นราธิวาส - อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร มอบเงินเยียวยาให้แก่ญาติเจ้าหน้าที่บันทึกข้อมูล และนักวิชาการส่งเสริมการเกษตร อ.สุไหงปาดี เหยื่อกระสุนโจรใต้ถูกถล่มยิงรถสองแถว ด้านคดีคาดว่าเป็นคนร้ายกลุ่มเดียวกันกับลอบวางระเบิดรถวีว่าของทหารพราน
วันนี้ (18 ธ.ค.) นางพรรณพิมล ชัญญานุวัตร อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร ได้เดินทางไปยังบ้านเลขที่ 11/13 ม.4 ต.กะลุวอเหนือ อ.เมือง จ.นราธิวาส ซึ่งเป็นบ้านของ นางปาตีเม๊าะ สาและ อายุ 34 ปี ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่บันทึกข้อมูลสำนักงานการเกษตร อ.สุไหงปาดี ซึ่งถูกคนร้ายใช้อาวุธปืนสงครามยิงถล่มใส่รถยนต์รับจ้าง 2 แถว สายนราธิวาส-ปาดี-สุไหงโก-ลก ที่ผู้ตายและเพื่อนข้าราชการ อ.สุไหงปาดี ได้จ้างเหมารับส่งไปทำงานทุกวัน จนส่งผลทำให้ นางปาตีเม๊าะ และ น.ส.นวรัตน์ ลีนิน อายุ 29 ปี ซึ่งเป็นนักวิชาการส่งเสริมการเกษตรชำนาญงาน ประจำการสำนักงานการเกษตร อ.สุไหงปาดี เสียชีวิต รวม 2 คน และเพื่อนข้าราชการที่เป็นครู และพนักงานเทศบาลได้รับบาดเจ็บรวม 5 คน เหตุเกิดที่บริเวณบ้านบูเก๊ะตาโมง ม.7 ต.บูกิต อ.เจาะไอร้อง เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 17 ธ.ค.55 ที่ผ่านมา
โดยนางพรรณพิมล อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร ได้มอบเงินเยียวยา จำนวน 5 หมื่นบาท แก่นางนาซมะห์ สาและ อายุ 53 ปี ซึ่งเป็นมารดา และได้พูดคุยกับ นายกามารูซามาน อาแว อายุ 34 ปี ซึ่งเป็นสามี และ ด.ญ.ฟาเต็นล์ อาแว อายุ 8 ปี ซึ่งเป็นบุตรสาว ที่กำลังศึกษาอยู่ชั้น ป.2 โรงเรียนสวนสวรรค์วิทยา ซึ่งบรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้า เนื่องจาก นางปาตีเม๊าะ เป็นที่รักใคร่ของเพื่อนร่วมงาน มีความขยันขันแข็งในการทำงาน แม้จะมีบ้านพักอยู่ในพื้นที่เขต อ.เมืองนราธิวาส เมื่อมีงานด่วนที่ต้องทำก็จะเดินทางไปช่วยเพื่อนร่วมงานทำงานเสมอ
ซึ่งหลังจากที่มอบเงินเยียวยาแก่มารดา นางปาตีเม๊าะ แล้วเสร็จ นางพรรณพิมล อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร ได้เดินทางไปร่วมเป็นประธานพิธีรดน้ำศพ น.ส.นวรัตน์ ลีนิน อายุ 29 ปี ซึ่งทางเครือญาติได้จัดขึ้นที่วัดโบราณสถิต ซึ่งตั้งอยู่ อ.สุไหงปาดี พร้อมทั้งมอบเงินเยียวยาให้แก่ทางเครือญาติ จำนวน 5 หมื่นบาท เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ครอบครัวในเบื้องต้น
ส่วนความคืบหน้าทางคดีนั้น พ.ต.อ.สะท้านฟ้า วามะสิงห์ ผกก.สส.ภ.จ.นราธิวาส เปิดเผยว่า จากการประเมินเหตุร้ายที่เกิดขึ้น เชื่อว่ากลุ่มคนร้ายมีด้วยกันประมาณ 4-5 คน โดยก่อนก่อเหตุคนร้ายได้ขับรถยนต์เก๋งยี่ห้อโตโยต้า รุ่นยาริส สีขาว ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน ตามประกบรถยนต์รับจ้าง 2 แถว ที่นายทรงธรรม บินอีซอ เป็นคนขับ และได้ส่งสัญญาณให้คนร้ายอีกชุดหนึ่งซึ่งแฝงตัวอยู่ในพงหญ้าที่รกทึบริมทาง เมื่อรถยนต์ที่นายทรงธรรมขับผ่าน คนร้ายได้ใช้อาวุธปืนสงครามอาก้าและ เอ็ม 16 ยิงถล่มใส่รถ เพื่อต้องการให้รถยนต์จอด แต่นายทรงธรรม กลับขับรถยนต์ที่อยู่ในสภาพยางแตกหลบหนี ทำให้กลุ่มคนร้ายไม่สามารถที่จะเข้ามายิงซ้ำใส่ข้าราชการที่นั่งโดยสารอยู่ถึง จำนวน 15 คน ให้เสียชีวิตทั้งหมด
แล้วคนร้ายได้ทิ้งจดหมายซึ่งเขียนเป็นข้อความภาษาไทยว่า เป็นรางวัลให้แก่ผู้บริสุทธิ์ที่ถูกกระทำจากเจ้าหน้าที่รัฐ เพื่อแสดงความรับผิดชอบที่ก่อเหตุร้ายขึ้นในครั้งนี้ ซึ่งเจ้าหน้าที่เชื่อว่าเป็นกลุ่มเดียวกับที่วางระเบิดรถยนต์หุ้มเกราะวีว่าของเจ้าหน้าที่ทหารกองร้อยทหารพรานที่ 4808 กรมทหารพรานที่ 48 เมื่อวันที่ 14 ธ.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งเกิดขึ้นบนถนนเขตรอยต่อระหว่างบ้านไอปาแย กับบ้านเจาะไอร้อง ม.1 ต.จวบ อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส