ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - สภาประชาสังคมชายแดนใต้ แถลงการณ์แนะรัฐ ครู และขบวนการแบ่งแยกดินแดนเข้าสู่กระบวนการสันติภาพ เพื่อแก้ปัญหาความขัดแย้งสู่เป้าหมายอุดมการณ์อย่างสันติวิธี
วันนี้ (18 ธ.ค.) สภาประชาสังคมชายแดนใต้ ออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดต่อกรณีสถานการณ์ความรุนแรงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยแสดงความกังวลว่า เหตุการณ์ความรุนแรงที่มีลักษณะสยดสยอง และไร้มนุษยธรรมที่กระทำต่อประชาชน และบุคลากรด้านการศึกษาในขณะนี้จะนำไปสู่การใช้สติปัญญา และเหตุผลที่ลดน้อยลง ทั้งนี้ สภาประชาสังคมฯ ยังได้มีข้อเรียกร้องให้แก่รัฐบาล ขบวนการแบ่งแยกดินแดน และบุคลากรทางการศึกษาอีกด้วย
สำหรับข้อเสนอต่อขบวนการแบ่งแยกดินแดนนั้น แถลงการณ์ที่ลงนามโดยนายประสิทธิ เมฆสุวรรณ ประธานสภาประชาสังคมชายแดนใต้ ระบุว่า ให้พึงตระหนักว่า การก่อสงครามที่มีลักษณะเหี้ยมโหดสยดสยองไร้มนุษยธรรมไม่แยกแยะเป้าหมายว่าเป็นผู้ถืออาวุธหรือไม่ อีกทั้งยังกระทำการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างไร้ขอบเขตนั้น เป็นการก่อสงครามที่ไม่เป็นธรรม ซึ่งจะไม่ได้รับการสนับสนุนจากประชาชนในระยะยาว การต่อสู้ที่เริ่มต้นจากอุดมการณ์เพื่อสังคมของชาวมลายูปาตานีก็จะค่อยๆ กลายเป็นอาชญากรรมที่น่ารังเกียจไปในที่สุด
นอกจากนี้ ยังเรียกร้องให้ขบวนการแบ่งแยกดินแดนตระหนักว่า สิทธิในการปกครองตนเองกับการดำรงไว้ซึ่งบูรณภาพแห่งดินแดน และอำนาจอธิปไตยของรัฐไทยนั้น สามารถดำเนินการควบคู่กันไปได้ ฝ่ายขบวนการแบ่งแยกดินแดนควรร่วมมือกับทุกฝ่ายเข้าสู่กระบวนการสันติภาพเพื่อแก้ปัญหาความขัดแย้ง และมุ่งสู่เป้าหมายตามอุดมการณ์อย่างสันติวิธี
ในอีกด้านหนึ่ง แถลงการณ์ฉบับดังกล่าวยังมีข้อเสนอต่อครู และบุคลากรทางการศึกษาทั้งภาครัฐและเอกชนให้ช่วยกันเสริมขวัญ และกำลังใจของตนเอง ยืนหยัดต่อสู้กับอุปสรรค และพยายามใช้ความวิริยะอุตสาหะ เพื่อทำให้โรงเรียนของตนเองกลายเป็นโรงเรียนของชุมชนให้ได้ เนื่องจากมีวิธีการนี้เท่านั้นที่จะสามารถสร้างความปลอดภัยแก่ครู และบุคลากรทางการศึกษาได้อย่างยั่งยืน
“สภาประชาสังคมชายแดนใต้ขอคัดค้านการใช้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ ตลอดถึงครู และบุคลากรทางการศึกษาเป็นเหยื่อในการบรรลุเป้าหมายทางการเมืองของทุกฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายรัฐ หรือฝ่ายขบวนการแบ่งแยกดินแดน”
แถลงการณ์ยังเรียกร้องให้รัฐบาลยกระดับปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นวาระแห่งชาติ โดยยึดถือนโยบายการบริหาร และการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ของสภาความมั่นคงแห่งชาติปี 2555-2557 เป็นแนวทางหลักในการแก้ปัญหา ทั้งยังต้องผลักดันกระบวนการสันติภาพให้จริงจัง และต่อเนื่อง ตลอดจนเร่งรัดให้คดีความมั่นคงทุกคดีดำเนินไปอย่างโปร่งใสและตรวจสอบได้ตามกระบวนการยุติธรรม
นอกจากนี้ ยังต้องแก้ไขไม่ให้การบริหารราชการมีลักษณะไปกดทับอัตลักษณ์ วัฒนธรรม และความเชื่อของผู้คนในพื้นที่ทุกเชื้อชาติศาสนา
วันนี้ (18 ธ.ค.) สภาประชาสังคมชายแดนใต้ ออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดต่อกรณีสถานการณ์ความรุนแรงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยแสดงความกังวลว่า เหตุการณ์ความรุนแรงที่มีลักษณะสยดสยอง และไร้มนุษยธรรมที่กระทำต่อประชาชน และบุคลากรด้านการศึกษาในขณะนี้จะนำไปสู่การใช้สติปัญญา และเหตุผลที่ลดน้อยลง ทั้งนี้ สภาประชาสังคมฯ ยังได้มีข้อเรียกร้องให้แก่รัฐบาล ขบวนการแบ่งแยกดินแดน และบุคลากรทางการศึกษาอีกด้วย
สำหรับข้อเสนอต่อขบวนการแบ่งแยกดินแดนนั้น แถลงการณ์ที่ลงนามโดยนายประสิทธิ เมฆสุวรรณ ประธานสภาประชาสังคมชายแดนใต้ ระบุว่า ให้พึงตระหนักว่า การก่อสงครามที่มีลักษณะเหี้ยมโหดสยดสยองไร้มนุษยธรรมไม่แยกแยะเป้าหมายว่าเป็นผู้ถืออาวุธหรือไม่ อีกทั้งยังกระทำการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างไร้ขอบเขตนั้น เป็นการก่อสงครามที่ไม่เป็นธรรม ซึ่งจะไม่ได้รับการสนับสนุนจากประชาชนในระยะยาว การต่อสู้ที่เริ่มต้นจากอุดมการณ์เพื่อสังคมของชาวมลายูปาตานีก็จะค่อยๆ กลายเป็นอาชญากรรมที่น่ารังเกียจไปในที่สุด
นอกจากนี้ ยังเรียกร้องให้ขบวนการแบ่งแยกดินแดนตระหนักว่า สิทธิในการปกครองตนเองกับการดำรงไว้ซึ่งบูรณภาพแห่งดินแดน และอำนาจอธิปไตยของรัฐไทยนั้น สามารถดำเนินการควบคู่กันไปได้ ฝ่ายขบวนการแบ่งแยกดินแดนควรร่วมมือกับทุกฝ่ายเข้าสู่กระบวนการสันติภาพเพื่อแก้ปัญหาความขัดแย้ง และมุ่งสู่เป้าหมายตามอุดมการณ์อย่างสันติวิธี
ในอีกด้านหนึ่ง แถลงการณ์ฉบับดังกล่าวยังมีข้อเสนอต่อครู และบุคลากรทางการศึกษาทั้งภาครัฐและเอกชนให้ช่วยกันเสริมขวัญ และกำลังใจของตนเอง ยืนหยัดต่อสู้กับอุปสรรค และพยายามใช้ความวิริยะอุตสาหะ เพื่อทำให้โรงเรียนของตนเองกลายเป็นโรงเรียนของชุมชนให้ได้ เนื่องจากมีวิธีการนี้เท่านั้นที่จะสามารถสร้างความปลอดภัยแก่ครู และบุคลากรทางการศึกษาได้อย่างยั่งยืน
“สภาประชาสังคมชายแดนใต้ขอคัดค้านการใช้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ ตลอดถึงครู และบุคลากรทางการศึกษาเป็นเหยื่อในการบรรลุเป้าหมายทางการเมืองของทุกฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายรัฐ หรือฝ่ายขบวนการแบ่งแยกดินแดน”
แถลงการณ์ยังเรียกร้องให้รัฐบาลยกระดับปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นวาระแห่งชาติ โดยยึดถือนโยบายการบริหาร และการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ของสภาความมั่นคงแห่งชาติปี 2555-2557 เป็นแนวทางหลักในการแก้ปัญหา ทั้งยังต้องผลักดันกระบวนการสันติภาพให้จริงจัง และต่อเนื่อง ตลอดจนเร่งรัดให้คดีความมั่นคงทุกคดีดำเนินไปอย่างโปร่งใสและตรวจสอบได้ตามกระบวนการยุติธรรม
นอกจากนี้ ยังต้องแก้ไขไม่ให้การบริหารราชการมีลักษณะไปกดทับอัตลักษณ์ วัฒนธรรม และความเชื่อของผู้คนในพื้นที่ทุกเชื้อชาติศาสนา
