโรงเรียนแห่งนี้มีฐานะยากจน จึงมีความต้องการที่จะเปิดโรงเรียนเพื่อต้องการให้การศึกษาให้แก่คนภายในชุมชน โดยเริ่มเปิดเมื่อปี พ.ศ.2511 มีนายบาราเฮง เจ๊ะอาแซ เป็นผู้สอน (โต๊ะครู) จนถูกยิงเสียชีวิตในระหว่างพานักเรียนไปรับประทานอาหารในงานเมาลิดในพื้นที่บ้านกาโต ต.ปะนาระ อ.ปะนาเระ เมื่อปี พ.ศ.2521

โรงเรียนญีฮาดวิทยาตั้งแต่เปิดมานั้นไม่เคยได้รับการช่วยเหลือจากภาครัฐมาเลย แต่ที่โรงเรียนอยู่ได้จากการบริจาคกองทุนซากาตจากประชาชนเป็นหลัก และทางผู้บริหารโรงเรียนก็ไม่เคยมีความคิดที่จะของบสนับสนุนจากทางราชการ เพราะปกติโรงเรียนที่สอนแบบปอเนาะมักไม่ขอการสนับสนุนเงินจากราชการอยู่แล้ว และราชการเองก็ไม่ได้มีนโยบายให้การอุดหนุนโรงเรียนปอเนาะอยู่แล้วในขณะนั้น

นางยามาฮี แวมะนอ ลูกสาวของโต๊ะครูเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า วันนี้อยากเรียกร้องความเป็นธรรมให้แก่ครอบครัว และแก่โรงเรียนญีฮาดวิทยา ที่ผ่านมาเราได้รับความอยุติธรรมจากหน่วยงานของรัฐมาครั้งแล้วครั้งเล่า ตั้งแต่วันที่ 19 พฤษภาคม 2548 ที่เจ้าหน้าที่ ทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครอง เข้าทำการปิดล้อม และควบคุมตัวน้องชาย พร้อมนักเรียนอีก 2 คน พร้อมยึดรถยนต์เป็นของกลางอีกหลายรายการ อ้างว่าจะนำไปตรวจสอบจนถึงวันนี้ก็ยังไม่ได้รับคืน จากนั้น เมื่อวันนี่ 21 พฤษภาคม ในปีเดียวกันได้มีหมายให้ปิด และห้ามเปิดโรงเรียน พร้อมระบุข้อกล่าวหาว่า เป็นที่ฝึกกำลังเพื่อก่อการร้าย จากนั้นในปีเดียวกัน เมื่อวันที่ 20 มิถุนายน นายริฏวาน แวมะนอ อายุ 24 ปี ลูกชาย ถูกยิงเสียชีวิตภายในบ้านเช่ารวมกับเพื่อนอีก 3 ศพ โดยถูกยิงด้วยอาวุธปืนที่เก็บเสียง จนถึงวันนี้ยังไม่ทราบผลคดี มีเพียงบางหน่วยงานที่ได้ส่งคนมาติดต่อ พร้อมที่จะชดเชยค่าความเสียหายในกรณีลูกชายถูกยิง จำนวนเงิน 2 ล้าน แต่ถูกปฏิเสธจากญาติเพราะทางญาติต้องการรู้ว่าใครยิงลูกชาย

นางยามาฮี กล่าวต่ออีกว่า โรงเรียนแห่งนี้มี นางติฮาวอ แวดอเลาะ (มารดา) เป็นผู้ได้รับอนุญาตจัดตั้งเปิดโรงเรียนประเภทสอนศาสนาอิสลาม ตามมาตรา 20 โดยจัดสอนวิชาอิสลามศึกษา ภาษายาวี ภาษาอาหรับ ภาษารูมี และภาษาไทย จึงไม่นึกเลยว่าชะตาโรงเรียนที่ได้ดำเนินการมา 40 กว่าปี ต้องลงเอยมาเช่นนี้ และมีความพยายามที่จะให้มีการยึดสถานที่โรงเรียนที่มีเนื้อที่ 14 ไร่เศษ ที่ตกเป็นมรดกของทายาทตามกฎหมายเมื่อปี 2528 และที่ดินแห่งนี้ไม่มีความเกี่ยวข้องกับนายอับดุลเลาะ แวมะนอ ที่ต้องตกเป็นผู้ต้องหา และศาลได้มีการพิพากษาว่าเป็นบุคคลสูญหายไปแล้ว