ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - พบกลุ่มมุสลิมโรฮิงญาเดินเร่ร่อน และพลัดหลงอยู่ตามแนวเขาเขตรอยต่อ จ.สงขลา และสตูล หลังถูกนายหน้าลอยแพปลดทรัพย์เพื่อหนีความผิด หลังเป็นข่าวใหญ่กรณีเจ้าหน้าที่ช่วยออกมาได้ 856 คน ชาวบ้านได้ร่วมกันช่วยเหลือให้พักในมัสยิด
เมื่อเวลา 18.30 น.วันนี้ (15 ม.ค.) ชาวบ้านในพื้นที่บ้านฉลุง ม.7 ต.ฉลุง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ได้ให้การช่วยเหลือมุสลิมชาวโรฮิงญา ซึ่งเป็นชาย 2 คน หลังจากถูกพบเดินเร่ร่อน และพลัดหลงอยู่ตามแนวเทือกเขาแก้ว เขตรอยต่อ จ.สงขลา และจ.สตูล ในสภาพที่อิดโรยมีเพียงข้าวโพดคนละฝักสำหรับยังชีพ และสวมใส่เสื้อผ้าชุดเดียว โดยชาวบ้านได้นำมาพักไว้ชั่วคราวในมัสยิดภายในหมู่บ้าน พร้อมกับช่วยกันนำอาหาร และผลไม้มาให้กิน และนำเสื้อผ้ามาให้ผลัดเปลี่ยน ก่อนที่จะประสานให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง และตำรวจรับไปดำเนินการ
จากการสอบถามชาวโรฮิงญาทั้ง 2 คน บอกว่า ในกลุ่มมีชาวโรฮิงญาที่มาด้วยกันประมาณ 30 คน ทั้งผู้หญิง ผู้ชาย และเด็กๆ แต่ถูกนายหน้าหลอกพามาปล่อยทิ้งไว้ในพื้นที่ จ.สตูล โดยได้ปลดทรัพย์สินไปด้วย จึงต้องเดินลัดเลาะผ่านเทือกเขามาแบบไร้จุดหมายกว่า 2 วัน และกระจายกันไปคนละทางเพื่อเอาตัวรอด บางส่วนถูกเจ้าหน้าที่จับกุม ส่วนที่เหลือยังไม่ทราบชะตากรรม และน่าจะยังคงพลัดหลงอยู่ในป่า
ทั้งนี้ คาดว่ากลุ่มนายหน้าที่ลักลอบนำพาชาวโรฮิงญากลุ่มนี้เข้ามาน่าจะมีปลายทางมาส่งที่ชายแดน อ.สะเดา จ.สงขลา แต่หลังทราบข่าวว่ามีการช่วยเหลือชาวโรฮิงญาที่ถูกกักตัวไว้ทั้ง 865 คน จึงปล่อยลอยแพเพื่อหนีความผิด เนื่องจากเจ้าหน้าที่ได้เพิ่มความเข้มงวดในการสกัดกั้น และจับกุมมากขึ้น
