ปัตตานี - ชาวประมงพื้นบ้านปัตตานี 300 คน นำเรือ 100 ลำชุมนุมปิดเส้นทางเข้าออกท่าเรือประมง หลังมีการจับกุมเรืออวนลาก พร้อม 2 ผู้ต้องหา พร้อมยื่น 4 ข้อเรียกร้องที่ขัดกับข้อกฎหมายกำหนด ส่งผลให้กองเรือประมงกว่า 2 พันลำเป็นอัมพาต และอาหารทะเลขาตลาด
ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.ปัตตานี ว่า วันนี้ (7 ก.พ.) ที่บริเวณปากอ่าวแม่น้ำปัตตานี ตรงข้ามกับสำนักงานศูนย์บริหารจัดการประมงทะเลปัตตานี ได้มีชาวประมงพื้นบ้านประมาณ 300 คน นำเรือประมงพื้นบ้านในพื้นที่ อ.เมือง ปัตตานีปิดเส้นทางเดินเรือของเรือทุกชนิดไม่ให้ผ่านออกไปทำการประมง ส่งผลกระทบทำให้เรือประมงกว่า 2 พันลำไม่สามารถออกไปทำการประมงในทะเล และไม่สามารถนำเรือเข้าเทียบท่าได้ สร้างความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก ทำให้ท่าเทียบเรือประมงไม่มีเรือประมงเข้าเทียบท่า และทำให้อาหารทะเลขาดตลาด
ทั้งนี้ การชุมนุมประท้วงเนื่องจากศูนย์บริหารจัดการประมงทะเลปัตตานี พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่หลายฝ่าย ได้ทำการจับกุมเรือประมงพื้นบ้านที่ประกอบอาชีพอวนลาก จำนวน 1 ลำ ได้ผู้ต้องหา 2 คนคือ นายรอซะ หะยีตายิ และนายมะรูดิง กาซอ ทั้งสองเป็นคนตำบลบานา อ.เมือง จ.ปัตตานี ที่หาปลาในเขต 3 ไมล์ทะเล ซึ่งเป็นเขตหวงห้าม สร้างความไม่พอใจแก่ชาวประมงพื้นบ้าน ดังนั้น ชาวประมงอวนลากจาก อ.อหนองจิก และ อ.เมือง จ.ปัตตานี ได้นำเรือประมาณ 100 ลำปิดแม่น้ำปัตตานี
โดยมีการส่งตัวแทนเข้ายื่นข้อเรียกร้องกับ ผศ.ปิยะ กิถาวร รองเลขาธิการ ศอ.บต.และคณะที่ไปรับทราบข้อเรียกร้อง 4 ข้อคือ 1.ให้สามารถทำการประมงอวนลากได้ในเขต 3 ไมล์ทะเล 2.สามารถทำได้ตั้งแต่พื้นที่หัวแหลมร่องน้ำปัตตานี-บ้านบางระพา อ.หนองจิก จ.ปัตตานี 3.ห้ามมีเรือนอกพื้นที่มาทำการประมงในพื้นที่ดังกล่าว และ 4.ไม่ให้มีเรือพาณิชย์มาทำการประมงในเขต 3 ไมล์ทะเล
แต่ที่ประชุมไม่สามารถสรุปได้ เนื่องจากข้อกฎหมายไม่สามารถหาปลาได้ในเขต 3 ไมล์ทะเล ขณะที่ชาวบ้านบอกว่า ถ้าหาปลาตามกฎหมายนอกเขต 3 ไมล์ทะเล ชาวประมงพื้นบ้านไม่สามารถทำการประมงได้ เพราะคลื่นสูง ประกอบกับไกล ทำให้ได้รับความเดือดร้อน แต่ถ้าจะให้หยุดทำการประมงก็ต้องชดใช้ และเปลี่ยนอาชีพตามที่รัฐบาลเคยรับปากไว้ ปรากฏว่า ไม่สามารถหาข้อสรุปได้ ทำให้ชาวประมงพื้นบ้านปิดอ่าว และชุมนุมต่อไป
ระหว่างการชุมนุมมีตำรวจ ทหาร และ อส.เข้ามาดูแลความปลอดภัยอย่างเข้มงวด สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าว มีการชุมนุมในลักษณะนี้มาแล้วเมื่อปีที่แล้ว และมีมติให้อนุโลมให้สามารถทำการประมงได้ แต่ครั้งนี้เจ้าหน้าที่ไม่ยอม และจะต้องดำเนินการตามกฎหมายเท่านั้น
