“นายกฯ ยิ่งลักษณ์” นั่งหัวโต๊ะประชุม ครม. ถกกฎกระทรวงการคลัง ลดภาษีซ้ำซ้อนช่วยชาวไร่ยาสูบ ด้านกฤษฎีกาเสนอร่าง กม.ประกันวินาศภัย และ กฎหมายประกันชีวิต เสริมแกร่งธุรกิจ ส่วนกระทรวงเกษตรฯ ของบกลางเกือบ 100 ล้านช่วยเกษตรกร ชาวประมงประสบภัย ปี 2554-2555
การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ (4 ธ.ค.) ซึ่งมี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมตามปกติ โดยมีวาระที่น่าสนใจคือ กระทรวงการคลังเสนอขออนุมัติหลักการ ร่างกฎกระทรวงกำหนดอัตราค่าแสตมป์ยาสูบ พ.ศ. … โดยสาระสำคัญของร่างกฎกระทรวงดังกล่าวมีดังนี้คือ 1.กำหนดให้ยาเส้น จัดเก็บภาษีอัตราตามมูลค่าร้อยละ 10 อัตราภาษีตามปริมาณ 0.01 บาทต่อหนึ่งกรัม เศษของหนึ่งกรัมให้นับเป็นหนึ่งกรัม 2.กำหนดให้ยาเส้นที่ผู้เพาะปลูกต้นยาสูบทำจากใบยาที่ปลูก และหั่นเอง และได้ขายยาเส้นนั้นแก่ผู้ประกอบอุตสาหกรรมยาสูบ จัดเก็บภาษีอัตราตามมูลค่าร้อยละ 0 อัตราภาษีตามปริมาณ 0 บาทต่อหนึ่งกรัม เศษของหนึ่งกรัมให้นับเป็นหนึ่งกรัม
กระทรวงการคลัง เสนอให้ ครม.พิจารณาร่างข้อบังคับกระทรวงการคลังว่าด้วยการนำทุน หรือผลกำไรของทุนหมุนเวียนส่งเข้าบัญชีเงินคงคลังบัญชีที่ 1 พ.ศ. …. และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
สำหรับสาระสำคัญของร่างข้อบังคับดังกล่าว กำหนดนิยามคำว่า “ทุนหมุนเวียน” และ “ผลกำไร” รวมทั้งกำหนดให้ทุนหมุนเวียน นำทุน หรือผลกำไรของทุนหมุนเวียนส่งเข้าบัญชีเงินคงคลังบัญชีที่ 1 เป็นรายได้แผ่นดิน ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังกำหนด
สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา เสนอร่าง พ.ร.บ.ประกันวินาศภัย (ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. และร่างพ.ร.บ.ประกันชีวิต (ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. รวม 2 ฉบับที่ตรวจพิจารณาเสร็จแล้ว
โดยสาระสำคัญของร่าง พ.ร.บ.ทั้ง 2 ฉบับ เป็นการปรับปรุงโครงสร้างผู้ถือหุ้น และกรรมการของบริษัทเพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งให้แก่ธุรกิจประกันภัย พร้อมทั้งกำหนดให้กองทุนชำระหนี้ให้แก่เจ้าหนี้ซึ่งมีสิทธิได้รับชำระหนี้ที่เกิดจากการเอาประกันภัยแทนบริษัทที่ถูกเพิกถอนใบอนุญาตประกอบธุรกิจประกันวินาศภัย รวมทั้งแก้ไขเพิ่มเติมวัตถุประสงค์ และการใช้จ่ายเงินของกองทุนให้เหมาะสมขึ้น
นอกจากนี้ ยังกำหนดให้กองทุนมีอำนาจในการกู้ยืมเงิน หรือออกตราสารทางการเงินอื่น ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่คณะกรรมการบริหารกองทุนกำหนด และเป็นผู้ชำระบัญชีตามที่คณะกรรมการแต่งตั้ง รวมทั้งแก้ไขเพิ่มเติมที่มาของกองทุนให้เหมาะสมด้วย และเพิ่มบทกำหนดโทษคณะกรรมการบริษัทที่ไม่ส่งมอบบัญชี และเอกสารหลักฐานต่างๆ ทั้งหมดของบริษัทให้แก่ผู้ชำระบัญชีภายในเจ็ดวัน
ด้านกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เสนอ ครม.พิจารณา เรื่อง ขอเงินงบกลางช่วยเหลือเกษตรกร และชาวประมงที่เรือประมงประสบภัยธรรมชาติ ปี 2554-2555 โดยขออนุมัติหลักการให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กษ.) โดยกรมส่งเสริมการเกษตร และกรมประมง ใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2555 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉิน หรือจำเป็น จำนวน 96,267,386.50 บาท เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรผู้ประสบภัยธรรมชาติ และชาวประมงที่เรือประมงประสบภัยธรรมชาติปี 2554-2555 ตามที่ กษ. เสนอ ดังนี้
1.เกษตรกรผู้ประสบภัยด้านพืช จำนวน 3 ภัย ได้แก่ ภัยศัตรูพืชระบาด ภัยแล้ง และภัยฝนทิ้งช่วง จำนวน 11 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร กำแพงเพชร กาญจนบุรี เชียงราย น่าน นครราชสีมา ประจวบคีรีขันธ์ ลพบุรี พะเยา สระบุรี และอุตรดิตถ์ เกษตรกร จำนวน 13,213 ราย วงเงินขอรับความช่วยเหลือ 93,115,550 บาท
2.เกษตรกรผู้ประสบภัยด้านประมง จำนวน 2 ภัย ได้แก่ หอยแมลงภู่ตาย และภัยพายุและคลื่นลมแรง จำนวน 12 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดฉะเชิงเทรา ชุมพร ชลบุรี ตราด นครศรีธรรมราช ปัตตานี ประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรี ระนอง สงขลา สตูล และสมุทรสงคราม เกษตรกร จำนวน 54 ราย เรือประมง จำนวน 33 ลำ วงเงินขอรับความช่วยเหลือ 3,151,836.50 บาท
ส่วนกระทรวงยุติธรรมเสนอให้ ครม. พิจารณาเรื่อง การจัดซื้อเครื่องบริโภคสำหรับใช้เลี้ยงผู้ต้องขัง ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2556 กับองค์การตลาด กระทรวงมหาดไทย (มท.) โดยวิธีกรณีพิเศษตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ.2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ข้อ 26 โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2555 ถึงวันที่ 30 กันยายน 2556 กค.ขอไฟเขียวข้อบังคับทุนหมุนเวียนส่งกำไรเข้าคลัง