xs
xsm
sm
md
lg

นราธิวาสยันค่าแรง 300 ไม่กระทบลูกจ้าง เชื่อเกิดผลดีมีเงินหมุนเวียนมากขึ้น

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นราธิวาส - แรงงานจังหวัดนราธิวาส ยันไม่พบแนวโน้มการปรับลดพนักงาน หรือยกเลิกการจ้างงานหลังมีการประกาศใช้อัตราค่าจ้างแรงงานขั้นต่ำ 300 บาท เชื่อเกิดผลดีต่อเศรษฐกิจโดยรวมเนื่องจากมีเงินหมุนเวียนมากขึ้น เตรียมเปิดศูนย์สนับสนุนผู้ประกอบการช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs ที่ได้รับผลกระทบ

วันนี้ (8 ม.ค.) น.ส.อารี การธิโร รักษาการแรงงานจังหวัดนราธิวาส เปิดเผยว่า หลังมีการประกาศใช้อัตราค่าจ้างแรงงานขั้นต่ำวันละ 300 บาททั่วประเทศ เมื่อวันที่ 1 ม.ค. 2556 ในส่วนของ จ.นราธิวาส ยังไม่พบว่ามีแนวโน้มการปรับลดพนักงาน หรือยกเลิกการจ้างงานแต่อย่างใด เนื่องจากอัตราค่าจ้างขั้นต่ำเดิมอยู่ที่ 239 บาท ซึ่งถือว่าปรับขึ้นจากเดิมไม่มากนัก อีกทั้งผู้ประกอบการส่วนใหญ่มีความเข้าใจในมาตรการของรัฐบาล และมั่นใจว่า ในระยะยาวจะส่งผลดีต่อสภาพเศรษฐกิจโดยรวมของ จ.นราธิวาส ให้ดีขึ้น เพราะจะลดปัญหาการเคลื่อนย้ายแรงงาน ซึ่งในพื้นที่จังหวัดนราธิวาสพบว่า มีผู้ใช้แรงงานจำนวนมากที่เดินทางเข้าไปทำงานในประเทศมาเลเซีย ทั้งที่ถูกกฎหมาย และลักลอบเข้าไปอย่างผิดกฎหมายเพื่อหวังค่าจ้างแรงงานที่สูงกว่า

ทั้งนี้ เมื่อมีนโยบายดังกล่าวเกิดขึ้น ก็เชื่อว่าจะส่งผลให้แรงงานไทยเดินทางกลับเข้ามาทำงานในประเทศมากขึ้น ขณะเดียวกัน เมื่อกลุ่มผู้ใช้แรงงานที่มีจำนวนมากที่สุดเมื่อเทียบกับอัตราส่วนของผู้ประกอบอาชีพอื่นๆ ได้ปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำฐานเดียวกันทั่วประเทศ ก็ทำให้บุคคลกลุ่มนี้มีสภาพคล่องทางการเงินมากขึ้น มีการใช้จ่ายเงินหมุนเวียนในระบบมากขึ้น และเงินเหล่านั้นก็จะกลับเข้าสู่ผู้ประกอบการตามวัฏจักรของกลไกตลาด

ส่วนในกลุ่มของผู้ประกอบการธุรกิจรายย่อย หรือ SMEs ซึ่ง จ.นราธิวาส มีอยู่กว่า 1,700 แห่ง และมีผู้ใช้แรงงานอยู่ในระบบประมาณ 10,300 คน อาจได้รับผลกระทบในระยะแรก ทางจังหวัดก็ได้มีการเปิดจุดรับลงทะเบียนผู้ประกอบการธุรกิจรายย่อย SMEs ระดับอำเภอทั้ง 13 อำเภอ เพื่อรับทราบปัญหา และหาแนวทางแก้ไข รวมถึงจะส่งเรื่องกลับไปยังระดับนโยบายต่อไป

ส่วนในกลุ่มผู้ประกอบการทั่วไป ได้มีการเปิดศูนย์สนับสนุนผู้ประกอบการ โดยมีนายอภินันท์ ซื่อธานุวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส เป็นประธาน เพื่อให้การช่วยเหลือ และสนับสนุน รวมทั้งให้คำแนะนำเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ที่ผู้ประกอบการจะได้รับจากการปรับขึ้นค่าจ้างแรงงานขั้นต่ำ 300 บาท ซึ่งตั้งแต่ปี 2555 ได้มีมาตรการในการให้ความช่วยเหลือในหลายรูปแบบ ทั้งการปรับลดการเก็บเงินสมทบ และสิทธิประโยชน์ของนายจ้าง และลูกจ้างฝ่ายละร้อยละ 1

โดยผู้ประกอบการสามารถนำค่าใช้จ่ายจากการฝึกอบรมลูกจ้างตามมาตรการส่งเสริมให้พัฒนาฝีมือเพื่อเพิ่มผลิตภาพแรงงานไปลดหย่อนภาษีได้ 3 เท่า สามารถกู้ยืมเงินกองทุนพัฒนาฝีมือแรงงานในอัตราดอกเบี้ยต่ำ และมีสินเชื่อเพื่อการจ้างงานหมุนเวียน สินเชื่อจากธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดยอม รวมทั้งนายจ้างที่เป็นนิติบุคคลสามารถนำเงินส่วนต่างที่ต้องจ่ายเพิ่มให้แก่ลูกจ้างจากอัตราค่าจ้างเดิมมาคิดเป็นค่าใช้จ่ายก่อนชำระภาษีได้
 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น