ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - คลื่นลมในทะเลอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพราะเข้าสู่ช่วงฤดูมรสุม ชาวประมงพื้นบ้านใน จ.สงขลา จำเป็นต้องหยุดออกเรือ และหันมาหาหอยเสียบบริเวณชายฝั่งที่ถูกคลื่นซัดขึ้นมาสร้างรายได้ทดแทน
วันนี้ (24 ต.ค.) สภาพอากาศใน จ.สงขลาในระยะนี้ ยังคงมีคลื่นลมแรงในทะเล เนื่องจากภาคใต้ฝั่งตะวันออกเข้าสู่ฤดูมรสุมแล้ว ส่งผลให้ชาวประมงพื้นบ้าน เช่นที่ชุมชนชาวเลบ้านเก้าเส้งจำเป็นต้องหยุดออกเรือทำการประมงในทะเลอ่าวไทยชั่วคราว และนำเรือขึ้นฝั่งไปเก็บไว้ในที่ที่ปลอดภัย ทั้งที่บริเวณชายฝั่ง อ.สิงหนคร ใกล้ท่าเรือน้ำลึกสงขลา และได้ใช้เวลาว่างช่วงฤดูมรสุมที่หยุดออกเรือ พากันมาหาหอยเสียบสร้างรายได้ทดแทนให้แก่ครอบครัว
เนื่องจากในช่วงนี้คลื่นลมแรง หอยเสียบจะถูกคลื่นซัดขึ้นมาและฝังตัวตามแนวชายหาดกระจายอยู่เป็นจำนวนมาก โดยใช้ตะแกรงช้อนขึ้นมา โดยแต่ละวันจะสามารถหาหอยเสียบได้คนละ 2-3 กก.และนำไปส่งขายให้แก่แม่ค้าที่ตลาดเก้าเส้ง ราคาตัวเล็กกิโลกรัมละ 50 บาท ส่วนตัวใหญ่ราคากิโลกรัมละ 100 บาท ทั้งนี้ ในช่วงฤดูมรสุมลมตะวันออกเฉียงเหนือซึ่งจะเกิดขึ้นในช่วงปลายปีของทุกปี ชาวประมงพื้นบ้านต้องหยุดออกเรือทำการประมงเกือบ 3 เดือน
อย่างไรก็ตาม ในช่วง 2-3 วันนี้ ทางสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.สงขลา ได้แจ้งเตือนไปยังพื้นที่เสี่ยงประสบอุทกภัยทั้ง 16 อำเภอ รวม 104 ตำบล 590 หมู่บ้าน และมีพื้นที่เสี่ยงต่อภัยดินโคลนถล่ม 10 อำเภอ 34 ตำบล 217 หมู่บ้าน ให้เฝ้าระวังและเตรียมพร้อมเนื่องจากมีฝนหนักต่อเนื่องจากความกดอากาศต่ำบริเวณทะเลจีนใต้ตอนล่าง ได้เคลื่อนตัวทางตะวันตกเข้าสู่อ่าวไทยแล้ว ทำให้บริเวณภาคใต้ฝั่งตะวันออกตั้งแต่ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ลงมาถึงจังหวัดสงขลามีฝนตกหนักถึงหนักมากในระหว่างวันที่ 23-24 ตุลาคมนี้