ตรัง - ปุ้มปุ้ย-ปลายิ้ม กัดฟันสู้ค่าแรง 300 บาท โดยไม่ยอมปรับขึ้นราคาสินค้า แม้ต้นทุนจะสูงขึ้น พร้อมลงทุนซื้อเครื่องจักรมูลหลายสิบล้านบาท มารองรับปัญหาแรงงานในอนาคต
วันนี้ (19 ธ.ค.) นายสลิล โตทับเที่ยง ประธานกรรมการอำนวยการ บริษัท ผลิตภัณฑ์อาหารกว้างไพศาล จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและส่งออกอาหารกระป๋องรายใหญ่ในเครือปุ้มปุ้ย-ปลายิ้ม เปิดเผยว่า จากการที่ทางรัฐบาลปรับค่าแรงเพิ่มขึ้น เป็นวันละ 300 บาทนั้น ทางบริษัทได้เตรียมการรับมือมาก่อนหน้านี้หลายเดือนแล้ว พร้อมกับใช้วิธีการปรับปรุงประสิทธิภาพของการผลิตให้สูงขึ้น ควบคู่กับการลดต้นทุน ลดการใช้พลังงาน หรือของเสียให้มีปริมาณน้อยลง และสร้างการมีส่วนร่วมของคนงานทั้งหมด รวมทั้งนำผู้ที่มีความรู้ในระดับ ปวช., ปวส.เข้าสู่ภาคแรงงานเพิ่มขึ้น เพื่อจะเป็นการช่วยเพิ่มศักยภาพในการทำงานที่มีฝีมือ
ทั้งนี้ ในช่วงที่ค่าแรงยังเป็นวันละ 244 บาท คนงานหลายคนก็มีรายได้สูงถึง 300 บาท หากรวมเงินขยัน หรือเงินพิเศษเข้าไปด้วย แต่ในเมื่อต้องปรับให้ทุกๆ คนได้ค่าแรงเท่ากันคือ วันละ 300 บาท ก็เป็นภาระที่ทางบริษัทจะต้องเข้าไปหาทางบริหารจัดการ เพราะได้ทำให้ต้นทุนการผลิตเฉพาะค่าแรงสูงขึ้นจาก 5% เป็น 6% จึงต้องควบคุมเพื่อมิให้ส่งผลกระทบไปถึงต้นทุนอื่นๆ เช่น ค่ากระป๋อง ซึ่งอยู่ที่ประมาณ 30% หรือค่าวัตถุดิบ ซึ่งอยู่ที่ประมาณ 30% เช่นเดียวกัน จากคนงานที่มีอยู่ทั้งหมด 1,000 คน อีกทั้งยังมีแนวทางที่จะรับคนงานเพิ่มให้ถึง 1,200 คน เพื่อขยายกำลังการผลิตให้เพิ่มมากขึ้นอีกด้วย
นอกจากนั้น เพื่อเป็นการรองรับปัญหาแรงงานในอนาคต ทางบริษัทได้ลงทุนซื้อเครื่องจักรมูลค่าหลายสิบล้านบาท มาเสริมการทำงานในบางส่วน อันจะเป็นการช่วยเพิ่มประสิทธิภาพด้านการผลิตให้สูงขึ้น อย่างไรก็ตาม ในเครือปุ้มปุ้ย-ปลายิ้ม ขอยืนยันว่า จะไม่มีการปรับขึ้นราคาสินค้าเพื่อแก้ไขปัญหา หลังจากที่ได้คงราคาเดิมเช่นนี้มานานหลายปีแล้ว เพื่อมิให้มีผลกระทบต่อผู้บริโภคโดยส่วนใหญ่ พร้อมเสนอรัฐบาลควรปล่อยให้สินค้าอาหารกระป๋องมีการแข่งขันอย่างเสรี โดยไม่ต้องมาควบคุมเรื่องราคา แต่ให้ไปดูเรื่องคุณภาพเป็นสำคัญ อีกทั้งยังเป็นการเปิดโอกาสให้บริษัทใหม่ๆ ได้เกิดขึ้นด้วย
