xs
xsm
sm
md
lg

ครอบครัวอุซตาสโอด สามีถูกยิง 40 วันแต่คดีไม่คืบ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ปัตตานี - เผยคดียิงอุซตาสดับยังไม่คืบหน้าเท่าที่ควร แต่มั่นใจว่าไม่ใช่เป็นการกระทำของฝ่ายเจ้าหน้าที่รัฐ ส่วนนางอามิดะห์ ภรรยาหวั่นอนาคตการเรียนลูกวูบจากผลกระทบ อยากได้กองทุนเพื่อสามารถส่งลูกเรียนจนจบตามที่พ่อเขาตั้งใจ

วันนี้ (12 ธ.ค.) ที่บ้านของนายมาหามะ มะแอ วัย 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 85/9 ม.4 บ้านบาโงสะโต ต.เขาตูม อ.ยะรัง จ.ปัตตานี ครูสอนศาสนา (อุซตาส) ประจำโรงเรียนธรรมวิทยามูลนิธิ จ.ยะลา เหลือเพียงนางอามิดะห์ มะแอ วัย 36 ปี ภรรยา ลูกสาว และลูกชายอีก 3 คน หลังจากที่สามีต้องเสียชีวิตจากเหตุคนร้ายไม่ทราบจำนวนใช้รถยนต์กระบะดักยิงด้วยอาวุธปืนเอ็ม 16 ในระหว่างขับรถรับส่งนักเรียนพร้อมลูกสาววัย 13 ขวบ ไปโรงเรียนดังกล่าว เป็นเหตุให้ครูนั้นเสียชีวิตทันทีในที่เกิดเหตุ และมีนักเรียนที่นั่งหน้าข้างคนขับได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย 1 ราย ส่วนลูกสาว และเพื่อนนักเรียนที่นั่งท้ายกระบะ 9 คนนั้นปลอดภัย เหตุเกิดเมื่อเวลา 07.10 น.ของวันที่ 30 ต.ค. บริเวณขึ้นสามแยกทางหลวงสาย 410 ปัตตานี-ยะลา บ้านนัดกูโบร์ ต.เขาตูม อ.ยะรัง จ.ปัตตานี ซึ่งคดียังไม่คืบหน้าเท่าที่ควร

ด้าน พล.ต.ต.เอกภพ ประสิทธิ์วัฒนา ผบก.ภจว.ปัตตานี เปิดเผยว่า ในส่วนของคดียิงนายมาหามะ มะแอ ครูสอนศาสนาโรงเรียนธรรมวิทยามูลนิธินั้น ขณะนี้ เจ้าหน้าที่สามารถทราบที่มาของอาวุธปืนได้แล้ว หลังจากได้นำปลอกกระสุนปืนที่ตกบริเวณที่เกิดเหตุเข้าเครื่องตรวจสอบ พบว่า เป็นอาวุธปืนกระบอกเดียวกันกับที่ใช้ก่อเหตุยิงบ้านของผู้ใหญ่บ้าน ม.7 ต.ศรีสาคร อ.ศรีสาคร จ.นราธิวาส เมื่อปี พ.ศ.2555 ซึ่งปัจจุบัน ได้มีการดำเนินคดีในชั้นศาล โดยมีอดีตผู้ใหญ่บ้าน และผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ต.ศรีสาคร ตกเป็นผู้ต้องหา แต่ยังไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นการกระทำของกลุ่มใด ทางพนักงานสอบสวน สภ.โสร่ง จึงยังไม่สามารถกล่าวโทษผู้ใดได้จนกว่าจะรู้ว่าก่อเหตุในครั้งนั้น และมั่นใจว่าไม่ใช่เป็นการกระทำของฝ่ายเจ้าหน้าที่รัฐ

อย่างไรก็ตาม ทางตำรวจได้มีการตั้งคณะทำงานเพื่อติดตามคดีนี้อย่างใกล้ชิด เพราะเป็นการกระทำที่โหดเหี้ยม และเป็นคดีที่ประชาชนให้ความสนใจเป็นพิเศษ และทางตำรวจจะไม่ไว้หน้าใครทั้งนั้น เมื่อรู้ว่าใครเป็นผู้กระทำจะดำเนินคดีทันที

นางอามิดะห์ มะแอ วัย 36 ปี ภรรยาได้เปิดเผยก่อนหน้านี้ว่า อุซตาสเคยถูกเจ้าหน้าที่ทหารเชิญตัวให้ไปรายงานตัวในฐานะผู้ต้องสงสัยเกี่ยวข้องกับเหตุความไม่สงบในพื้นที่ ที่ฐานปฏิบัติการย่อยทหารหน่วยเฉพาะกิจ จ ปัตตานี บริเวณที่ว่าการอำเภอยะรัง เมื่อปี พ.ศ.2552 โดยให้เข้าไปรายงานตัวทุกเดือน จนกว่าจะมั่นใจว่าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง จากนั้นประมาณ 3 เดือนก็สามารถใช้ชีวิตตามปกติได้

นอกจากนั้น ทุกครั้งเมื่อมีเหตุความไม่สงบในพื้นที่บ้านมักตกเป็นเป้าหมายของการตรวจค้นของเจ้าหน้าที่ ล่าสุด เมื่อวันที่ 7 ส.ค. ที่ผ่านมา ได้เกิดเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดรถยนต์ยูนิม็อกของทหารที่กำลังลาดตระเวนรักษาความปลอดภัยเส้นทางให้แก่ครู เป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่ทหารได้รับเจ็บ 7 นาย เหตุเกิดบริเวณรอยต่อระหว่าง ม.3 กับ ม.6 ต.เขาตูม หลังจากนั้น ก็ได้มีเจ้าหน้าที่บ้านเมืองนำเครื่องมือตรวจสอบสารระเบิดเข้ามาตรวจสอบภายในบ้าน เพราะสงสัยว่าอุซตาสอาจมีส่วนเกี่ยวข้อง แต่จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ในครั้งนั้นไม่พบสาร หรือวัตถุระเบิดแต่อย่างใด ซึ่งสร้างความวิตกให้แก่ครอบครัวเป็นอย่างมาก

จนกระทั่งเมื่อวันที่ 30 ต.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันเปิดเทอมวันแรกของโรงเรียนธรรมวิทยามูลนิธิ อุซตาส ก็ได้นำรถออกไปรับเด็กนักเรียนภายในหมู่บ้าน เพื่อไปส่งที่โรงเรียนตามปกติ เพื่อเป็นการเพิ่มรายได้อีกทางหนึ่งโดยมีลูกสาวนั่งมาด้วย จนกระทั่งเมื่อมาถึงบริเวณถนนชานก่อนถึงแยกถนนทางหลวงสาย 410 ปัตตานี-ยะลา ได้มีรถยนต์กระบะสี่ประตู ยี่ห้อมิตซูบิชิ รุ่นสตราด้าขับแซงแล้วจอดขวางทางขึ้น จากนั้นหนึ่งในคนร้ายได้เดินออกจากรถโดยสวมหมวกไหมพรมพร้อมด้วยอาวุธปืนเอ็ม 16 เข้ามาจ่ออาวุธปืนหันมาทางคนขับ (อุซตาส) จึงทำให้อุซตาส และเด็กนักเรียนที่นั่งเบาะแถวเดียวกันกับคนขับได้ยกมือทั้งสองข้างเพื่อแสดงถึงความบริสุทธิ์ไม่คิดที่จะขัดขืน แต่คนร้ายก็เหนี่ยวปืนทันทีเข้าตรงเป้าที่อุซตาสเพียงอย่างเดียว กระสุนเข้าที่บริเวณโนกแก้ม และหน้าอกจนเป็นเหตุให้เสียชีวิตทันที

นางอามิดะห์ ภรรยายังเผยอีกว่า หลังจากอุซตาสถูกยิงเสียชีวิตทำให้ครอบครัวนั้นขาดรายได้ในการดำรงชีวิตประจำวัน เพราะที่ผ่านมา นางอามิดะห์ ได้ทำหน้าที่เป็นเพียงแม่บ้านไม่ได้ออกไปทำงาน จึงรู้สึกเป็นห่วงอนาคตการเรียนของลูกชายคนโตที่เรียนต่อที่ประเทศอียิปต์ ที่ต้องส่งค่าเล่าเรียนเป็นประจำทุกเดือน แล้วลูกชายคนที่ 2 กำลังเรียนอยู่ที่โรงเรียนพละ จ.ยะลา และลูกสาวกำลังเรียนที่โรงเรียนธรรมวิทยามูลนิธิ จ.ยะลา ซึ่งขณะนี้มีเพียงรายได้จากทำสวนยางหลังบ้านที่มีรายได้เฉลี่ยวันละ 100-200 บาท พอเลี้ยงชีพไปวันๆ จึงอยากได้กองทุนการศึกษาให้ลูกเพื่อสามารถเรียนจนจบตามพ่อเขาได้ตั้งใจ

นายมาหามะ มะแอ ได้เป็นครูสอนศาสนาที่โรงเรียนธรรมวิทยามูลนิธิ จ.ยะลา เป็นเวลานาน 20 ปี เป็นคนหนึ่งที่มีความใกล้ชิดกับผู้บริหารของโรงเรียนดังกล่าว โดยเฉพาะกับนายสะแปอิง บาซอ อดีตผู้บริหารโรงเรียนธรรมวิทยามูลนิธิ (ที่ต้องหลบหนีคดีความมั่นคงที่เคยมีค่าหัวมากถึง 10 ล้านบาท) เป็นผู้ไว้เนื้อเชื่อใจ จึงไม่แปลกถ้าอุซตาสคนนี้อาจถูกทางการสงสัยไปบ้าง ในเรื่องการก่อความไม่สงบในพื้นที่ แต่เมื่อเขาถูกยิงด้วยอาวุธสงครามในระหว่างการออกไปสอนหนังสือ และรับส่งนักเรียนไปโรงเรียน จึงทำให้สังคมเริ่มไม่มั่นใจของการเสียชีวิตในครั้งนี้ว่าใครเป็นคนฆ่า




กำลังโหลดความคิดเห็น