xs
xsm
sm
md
lg

ประมงพื้นบ้านสงขลาร้องผู้รับเหมาซ่อมเขื่อนกันคลื่นทิ้งงาน ปิดทางเดินปลาทำขาดรายได้

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - ชาวประมงพื้นบ้านใน ต.นาทับ อ.จะนะ เดือดร้อน เรียกร้องให้ผู้รับเหมาเร่งซ่อมแซมเขื่อนป้องกันการกัดเซาะชายฝั่งให้แล้วเสร็จโดยเร็ว เนื่องจากถนนที่ถมลงไปในทะเลปิดทางน้ำ ปลาไม่สามารถผ่านเข้ามาด้านในตัวเขื่อนที่ชาวบ้านวางเครื่องมือทำการประมงจับสัตว์น้ำได้

วันนี้ (9 ต.ค.) ชาวประมงพื้นบ้านในพื้นที่บ้านนาทับ อ.จะนะ จ.สงขลา ได้รับความเดือดร้อนจากการซ่อมแซมเขื่อนป้องกันการกัดเซาะชายฝั่งแต่ถูกทิ้งช่วงไม่ดำเนินการให้แล้วเสร็จโดยเร็ว เนื่องจากการถมทะเลเพื่อทำถนนเชื่อมไปยังตัวเขื่อนไปปิดกั้นทางน้ำ และปลา รวมทั้งสัตว์น้ำไม่สามารถว่ายเข้ามาในพื้นที่ที่อยู่ด้านในของเขื่อนได้ ส่งผลกระทบต่ออาชีพทำประมงชายฝั่ง โดยเฉพาะการวางบามดักปลากระบอกบริเวณริมชายฝั่ง เนื่องจากจำนวนปลาที่จับได้ลดน้อยลง และแทบไม่มีชาวบ้านจึงขาดรายได้

นายภาคภูมิ สิงห์สาโร หนึ่งในชาวประมงพื้นบ้านบ้านนาทับ ที่ได้รับความเดือดร้อนบอกว่า ชาวประมงพื้นบ้านโดยเฉพาะที่มีอาชีพวางบามดักปลากระบอกเพียงอย่างเดียวได้รับผลกระทบอย่างหนัก รายได้ลดลงแต่ต้องแบกรับภาระเลี้ยงดูครอบครัว จึงต้องการเรียกร้องให้ผู้รับเหมาเร่งแก้ไข โดยซ่อมแซมเขื่อนให้เสร็จโดยเร็ว หรือถ้ามีปัญหาต้องหยุดชั่วคราว ก็ควรเปิดถนนให้น้ำสามารถไหลผ่านได้ เพื่อให้ปลา และสัตว์น้ำเข้ามาในพื้นที่ชั้นในของเขื่อน ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ชาวบ้านประกอบอาชีพทำการประมงอยู่ เพราะกำลังย่างเข้าสู่ช่วงฤดูมรสุมปลายปีต้องหยุดทำการประมงอย่างน้อย 3 เดือน ในช่วงนี้ ชาวประมงพื้นบ้านจำเป็นต้องเร่งหารายได้มาสำรองไว้ใช้ในช่วงที่หยุดงาน
นายภาคภูมิ สิงห์สาโร ประมงพื้นบ้านบ้านนาทับ
สำหรับการซ่อมแซมเขื่อนป้องกันการกัดเซาะชายฝั่งบริเวณบ้านบ่ออิฐ ต.เกาะแต้ว อ.เมือง จ.สงขลา ไปจนถึงที่บ้านปึก หมู่ 10 ต.นาทับ อ.จะนะ จ.สงขลา เนื่องจากในช่วงฤดูมรสุมที่ผ่านมา คลื่นลมมีกำลังแรงซัดกระหน่ำตัวเขื่อนจนพังเสียหายหลายเขื่อน มีทั้งพังเสียหายบางส่วน และพังเสียหายทั้งเขื่อน กรมเจ้าท่าได้รับงบประมาณ 150 ล้านบาทในการซ่อมแซมเขื่อนที่ชำรุดจากการถูกคลื่นลมมีกำลังแรงซัดกระหน่ำ และสร้างเพิ่มเติมพร้อมกันไปด้วย

โดยลดช่องว่างระหว่างเขื่อนที่ก่อสร้างไว้เดิมให้น้อยลงจากเดิม 150 เมตร ให้เหลือประมาณ 80-90 เมตร และเพิ่มโครงสร้างในระหว่างช่องว่าง เพื่อปิดไม่ให้น้ำทะเลเข้ามามากเหมือนที่ผ่านมา และมีการเซ็นสัญญาทำการก่อสร้างเรียบร้อยแล้ว เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม 2555 และจะสิ้นสุดสัญญาในเดือนธันวาคม 2556 เป็นเวลา 18 เดือน


กำลังโหลดความคิดเห็น