ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - ตร.เก็บหลักฐานเตรียมตรวจ DNA กรณีคนร้ายลวงยิงตำรวจงานป้องกันปราบปรามก่อนทิ้งศพไว้ในรถยนต์เก๋ง มุ่งปมชู้สาวเป็นหลัก เหตุผู้ตายติดพันภรรยานายทหาร ทั้งนี้ หลังเกิดเหตุหญิงสาวคนดังกล่าวได้หายตัวไปอย่างลึกลับ
ความคืบหน้ากรณีมีคนร้ายไม่ต่ำกว่า 2 คนลวงยิง ด.ต.จารุวัฒน์ บัวชื่น อายุ 42 ปี ตำแหน่ง ผบ.หมู่ งานป้องกันและปราบปราม สภ.เมืองสงขลา ซึ่งเปลี่ยนหน้าที่เป็นพลขับของพนักงานสอบสวน สภ.เมืองสงขลา และถูกคนร้ายไม่ต่ำกว่า 2 คนลวงออกจากบ้านเมื่อกลางดึกคืนวันที่ 31 ธันวาคม 55 แล้วใช้อาวุธปืนพกยิงเสียศีรษะเสียชีวิต ก่อนทิ้งศพไว้ภายในรถเก๋งส่วนตัวยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีออส สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน กน 656 สงขลา จอดทิ้งไว้บริเวณโครงการหมู่บ้านร้าง ม.7 ต.ท่าจีน อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา สภาพศพนอนคว่ำหน้าอยู่หลังเบาะนั่ง สวมเสื้อยืดแขนสั้นสีดำ นุ่งกางเกงยีนส์สีน้ำเงิน ถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบขนาด จำนวน 2 นัด บริเวณขมับขวา จนกระทั่งเช้าวันที่ 1 มกราคม 56 มีชาวบ้านมาพบศพแล้วแจ้งเจ้าหน้าที่ทราบไปตรวจสอบ
ล่าสุด วันนี้ (3 ม.ค.) พล.ต.ต สุวิทย์ เชิญศิริ ผบก.ภ.จ.สงขลา เปิดเผยถึงความคืบหน้าว่า คดีนี้เจ้าหน้าที่ได้พยายามเก็บหลักฐานจากที่เกิดเหตุได้มากพอสมควร ประกอบด้วยคราบเลือดที่ตกอยู่ที่เกิดเหตุ รอยนิ้วมือ ส่วนเส้นผมที่ตกอยู่ในรถอาจเป็นของบุคคลที่สาม หลักฐานที่ได้ทั้งหมดขณะนี้ ทางเจ้าหน้าที่กำลังเร่งนำไปตรวจสอบทางนิติวิทยาศาสตร์ เพื่อตรวจหาดีเอนเอนำมาเปรียบเทียบทางคดี และแกะรอยการใช้โทรศัพท์ของผู้ตายว่ามีใครโทร.เข้าหาในช่วงเวลาดังกล่าว
ส่วนปมเหตุในการฆ่านั้น ตำรวจได้มุ่งประเด็นหลักไปทางเรื่องชู้สาว เนื่องจากทราบว่าผู้ตายได้ไปเกี่ยวข้องกับหญิงสาวคนหนึ่งแต่ยังไม่ขอเปิดเผยรายละเอียด เนื่องจากกลัวเสียรูปคดี แต่ก็ไม่ได้ตัดทิ้งในเรื่องของหน้าที่การทำงานของผู้ตาย และเรื่องฆ่าชิงทรัพย์ ซึ่งคดีนี้มีความคืบหน้าไปพอสมควร และยืนยันได้ว่า จับคนร้ายได้ไม่ยาก เพียงขอเวลาให้เจ้าหน้าที่ทำงานอีกสักพักคิดว่าจับคนร้ายได้อย่างแน่นอน
นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวยังได้รับทราบข้อมูลเชิงลึกจากแหล่งข่าวว่าผู้ตายได้ไปยุ่งเกี่ยวกับหญิงสาวหน้าตาดีคนหนึ่ง ซึ่งเป็นภรรยาของนายทหาร และเป็นเพื่อนสนิทสนมกับผู้ตายเป็นอย่างดี อาจเป็นไปได้ว่า หลังจากนายทหารคนนี้รู้ว่าภรรยาไปมีความสัมพันธ์อย่างลึกซึ่งกับผู้ตาย อาจเป็นสาเหตุทำให้นายทหารคนนี้โกรธแค้นผู้ตายที่ไปมีความสัมพันธ์กับภรรยาตน จึงได้บังคับให้หญิงสาวดังกล่าวโทรศัพท์ไปเรียกผู้ตายออกมาเพื่อพูดคุยเจรจาตกลงกัน แต่ทั้งสองฝ่ายไม่สามารถพูดคุยตกลงกันได้ จึงตัดสินใจยิงด้วยอาวุธปืนจนเสียชีวิต ภายหลังเกิดเหตุ หญิงสาวดังกล่าวได้หายตัวไปอย่างลึกลับ ซึ่งตำรวจกำลังเร่งติดตามตัวมาสอบสวนเนื่องจากเป็นกุญแจสำคัญที่จะทำให้สาวไปถึงตัวคนร้าย
ความคืบหน้ากรณีมีคนร้ายไม่ต่ำกว่า 2 คนลวงยิง ด.ต.จารุวัฒน์ บัวชื่น อายุ 42 ปี ตำแหน่ง ผบ.หมู่ งานป้องกันและปราบปราม สภ.เมืองสงขลา ซึ่งเปลี่ยนหน้าที่เป็นพลขับของพนักงานสอบสวน สภ.เมืองสงขลา และถูกคนร้ายไม่ต่ำกว่า 2 คนลวงออกจากบ้านเมื่อกลางดึกคืนวันที่ 31 ธันวาคม 55 แล้วใช้อาวุธปืนพกยิงเสียศีรษะเสียชีวิต ก่อนทิ้งศพไว้ภายในรถเก๋งส่วนตัวยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีออส สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน กน 656 สงขลา จอดทิ้งไว้บริเวณโครงการหมู่บ้านร้าง ม.7 ต.ท่าจีน อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา สภาพศพนอนคว่ำหน้าอยู่หลังเบาะนั่ง สวมเสื้อยืดแขนสั้นสีดำ นุ่งกางเกงยีนส์สีน้ำเงิน ถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบขนาด จำนวน 2 นัด บริเวณขมับขวา จนกระทั่งเช้าวันที่ 1 มกราคม 56 มีชาวบ้านมาพบศพแล้วแจ้งเจ้าหน้าที่ทราบไปตรวจสอบ
ล่าสุด วันนี้ (3 ม.ค.) พล.ต.ต สุวิทย์ เชิญศิริ ผบก.ภ.จ.สงขลา เปิดเผยถึงความคืบหน้าว่า คดีนี้เจ้าหน้าที่ได้พยายามเก็บหลักฐานจากที่เกิดเหตุได้มากพอสมควร ประกอบด้วยคราบเลือดที่ตกอยู่ที่เกิดเหตุ รอยนิ้วมือ ส่วนเส้นผมที่ตกอยู่ในรถอาจเป็นของบุคคลที่สาม หลักฐานที่ได้ทั้งหมดขณะนี้ ทางเจ้าหน้าที่กำลังเร่งนำไปตรวจสอบทางนิติวิทยาศาสตร์ เพื่อตรวจหาดีเอนเอนำมาเปรียบเทียบทางคดี และแกะรอยการใช้โทรศัพท์ของผู้ตายว่ามีใครโทร.เข้าหาในช่วงเวลาดังกล่าว
ส่วนปมเหตุในการฆ่านั้น ตำรวจได้มุ่งประเด็นหลักไปทางเรื่องชู้สาว เนื่องจากทราบว่าผู้ตายได้ไปเกี่ยวข้องกับหญิงสาวคนหนึ่งแต่ยังไม่ขอเปิดเผยรายละเอียด เนื่องจากกลัวเสียรูปคดี แต่ก็ไม่ได้ตัดทิ้งในเรื่องของหน้าที่การทำงานของผู้ตาย และเรื่องฆ่าชิงทรัพย์ ซึ่งคดีนี้มีความคืบหน้าไปพอสมควร และยืนยันได้ว่า จับคนร้ายได้ไม่ยาก เพียงขอเวลาให้เจ้าหน้าที่ทำงานอีกสักพักคิดว่าจับคนร้ายได้อย่างแน่นอน
นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวยังได้รับทราบข้อมูลเชิงลึกจากแหล่งข่าวว่าผู้ตายได้ไปยุ่งเกี่ยวกับหญิงสาวหน้าตาดีคนหนึ่ง ซึ่งเป็นภรรยาของนายทหาร และเป็นเพื่อนสนิทสนมกับผู้ตายเป็นอย่างดี อาจเป็นไปได้ว่า หลังจากนายทหารคนนี้รู้ว่าภรรยาไปมีความสัมพันธ์อย่างลึกซึ่งกับผู้ตาย อาจเป็นสาเหตุทำให้นายทหารคนนี้โกรธแค้นผู้ตายที่ไปมีความสัมพันธ์กับภรรยาตน จึงได้บังคับให้หญิงสาวดังกล่าวโทรศัพท์ไปเรียกผู้ตายออกมาเพื่อพูดคุยเจรจาตกลงกัน แต่ทั้งสองฝ่ายไม่สามารถพูดคุยตกลงกันได้ จึงตัดสินใจยิงด้วยอาวุธปืนจนเสียชีวิต ภายหลังเกิดเหตุ หญิงสาวดังกล่าวได้หายตัวไปอย่างลึกลับ ซึ่งตำรวจกำลังเร่งติดตามตัวมาสอบสวนเนื่องจากเป็นกุญแจสำคัญที่จะทำให้สาวไปถึงตัวคนร้าย