ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - แบงก์ชาติเผยสรุปภาวะเศรษฐกิจเดือน ก.ย.-ไตรมาส 3 ยังขยายตัวต่อเนื่อง แจงภาคอุปโภคบริโภคยังดีสินค้าเกษตรรายได้เพิ่ม ส่วนภาคลงทุน-ท่องเที่ยวยังคึกคัก ค้าชายแดนยอดเพิ่ม-นักท่องเที่ยวแยะ แนะจับตาส่งออก เหตุนอกจากค้าชายแดนตัวเลขที่เหลือเริ่มหด ส่วนท่องเที่ยวชี้ “จีน” เริ่มมาเยอะ ส่อแววกำหนดทิศทางตลาด
วันนี้ (2 พ.ย.) ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคเหนือ ได้จัดการแถลงข่าวเศรษฐกิจและการเงินเดือนกันยายน และไตรมาสที่ 3 ปี 2555 ขึ้น โดยมีนายสมศักดิ์ วงศ์ปัญญาถาวร ผู้อำนวยการธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคเหนือ เป็นประธานในการแถลงข่าว
การแถลงข่าวในครั้งนี้เป็นการนำเสนอสรุปภาวะเศรษฐกิจและการเงินเดือนกันยายน และไตรมาสที่ 3 ปี 2555 ทั้งในระดับประเทศและในส่วนของภาคเหนือตอนบน โดยในส่วนของภาคเหนือตอนบนนั้น ในช่วงเดือนกันยายนพบว่าเศรษฐกิจยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นผลมาจากแรงขับเคลื่อนของการบริโภค การลงทุน การใช้จ่ายภาครัฐ และการส่งออกโดยเฉพาะการส่งออกผ่านด่านชายแดน ในขณะที่การส่งออกบางส่วนยังคงได้รับผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจยุโรป และอัตราเงินเฟ้อยังคงสูงขึ้นตามราคาพลังงาน
ในส่วนของการอุปโภคบริโภคภาคเอกชนพบว่ายังขยายตัวได้ดี จากปัจจัยของอัตราดอกเบี้ยและสินเชื่อที่เอื้ออำนวย รวมถึงรายได้จากภาคการเกษตรและการท่องเที่ยวที่อยู่ในเกณฑ์ดี โดยดัชนีการลงทุนภาคเอกชนขยายตัวร้อยละ 12.5 ตามการขยายตัวของภาคอสังหาริมทรัพย์ การจำหน่ายรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ และการนำเข้าเครื่องจักร ขณะที่การส่งออกมีมูลค่า 374.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัวร้อยละ 21.7 หลักๆ เป็นผลจากการส่งออกผ่านด่านชายแดน ส่วนรายได้ด้านการเกษตรก็มีการขยายตัวร้อยละ 7.1 เป็นผลจากผลผลิตการเกษตรที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.1 โดยเฉพาะในกลุ่มของข้าว
ส่วนด้านการลงทุนและการท่องเที่ยวนั้น พบว่ามีโครงการหลายโครงการที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุนจากคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน รวม 541.6 ล้านบาท ขณะที่ภาคอสังหาริมทรัพย์มีการขยายตัวสูงทั้งในส่วนของพื้นที่รับอนุญาตก่อสร้างที่อยู่อาศัยและสินเชื่อที่อยู่อาศัย ด้านการท่องเที่ยวมีอัตรานักท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้นเมื่อเทียบกับปีก่อน โดยมีสัดส่วนของนักท่องเที่ยวเอเชียเพิ่มมากขึ้น
นายสมศักดิ์กล่าวว่า สิ่งที่น่าสนใจจากภาวะเศรษฐกิจและการเงินเดือนกันยายนของภาคเหนือนั้น ประกอบด้วยตัวเลขการส่งออก ซึ่งพบว่าการส่งออกผ่านชายแดนนั้นขยายตัวดีขึ้นในทุกตลาด แต่การส่งออกระหว่างประเทศเริ่มลดลง โดยเฉพาะการผลิตเพื่อส่งออกของภาคอุตสาหกรรมบางส่วนที่เริ่มได้รับผลกระทบจากการวิกฤตเศรษฐกิจในยุโรป อย่างไรก็ตาม สินค้าในกลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ และสินค้าเกษตรแปรรูปยังขยายตัวดี ซึ่งเป็นผลมาจากการที่ผู้ผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์มีการย้ายฐานการผลิตเข้ามาอยู่ในพื้นที่ภาคเหนือเพิ่มขึ้น รวมทั้งผลจากความแห้งแล้งในสหรัฐอเมริกาและต้นทุนที่เพิ่มสูงขึ้นในจีน
ขณะที่กลุ่มอสังหาริมทรัพย์พบว่าการลงทุนในตลาดทั้งในส่วนของแนวราบและแนวดิ่งยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังคงมีความสนใจที่จะเข้ามาลงทุนในพื้นที่ภาคเหนือ โดยเฉพาะในจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งส่วนหนึ่งน่าจะเป็นผลมาจากการที่จังหวัดเชียงใหม่ยังไม่มีการประกาศผังเมืองฉบับใหม่ ทำให้ผู้ประกอบการรายหลายอาศัยช่องว่างในช่วงดังกล่าวเปิดโครงการใหม่ๆ เพื่อหลีกเลี่ยงข้อจำกัดในอนาคต
ส่วนในกลุ่มการท่องเที่ยว พบว่าตัวเลขนักท่องเที่ยวเอเชียที่เพิ่มขึ้นนั้นเป็นนักท่องเที่ยวจากจีนเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งถือเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวที่เพิ่มจำนวนขึ้นอย่างรวดเร็วและน่าจะมีผลต่อทิศทางของตลาดการท่องเที่ยวในอนาคต โดยจากการสอบถามผู้ประกอบการด้านธุรกิจท่องเที่ยวพบว่า ภาคเหนือเป็นเป้าหมายที่ชาวจีนให้ความสนใจเพิ่มมากขึ้น รวมทั้งมีนักลงทุนชาวจีนสนใจจะเข้ามาลงทุนในธุรกิจโรงแรมที่จังหวัดเชียงใหม่อีกด้วย
ผู้อำนวยการธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคเหนือกล่าวด้วยว่า สำหรับปัจจัยที่ต้องพิจารณาถึงผลกระทบต่อสภาวะเศรษฐกิจของภาคเหนือในระยะต่อไป ประกอบด้วย ภาวะเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจในยุโรปซึ่งอาจส่งผลต่อการส่งออกของไทยเพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้ภาวะเงินเฟ้อและการปรับขึ้นอัตราค่าจ้างแรงงานขั้นต่ำจะส่งผลให้ผู้ประกอบการบางส่วนจะต้องปรับตัว รวมทั้งอาจเกิดการขาดแคลนแรงงานในอุตสาหกรรมบางประเภท และยังมีปัญหาภัยธรรมชาติ โดยเฉพาะภัยแล้งที่อาจส่งผลต่อผลผลิตทางการเกษตร อย่างเช่นข้าวนาปรังในพื้นที่ภาคเหนือตอนล่างได้
