ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรมภูเก็ตยันค่าแรง 300 บาท ไม่กระทบธุรกิจโรงแรมภูเก็ตในระยะสั้น เหตุจ่ายเกิน 300 บาทอยู่แล้ว แต่พบปัญหาค่าใช้จ่ายนักท่องเที่ยวลดลง ในระยะยาวอาจกระทบได้ วอนรัฐหามาตรการช่วยธุรกิจ SME
หลังจากที่รัฐบาลมีการประกาศขึ้นค่าแรงขั้นต่ำเป็น 300 บาทอย่างเป็นทางการทั่วประเทศ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2556 หลายจังหวัดที่ค่าแรงขั้นต่ำน้อยกว่า 300 บาท เริ่มมีการขยับตัวของผู้ประกอบการทุกสาขาอาชีพ แต่ที่จังหวัดภูเก็ตนั้น ภาคเอกชน หรือผู้ประกอบการออกมาบอกว่า ไม่มีผลกระทบใดๆ เนื่องจากอัตราค่าจ้างขั้นต่ำส่วนใหญ่ที่ผู้ประกอบการจ่ายนั้นเฉลี่ยเกิน 300 บาทอยู่แล้ว
นายภูริต มาศวงศา อุปนายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ค่าแรงขั้นต่ำที่เพิ่มขึ้นเป็น 300 บาทต่อวันนั้น ทางจังหวัดภูเก็ตไม่มีผลมากนัก เนื่องจากภูเก็ตได้มีการประกาศใช้ค่าแรง 300 บาทล่วงหน้ามาประมาณปีแล้ว ภาคธุรกิจโรงแรมได้ปรับฐานเงินเดือนของพนักงานขั้นต่ำค่าจ้างวันละ 300 บาทแล้ว ทั้งยังมีในเรื่องของเซอร์วิสพนักงาน ทำให้มีรายได้เกินกว่าค่าแรงขั้นต่ำ
แต่ที่พบขณะนี้เป็นปัญหาที่เรื่องรายได้ของภาคธุรกิจโรงแรมที่ลดลง แม้จะมองว่ามีลูกค้าเข้ามามาก แต่รายได้เฉลี่ยต่อหัวต่ำลง เนื่องจากตลาดนักท่องเที่ยวที่เข้ามาเป็นตลาด mass ซึ่งเป็นลักษณะการซื้อแพกเกจ จึงทำให้มีวันพักสั้นลง ค่าใช้จ่ายจึงมีราคาถูก ทั้งตลาดก็มีการเปลี่ยนแปลง ปัจจุบัน มีตลาดนักท่องเที่ยวเอเชีย และรัสเซียเข้ามาเยอะ ทำให้มีรายได้ลดลง นอกจากนี้ ยังมีปัญหาค่าเงินบาทผันผวนทำให้ตลาดมีปัญหา คาดว่าในระยะยาวน่าจะมีผลกระทบ และจะต้องปรับตัวกัน
“บางส่วนควรจะต้องได้รับการเยียวยาจากรัฐบาลในระยะหนึ่ง จนกว่าจะยืนเองได้ และรัฐบาลเองก็ควรจะพิจารณาว่าในระยะต้นมีมาตรการใดที่สามารถเยียวยาผู้ประกอบการได้ ก็ควรจะส่งเสริมส่วนในภาคธุรกิจอื่นๆ” นายภูริต กล่าวและว่า
เท่าที่ได้พูดคุยกันที่มีผลกระทบจริงๆ คือธุรกิจ SME ตรงนั้นจะส่งผลกระทบโดยตรง เพราะรายได้สุทธิจะต้องจ่ายให้แก่พนักงาน พอมีการปรับค่าแรงเท่ากันทั่วประเทศในสภาวะที่ค่าแรงขั้นต่ำเดิมไม่เท่ากัน ทำให้ค่าใช้จ่ายแต่ละแห่งไม่เท่ากัน จังหวัดที่ปรับน้อยอาจไม่มีปัญหา แต่จังหวัดที่ปรับมาก เช่นเดิมทีค่าแรง 200 กว่าบาท พอปรับเป็น 300 เท่ากับเดือนละ 3,000 ก็ถือว่ามาก รัฐบาลจึงควรหามาตรการเยียวยาในเบื้องต้น อาจจะระยะ 6 เดือน หรือ 1 ปี
