นราธิวาส - ชาวบ้านใน อ.บาเจาะ ขอสิทธิที่ทำกินคืน หลังมีการประกาศแนวเขตอุทยานฯ และเขตป่าสงวนแห่งชาติทับซ้อนที่ทำกินของประชาชน เดือดร้อนทั้งหมด 9 อำเภอ ในพื้นที่กว่า16,000 ไร่ รวมกว่า 3,000 คน
วันนี้ (8 ม.ค.) ดร.เพชรวรรต วัฒนพงศ์ศิริกุล ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ พร้อมคณะร่วมติดตามปัญหาที่ดินทำกิน และที่อยู่อาศัยเทือกเขาบูโด โดยได้ร่วมรับฟังปัญหาความเดือดร้อนของชาวบ้านในพื้นที่ อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส ณ บ้านมาแฮ ต.บาเจาะ อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส ซึ่งในพื้นที่ อ.บาเจาะ มีประชาชนได้รับความเดือดร้อนจากการประกาศแนวเขตอุทยานฯ และเขตป่าสงวนแห่งชาติทับซ้อนที่ทำกินของประชาชนรวม 5 ตำบล ประกอบด้วย ต.ปะลุกาสาเมาะ ต.บาแระเหนือ ต.บาเจาะ ต.กาเยาะมาตี และ ต.ลูโบ๊ะสาวอ มีประชาชนได้รับความเดือดร้อน 3,213 คน มีพื้นที่ถูกทับซ้อน 16,597 ไร่
สำหรับปัญหาที่ชาวบ้านในพื้นที่ อ.บาเจาะ ได้กล่าวถึงในครั้งนี้คือ การเข้าไปตัดต้นยางที่หมดอายุในพื้นที่ทับซ้อนเพื่อเตรียมปลูกต้นยางใหม่ โดยก่อนหน้านี้ มีการอนุมัติจากมติคณะรัฐมนตรีแล้วแต่ยังไม่มีการดำเนินการต่อเพื่อเป็นรูปธรรม จึงขอให้เร่งติดตามจากรัฐบาลเพื่อให้ประชาชนในพื้นที่สามารถใช้ประโยชน์จากที่ดินได้
ทั้งนี้ กรณีการประกาศแนวเขตอุทยานฯ และเขตป่าสงวนแห่งชาติทับซ้อนที่ทำกินของประชาชนในเขตเทือกเขาบูโด มีพื้นที่ที่ประชาชนได้รับความเดือดร้อนทั้งหมด 9 อำเภอ 25 ตำบล แยกเป็น จ.นราธิวาส 7 อำเภอ จ.ยะลา 1 อำเภอ และ จ.ปัตตานี 1 อำเภอ