ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - กรมเจ้าท่า ใช้งบ 150 ล้านบาท ซ่อมแซมเขื่อนป้องกันการกัดเซาะชายฝั่งบ้านบ่ออิฐ ต.เกาะแต้ว อ.เมืองสงขลา ทั้งเขื่อนฯ ที่ชำรุดจากการถูกคลื่นซัดช่วงฤดูมรสุมที่ผ่านมา ทั้ง 14 เขื่อน และสร้างต่อเติมอีกบางส่วน เบื้องต้น นำผู้รับเหมาลงพื้นที่ทำความเข้าใจกับชาวบ้าน เนื่องจากใช้เวลาสร้างนานถึง 18 เดือน
นายสมชาย สุมนัสขจรกุล ผู้อำนวยการสำนักวิศวกรรม กรมเจ้าท่า พร้อมคณะ ได้เดินทางมาพบผู้นำศาสนา และผู้นำชุมชน ที่มัสยิดบ้านปึก หมู่ 10 ต.นาทับ อ.จะนะ จ.สงขลา เพื่อชี้แจงทำความเข้าใจก่อนการก่อสร้างซ่อมแซมเขื่อนป้องกันการกัดเซาะชายฝั่ง บ้านบ่ออิฐ ต.เกาะแต้ว อ.เมือง จ.สงขลา ที่ถูกคลื่นซัดช่วงฤดูมรสุมที่ผ่านมา ทั้ง 14 เขื่อน ตั้งแต่บ้านบ่ออิฐ ต.เกาะแต้ว อ.เมือง จ.สงขลา ไปจนถึงบ้านปึก หมู่ 10 ต.นาทับ อ.จะนะ จ.สงขลา และสร้างต่อเติมเขื่อนให้มีความแข็งแรงควบคู่พร้อมกันไปด้วย
ซึ่งทางกรมเจ้าท่า ได้รับงบประมาณตามโครงการฯ นี้ จำนวน 150 ล้านบาท และได้เซ็นสัญญาทำการก่อสร้างเรียบร้อยแล้ว เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคมที่ผ่านมา และจะสิ้นสุดสัญญาในเดือนธันวาคม 2556 เป็นเวลา 18 เดือน
สำหรับเขื่อนป้องกันการกัดเซาะชายฝั่ง บ้านบ่ออิฐ ต.เกาะแต้ว จำนวน 14 เขื่อน ระยะทาง 5 กิโลเมตร กรมเจ้าท่าได้ทำการก่อสร้างเมื่อปี 2549-2550 งบประมาณ 319 ล้านบาท ตัวเขื่อนแต่ละเขื่อน มีความยาว 200 เมตร สันเขื่อนกว้าง 4 เมตร มีระยะห่างระหว่างตัวเขื่อน 150 เมตร โดยก่อสร้างจากชายฝั่งบริเวณบ้านบ่ออิฐ ต.เกาะแต้ว อ.เมือง จ.สงขลา ไปจนถึงที่บ้านปึก หมู่ 10 ต.นาทับ อ.จะนะ จ.สงขลา เพื่อป้องกันการกัดเซาะชายฝั่ง เนื่องจากบริเวณนี้ ได้รับผลกระทบจากการกัดเซาะชายฝั่งที่มีความรุนแรงมาก ในพื้นที่ของจังหวัดสงขลา
นายสมชาย สุมนัสขจรกุล ผู้อำนวยการสำนักวิศวกรรม กรมเจ้าท่า เปิดเผยว่า ในวันนี้ ได้มาทำความเข้าใจกับชาวบ้านในพื้นที่ที่ทำการก่อสร้าง โดยนำผู้รับเหมาก่อสร้างมาชี้แจงทำความเข้าใจในแผนการทำงานในช่วง 18 เดือน ที่จะต้องอยู่ในพื้นที่คลุกคลีกับชาวบ้าน และการก่อสร้างจะต้องใช้ความระมัดระวัง เนื่องจากมีการนำรถบรรทุกขนาดใหญ่บรรทุกหินขนาดใหญ่เข้ามาในหมู่บ้าน
ในส่วนของการซ่อมแซมเขื่อนป้องกันการกัดเซาะชายฝั่งบริเวณบ้านบ่ออิฐ ต.เกาะแต้ว อ.เมือง จ.สงขลา ไปจนถึงที่บ้านปึก หมู่ 10 ต.นาทับ อ.จะนะ จ.สงขลา ในช่วงฤดูมรสุมที่ผ่านมา คลื่นลมมีกำลังแรง ซัดกระหน่ำตัวเขื่อนจนพังเสียหายหลายเขื่อน มีทั้งพังเสียหายบางส่วน และพังเสียหายทั้งเขื่อน กรมเจ้าท่าได้รับงบประมาณ 150 ล้านบาท ในการซ่อมแซมเขื่อนที่ชำรุดจากการถูกคลื่นลมมีกำลังแรงซัดกระหน่ำ และสร้างเพิ่มเติมพร้อมกันไปด้วย โดยลดช่องว่างระหว่างเขื่อนที่ก่อสร้างไว้เดิมให้น้อยลง จากเดิม 150 เมตร ให้เหลือประมาณ 80-90 เมตร และเพิ่มโครงสร้างในระหว่างช่องว่าง เพื่อปิดไม่ให้น้ำทะเลเข้ามามากเหมือนที่ผ่านมา
