ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - เขื่อนป้องกันการกัดเซาะชายฝั่งบริเวณบ้านบ่ออิฐ ต.เกาะแต้ว อ.เมือง ไปจนถึงที่บ้านปึก ต.นาทับ อ.จะนะ กรมเจ้าท่า ถูกคลื่นซัดกระหน่ำในช่วงมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่ผ่านมา 3 ระลอก วอนกรมเจ้าท่าเร่งดำเนินการซ่อมแซม ที่ผ่านมา การดำเนินการก่อสร้างล่าช้า ขณะนี้คลื่นลมในทะเลอยู่ในสภาพปกติ
วันนี้ (10 ม.ค.) เขื่อนป้องกันการกัดเซาะชายฝั่ง บ้านบ่ออิฐ ต.เกาะแต้ว อ.เมือง จ.สงขลา ไปจนถึงที่บ้านปึก หมู่ 10 ต.นาทับ อ.จะนะ จ.สงขลา จำนวน 14 เขื่อน ระยะทาง 5 กิโลเมตร ของกรมเจ้าท่า เพื่อป้องกันการกัดเซาะชายฝั่ง เนื่องจากบริเวณนี้ได้รับผลกระทบจากการกัดเซาะชายฝั่งที่มีความรุนแรงมากในพื้นที่ของจังหวัดสงขลาทุกปี ซึ่งทางกรมเจ้าท่าได้รับงบประมาณ 150 ล้านบาทในการซ่อมแซมเขื่อนที่ชำรุดจากการถูกคลื่นลมมีกำลังแรงซัดกระหน่ำ และสร้างเพิ่มเติมพร้อมกันไปด้วย
ทั้งนี้ โดยลดช่องว่างระหว่างเขื่อนที่ก่อสร้างไว้เดิมให้น้อยลง จากเดิม 150 เมตร ให้เหลือประมาณ 80-90 เมตร และเพิ่มโครงสร้างในระหว่างช่องว่างเพื่อปิดไม่ให้น้ำทะเลเข้ามามากเหมือนที่ผ่านมา และมีการเซ็นสัญญาทำการก่อสร้างเรียบร้อยแล้ว เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม 2555 ที่ผ่านมา และจะสิ้นสุดสัญญาในเดือนธันวาคม 2556 เป็นเวลา 18 เดือน
สำหรับในช่วงฤดูมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือปีนี้ คลื่นลมมีกำลังแรงซัดกระหน่ำตัวเขื่อนจนพังเสียหายหลายเขื่อน มีทั้งพังเสียหายบางส่วน และพังเสียหายทั้งเขื่อน ทำให้ชาวบ้านในพื้นที่ชายทะเลบ้านบ่ออิฐ ต.เกาะแต้ว อ.เมือง จ.สงขลา ไปจนถึงบ้านปึก หมู่ 10 ต.นาทับ อ.จะนะ จ.สงขลา
ทั้งนี้ ชาวบ้านต้องการให้เจ้าของโครงการคือ กรมเจ้าท่าได้เร่งรัดผู้รับเหมาให้รีบดำเนินการซ่อมแซมเขื่อนที่ชำรุดให้แล้วเสร็จโดยเร็ว เพราะว่าระยะเวลาผ่านมา 6 เดือน จนเข้าฤดูมรสุมลมตะวันออกเฉียงเหนือปีนี้ เขื่อนถูกคลื่นซัดกระหน่ำมา 3 ระลอก พังเสียหายเพิ่มเติมอีกหลายจุด และในขณะนี้ คลื่นลมในทะเลอยู่ในสภาพปกติสามารถที่จะเร่งดำเนินการได้ จึงขอฝากผู้ที่เกี่ยวข้องช่วยรีบดำเนินการให้แก่ชาวบ้านโดยด่วนด้วย
