พัทลุง - ลูกจ้างเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาบรรทัด เข้าแจ้งความเอาผิดกับหัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาบรรทัดอมเงินค่าเบี้ยเลี้ยงรวม 6 เดือน กว่า 2 ล้านบาท โดยพนักงานราชการที่เหลือจะทยอยเข้าแจ้งความเพิ่มเติม พร้อมที่จะต่อสู้คดีให้ถึงที่สุด ด้านหัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าฯ แจงลูกจ้างเหมาจ่ายไม่มีสิทธิรับเบี้ยเลี้ยง
วันนี้ (6 ธ.ค.) นายนพชัย ภูมิประไพ พนักงานราชการเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาบรรทัดจังหวัดพัทลุง กล่าวว่า ตน และพนักงานราชการเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาบรรทัดพร้อมทนายความ ได้เข้าแจ้งความดำเนินคดีเอาผิดต่อ นายสุรเชษฎ์ วันดีเรืองไฟศาล หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาบรรทัด กรณีที่ไม่ยอมจ่ายเงินค่าเบี้ยเลี้ยงในส่วนที่เหลือจำนวน 19,620 บาท ให้แก่พนักงานราชการผู้ปฏิบัติหน้าที่จำนวน 110 ราย รวมเกือบ 2 ล้านบาท ซึ่งก่อนหน้านี้ ตัวแทนพนักงานราชการเข้าเจรจากับนายสุรเชษฎ์ให้จ่ายเงินส่วนเหลือแล้วแต่ไม่เป็นผล
โดยหลังจากนี้ พนักงานราชการผู้ที่ได้รับความเสียหาย และเดือดร้อนจำนวนที่เหลือจะทยอยเข้าแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวน สภ.ศรีนครินทร์ โดยพร้อมที่จะต่อสู้คดีให้ถึงที่สุด และจะทำหนังสือร้องเรียนไปยังกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อให้ดำเนินการสอบสวนเอาผิดต่อไป
ต่อมา เมื่อเวลา 15.00 น. นายสุรเชษฎ์ วันดีเรืองไฟศาล หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาบรรทัด จังหวัดพัทลุง ชี้แจงกรณีดังกล่าวว่า ตนยังไม่ทราบรายละเอียดว่ามีการแจ้งความ เนื่องจากพนักงานสอบสวนยังไม่ได้เรียกตัวไปสอบสวน และจะให้รายละเอียดอะไรไม่ได้มากนัก เพราะที่ผ่านๆ มา ระยะ 4 เดือนที่ถูกส่งตัวมาแก้ปัญหาการบุกรุกป่าล่าสัตว์ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาบรรทัด ก็ทำให้คนหลายกลุ่มไม่พอใจ มีทั้งพ่อค้าไม้ ข้าราชการที่ทุจริตในหน้าที่ และได้พยายามโทรศัพท์ขู่ฆ่าตนมาแล้วหลายครั้ง
สำหรับเงินค่าเบี้ยเลี้ยงที่เจ้าหน้าที่ออกทำงานด้วยความเหน็ดเหนื่อยนั้น ก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่ป่าไม้ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาบรรทัดไม่เคยได้รับเบี้ยเลี้ยง เมื่อตนมารับตำแหน่ง และได้ร่วมทำงานตรวจป่าด้วยกันทุกวัน ก็ทำเรื่องขอเบี้ยเลี้ยงให้แก่เจ้าหน้าที่ทุกคน ได้ค่าเบี้ยเลี้ยงโดยเบิกตามสิทธิของพนักงานที่มีสิทธิรับเบี้ยเลี้ยง รวมทั้งของตนด้วย จำนวน 110 คน เบิกเงินมาประมาณ 3.5 ล้านบาท แต่ลูกจ้างอีกประมาณ 200 คนเป็นลูกจ้างเหมาจ่าย ไม่มีสิทธิได้รับเบี้ยเลี้ยง แต่เมื่อทำงานด้วยกันแม้แต่เจ้าหน้าที่ธุรการตนก็แบ่งเบี้ยเลี้ยงให้ แม้ว่าจะได้ไม่เท่ากันก็ตาม
ซึ่งเงินส่วนหนึ่งที่เหลือจากการจ่ายเบี้ยเลี้ยงก็นำไปใช้ซ่อมรถยนต์ที่จอดทิ้งอยู่ตามหน่วยพิทักษ์ป่าบ้าง ซ่อมเครื่องปั่นไฟให้เจ้าหน้าที่ได้ใช้ตามหน่วยพิทักษ์ป่า และส่วนอื่นๆ ซึ่งรวมแล้วก็ไม่พอจ่าย ตนต้องใช้เงินส่วนตัวให้ไปอีกประมาณ 1.5 แสนบาท และยังเป็นหนี้อยู่ในทุกวันนี้