ชุมพร - ผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร ควงนายกเหล่ากาชาด รุดเยี่ยมสองตายายไร้ญาติที่ถูกทอดทิ้ง ตำติหน่วยงานเกี่ยวข้องละเลย พร้อมสั่งตรวจสอบทุกหมู่บ้านอย่าให้เกิดขึ้นอีก สะท้อนสังคมไทยทีกับต่างด้าว หรือสุนัข กลับบริจาคช่วยเหลือกันเกือบร้อยล้าน
จากกรณีนายเจือ และนางพะยอม กองเจ สองสามีภรรยา อายุ 85 ปี ทั้งสองตายายไม่มีญาติ และมีลูก อยู่กินกันจนแก่ชรา และเดินไม่ได้ถูกปล่อยทิ้งให้อยู่ในกระต๊อบร้างริมคลองอีเล็ค หมู่ที่ 2 ต.ท่ายาง อ.เมือง จ.ชุมพร ห่างจากถนนสายชุมพร-ปากน้ำชุมพร ประมาณ 10 เมตร จนกระทั่ง น.ส.สุทธิดา หน่อแก้ว อายุ 20 พนักงานของ บริษัท ซีเฟรชอินดัสตรี จำกัด (มหาชน) ไปพบ และแจ้งผู้สื่อข่าวจนมีหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องลงไปให้ความช่วยเหลือแล้วนั้น
ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อเวลา 15.00 น.วันนี้ (17 ม.ค.) นายพีระศักดิ์ หินเมืองเก่า ผวจ.ชุมพร พร้อมด้วย นางกัญฐณา หินเมืองเก่า นายกเหล่ากาชาดชุมพร ได้เดินทางไปเยี่ยม นายเจือ กองเจ และนางพะยอม กองเจ สองสามีภรรยา อายุ 85 ปี พร้อมนำเงินจำนวน 5 พันบาท และสิ่งของอำนวยความสะดวกไปมอบให้ เพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้สองตายายได้มีสุขภาพ และจิตใจที่ดีขึ้น หลังจากก่อนหน้านั้น น.ส.วัลภา แก้วสวี นักสังคมสงเคราะห์ สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.ชุมพร น.ส.เอี่ยม มากอำไพ นายกเทศมนตรีตำบลท่ายาง และหน่วยงานเกี่ยวข้องเข้าไปช่วยเหลือ
โดย น.ส.เอี่ยม มากอำไพ นายกเทศมนตรีตำบลท่ายาง เจ้าของพื้นที่เป็นผู้รับผิดชอบ และดำเนินการจัดหาที่พักให้อยู่อาศัยที่บ้านเช่าเลขที่ 30/9 หมู่ 4 ต.ท่ายาง อ.เมือง จ.ชุมพร พร้อมจ้างคนดูแลรายวันเป็นกรณีพิเศษวันละ 300 บาท คอยจัดหาอาหารให้สองตายาย วันละ 3 มื้อ โดยมีหน่วยแพทย์ และ อสม.คอยช่วยเหลือฟื้นฟูสุขภาพ และการทำกายภาพ จนกว่าทั้งสองตายายจะมีสุขภาพดีขึ้นก่อนจะส่งให้แก่บ้านพักคนชราเข้ามาดำเนินการต่อไป
นายพีระศักดิ์ หินเมืองเก่า ผวจ.ชุมพร เปิดเผยว่า ในเบื้องต้นได้กำชับให้ทางพื้นที่ได้แวะเวียนมาเยี่ยม และนำแพทย์มาตรวจสุขภาพสองตายายอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นการฟื้นฟูสุขภาพจิตใจให้ทั้งสองสามารถปรับตัวเข้ากับสังคมให้ได้ เพราะว่าสองตายายซึ่งอายุมากถึง 85 ปี ยังหวาดกลัวเมื่อมีผู้คนจำนวนมากมารุมล้อม อาจจะเกิดจากการที่ถูกทอดทิ้งให้อยู่เพียงลำพัง 2 คนมาเป็นเวลานาน ซึ่งที่ผ่านมา มีไม่กี่คนที่คอยนำอาหารมาให้และคุ้นเคยกับตายายที่จำได้
นายพีระศักดิ์ ยังกล่าวตำติการทำงานของภาครัฐ เช่น พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ พัฒนาชุมชน และหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องที่ปล่อยปละละเลยให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นในสังคมไทย และต้องมาทำงานตามหลังนักข่าว ต้องให้สื่อมวลชนนำเสนอข่าวก่อนแล้วค่อยแห่กันมาช่วยเหลือ ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว กลไกของรัฐไม่ว่าจะเป็นเครือข่ายในแต่ละท้องถิ่นจะมีอยู่มาก เช่น อสม. กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำชุมชน แม้กระทั่งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จึงไม่น่าจะปล่อยให้หลุดพ้นจากสายตาไปได้ ถ้าหากให้ความสำคัญแก่ผู้ด้อยโอกาส ดังนั้น นับจากนี้เป็นต้นไป ตนจะสั่งการ และกำชับอย่างเด็ดขาดให้หน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้อง ในทุกหมู่บ้าน ทุกตำบล ออกสำรวจผู้ด้อยโอกาสเพื่อช่วยเหลือไม่ให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีก
ผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร ยังกล่าวอีกว่า นายเจือกับนางพะยอมเป็นคนไทย ดังนั้น พึงจะได้รับสิทธิประโยชน์ตามกฏหมายที่มีอยู่ทุกประการ ทำไมคนต่างด้าวที่ตกทุกข์ได้ยากอยู่ในเมืองไทย หรือแม้แต่สุนัขที่ถูกจับขังกรงส่งไปขายต่างประเทศ เมื่อได้รับการช่วยเหลือเป็นข่าวตามสื่อต่างๆ คนไทยกลับบริจาคสิ่งของ และเงินกันเกือบ 100 ล้าน แต่นี่นายเจือ นางพะยอมเป็นมนุษย์เป็นคนไทยแท้ๆ กลับไม่มีใครสนใจ ตนจึงไม่อยากให้สังคมไทยทำงาน หรือช่วยเหลือกันตามกระแสที่เกิดขึ้น
