ระนองหามาตรการสกัดกั้นชาวโรฮิงญาหลบหนีเข้าเมือง

ระนอง - กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนแยก 1 ประชุมด่วนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมวางมาตรการรับมือชาวโรฮิงญาหลบหนีเข้าประเทศ หลังมีแนวโน้มมากขึ้น จากความขัดแย้งอย่างรุนแรงในเมืองซิลตเว รัฐยะไข่ ทางตะวันตกของประเทศพม่า ประกอบกับหมดช่วงฤดูมรสุม

วันนี้ (19 ธ.ค.) พล.ต.มนัส คงแป้น ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนแยก 1 จัดประชุมประสานแผนป้องกัน และแก้ไขปัญหาผู้หลบหนีเข้าเมืองทางทะเลของชาวโรฮิงญา ประจำปี 2556 กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยมี ผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง ว่าที่ ร.ต.เชิดศักดิ์ จำปาเทศ เป็นประธานในการประชุม

จากสถานการณ์ปัญหาจลาจลในรัฐยะไข่ ในเมืองซิลตเว ทางตะวันตกของประเทศพม่า ซึ่งเป็นความขัดแย้งอย่างรุนแรง จึงทำให้ชาวโรฮิงญามีแนวโน้มหลบหนีเข้าเมืองมากขึ้น ประกอบกับในช่วงเดือนพฤศจิกายน ถึงเมษายนของทุกปี ซึ่งถือว่าเป็นช่วงหมดฤดูมรสุม คลื่นลมในทะเลสงบจึงหลบหนีมาทางทะเลได้ง่ายขึ้น

จากสถิติที่ผ่านมาพบว่า ปี 2552 จนถึงปี 2554 มีสถิติลดลง แต่ปี 2555 พบว่า มีการอพยพหลบหนีเข้าประเทศไทย ถึง 2,817 คน ถือว่าเพิ่มขึ้นเป็นพิเศษ ส่วนบริเวณที่มีการหลบหนีเข้าประเทศในจังหวัดระนอง คือ บริเวณเกาะสินไห เกาะช้าง เกาะพยาม และตามแนวชายฝั่งของอำเภอกะเปอร์ และอำเภอสุขสำราญ

จากการประชุมได้กำหนดขั้นการดำเนินการ แบ่งออกเป็น 3 ขั้น ขั้นแรกเป็นการสกัดกั้น ยับยั้ง โดยการลาดตระเวนทางเรือ และใช้เครือข่ายกำลังภาคประชาชนแจ้งข่าวสาร ขั้นต่อมา คือ การควบคุม และให้การดูแลเบื้องต้น ขั้นสุดท้าย เป็นการปฎิเสธการเข้าเมือง พร้อมผักดันให้ออกนอกประเทศ ที่ผ่านมา ทาง กอ.รมน.ภาค 4 สย. 1 ได้เข้าดำเนินการสกัดกั้น ยับยั้ง ควบคุมผู้หลบหนีเข้าเมืองทางทะเลชาวโรฮิงญา โดยการปฏิเสธการเข้าเมือง และอำนวยความสะดวกในการเดินทาง โดยยึดถือแนวทางการปฏิบัติผู้หลบหนีเข้าเมืองทางทะเล (SOP) อย่างเคร่งครัด และปฏิบัติตามหลักการด้านมนุษยธรรม หลักศาสนาต่อเพื่อนมนุษย์