ระนอง - เรือ ต.214 ทัพเรือภาคที่ 3 สนธิกำลังตำรวจน้ำระนอง เข้าสกัดเรือหางยาวลักลอบขนแรงงานต่างด้าวเข้าเมืองกลางทะเลอันดามัน ตรวจพบ 30 แรงงานต่างด้าวสัญชาติพม่า เข้าควบคุมตัวพร้อมคนขับเรือหางยาว
เมื่อเวลา 01.00 น.คืนวันนี้ (17 ธ.ค.) ที่ท่าเทียบเรือ และประภาคารเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษาฯ กรมศุลกากร จังหวัดระนอง ทัพเรือภาคที่ 3 ร่วมกับกำลังตำรวจน้ำระนอง แถลงผลการจับกุมแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองชาวพม่า จำนวน 30 คน พร้อมคนขับเรือหางยาว โดยเจ้าหน้าที่จับกุมได้ที่บริเวณทิศเหนือของเกาะพยาม จ.ระนอง ขณะกำลังลักลอบขนแรงงานต่างด้าวเข้ามาในพื้นที่จังหวัดระนอง ซึ่งแรงงานทั้ง 30 คน ประกอบด้วย ชาย 23 คน และหญิง 7 คน พร้อมเรือหางยาว จำนวน 1 ลำ เป็นของกลาง
ร.อ.จตุพร จตุทอง ผู้ควบคุมเรือ ต.214 กล่าวถึงการจับกุมในครั้งนี้ว่า ขณะออกพื้นที่ลาดตระเวนบริเวณน่านน้ำไทยฝั่งอันดามัน บริเวณเกาะช้าง และเกาะพยาม ช่วงดึกคืนที่ผ่านมา (16 ธ.ค.) ได้รับแจ้งจากหน่วยปฏิบัติการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่งที่ 451 ว่า ตรวจพบเรือหางยาวต้องสงสัยกำลังแล่นเข้ามาในน่านน้ำไทย ผ่านทางทิศเหนือของเกาะพยาม จึงได้ประสานงานกับ พ.ต.ท.นิรัตน์ ช่วยจิต สารวัตรสถานีตำรวจน้ำระนอง เข้าทำการตรวจสอบ และดำเนินการจับกุม สามารถจับกุมเรือหางยาวพร้อมคนขับได้ 1 ลำ โดยภายในเรือมีบุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง แยกเป็นชาย 23 คน หญิง 7 คน
สอบถามคนขับเรือชื่อนายอ่าว ชาวพม่า โดยอ้างว่า ได้รับจ้างขับเรือนำแรงงานต่างด้าวทั้งหมดจากจังหวัดเกาะสองไปส่งที่บริเวณบ้านบางเบน ตำบลม่วงกลวง อำเภอกะเปอร์ จังหวัดระนอง โดยได้รับค่าจ้างครั้งละ 1,000 บาท เมื่อถึงฝั่งจะมีรถยนต์มารับแรงงานต่างด้าวไปส่งยังจังหวัดภูเก็ต ค่าใช้จ่ายรายละ 4,000 บาท โดยนายจ้างที่ภูเก็ตจะเป็นผู้จ่ายให้ก่อนทั้งหมด หลังจากนั้นจะทยอยหักจากแรงงานต่างด้าว
จากนั้นได้นำแรงงานต่างด้าวทั้งหมดส่งให้ตำรวจน้ำ รน.1 กองกำกับการภาค 8 จังหวัดระนอง นำไปตรวจสอบพร้อมบันทึกประวัติ ก่อนส่งดำเนินคดีที่สถานีตำรวจภูธรปากน้ำระนองต่อไป
เมื่อเวลา 01.00 น.คืนวันนี้ (17 ธ.ค.) ที่ท่าเทียบเรือ และประภาคารเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษาฯ กรมศุลกากร จังหวัดระนอง ทัพเรือภาคที่ 3 ร่วมกับกำลังตำรวจน้ำระนอง แถลงผลการจับกุมแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองชาวพม่า จำนวน 30 คน พร้อมคนขับเรือหางยาว โดยเจ้าหน้าที่จับกุมได้ที่บริเวณทิศเหนือของเกาะพยาม จ.ระนอง ขณะกำลังลักลอบขนแรงงานต่างด้าวเข้ามาในพื้นที่จังหวัดระนอง ซึ่งแรงงานทั้ง 30 คน ประกอบด้วย ชาย 23 คน และหญิง 7 คน พร้อมเรือหางยาว จำนวน 1 ลำ เป็นของกลาง
ร.อ.จตุพร จตุทอง ผู้ควบคุมเรือ ต.214 กล่าวถึงการจับกุมในครั้งนี้ว่า ขณะออกพื้นที่ลาดตระเวนบริเวณน่านน้ำไทยฝั่งอันดามัน บริเวณเกาะช้าง และเกาะพยาม ช่วงดึกคืนที่ผ่านมา (16 ธ.ค.) ได้รับแจ้งจากหน่วยปฏิบัติการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่งที่ 451 ว่า ตรวจพบเรือหางยาวต้องสงสัยกำลังแล่นเข้ามาในน่านน้ำไทย ผ่านทางทิศเหนือของเกาะพยาม จึงได้ประสานงานกับ พ.ต.ท.นิรัตน์ ช่วยจิต สารวัตรสถานีตำรวจน้ำระนอง เข้าทำการตรวจสอบ และดำเนินการจับกุม สามารถจับกุมเรือหางยาวพร้อมคนขับได้ 1 ลำ โดยภายในเรือมีบุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง แยกเป็นชาย 23 คน หญิง 7 คน
สอบถามคนขับเรือชื่อนายอ่าว ชาวพม่า โดยอ้างว่า ได้รับจ้างขับเรือนำแรงงานต่างด้าวทั้งหมดจากจังหวัดเกาะสองไปส่งที่บริเวณบ้านบางเบน ตำบลม่วงกลวง อำเภอกะเปอร์ จังหวัดระนอง โดยได้รับค่าจ้างครั้งละ 1,000 บาท เมื่อถึงฝั่งจะมีรถยนต์มารับแรงงานต่างด้าวไปส่งยังจังหวัดภูเก็ต ค่าใช้จ่ายรายละ 4,000 บาท โดยนายจ้างที่ภูเก็ตจะเป็นผู้จ่ายให้ก่อนทั้งหมด หลังจากนั้นจะทยอยหักจากแรงงานต่างด้าว
จากนั้นได้นำแรงงานต่างด้าวทั้งหมดส่งให้ตำรวจน้ำ รน.1 กองกำกับการภาค 8 จังหวัดระนอง นำไปตรวจสอบพร้อมบันทึกประวัติ ก่อนส่งดำเนินคดีที่สถานีตำรวจภูธรปากน้ำระนองต่อไป
