ยะลา - สรรพสามิตยะลา สรุปยอดรถยนต์คันแรกจังหวัดยะลาเกินเป้าทะลุ 7 พันคัน ยอดภาษีคืนกว่า 500 ล้านบาท
วันนี้ (2 ม.ค. ) สำนักงานสรรพสามิตพื้นที่ยะลา ได้สรุปรถคันแรก เริ่มตั้งแต่ 16 กันยายน 54 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 55 พบว่า จากเดิมมีเป้าหมายผู้ขอยื่นรับเงินภาษีคืนจำนวน 3,000 คัน แต่เมื่อถึงกำหนดวันสุดท้ายพบว่า มีผู้มายื่นรอรับเงินภาษีคืนรวมทั้งสิ้น 7,105 คัน แยกเป็นในพื้นที่ จ.ยะลา 6,448 คัน และพื้นที่ อ.เบตง 657 คัน โดยแบ่งเป็นรถยนต์นั่ง จำนวน 3,910 คัน รถยนต์กระบะ จำนวน 1,213 คัน รถยนต์นั่งที่มีกระบะ จำนวน 1,982 คัน รวมเงินที่ขอคืนทั้งหมด 535,981,000 บาท แยกเป็นยะลา 488,284,000 บาท และ อ.เบตง 47,697,000 บาท
สำหรับโครงการรถคันแรก มีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนให้ประชาชนที่ไม่เคยมีรถยนต์เป็นของตัวเองได้มีโอกาสซื้อรถยนต์ใหม่คันแรก เป็นการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนให้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่สะดวกสบายขึ้น ในภาคอุตสาหกรรมจะส่งเสริมอุตสาหกรรมยานยนต์ และอุตสาหกรรมชิ้นส่วนให้ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง รวมไปถึงภาคธุรกิจประกันภัย และธุรกิจไฟแนนซ์ ซึ่งจะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย และเกิดการจ้างงานสร้างรายได้แก่ประชาชน และภาคธุรกิจเป็นจำนวนมาก ในขณะเดียวกัน ก็จะส่งผลให้ฐานะการคลังของประเทศมีความมั่นคงยิ่งขึ้นด้วย
วันนี้ (2 ม.ค. ) สำนักงานสรรพสามิตพื้นที่ยะลา ได้สรุปรถคันแรก เริ่มตั้งแต่ 16 กันยายน 54 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 55 พบว่า จากเดิมมีเป้าหมายผู้ขอยื่นรับเงินภาษีคืนจำนวน 3,000 คัน แต่เมื่อถึงกำหนดวันสุดท้ายพบว่า มีผู้มายื่นรอรับเงินภาษีคืนรวมทั้งสิ้น 7,105 คัน แยกเป็นในพื้นที่ จ.ยะลา 6,448 คัน และพื้นที่ อ.เบตง 657 คัน โดยแบ่งเป็นรถยนต์นั่ง จำนวน 3,910 คัน รถยนต์กระบะ จำนวน 1,213 คัน รถยนต์นั่งที่มีกระบะ จำนวน 1,982 คัน รวมเงินที่ขอคืนทั้งหมด 535,981,000 บาท แยกเป็นยะลา 488,284,000 บาท และ อ.เบตง 47,697,000 บาท
สำหรับโครงการรถคันแรก มีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนให้ประชาชนที่ไม่เคยมีรถยนต์เป็นของตัวเองได้มีโอกาสซื้อรถยนต์ใหม่คันแรก เป็นการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนให้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่สะดวกสบายขึ้น ในภาคอุตสาหกรรมจะส่งเสริมอุตสาหกรรมยานยนต์ และอุตสาหกรรมชิ้นส่วนให้ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง รวมไปถึงภาคธุรกิจประกันภัย และธุรกิจไฟแนนซ์ ซึ่งจะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย และเกิดการจ้างงานสร้างรายได้แก่ประชาชน และภาคธุรกิจเป็นจำนวนมาก ในขณะเดียวกัน ก็จะส่งผลให้ฐานะการคลังของประเทศมีความมั่นคงยิ่งขึ้นด้วย
