ศูนย์ข่าวภูเก็ต - เจ้าท่าภูมิภาคที่ 5 สาขาภูเก็ต ลงตรวจความพร้อมท่าเทียบเรือ-คนขับเรือ เตรียมพร้อมรับเปิดฤดูกาลท่องเที่ยวของอันดามัน พร้อมจัดกำลังเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังดูแลความปลอดภัยช่วงลอยกระทง
เมื่อเวลา 08.00 น. วันนี้ (26 พ.ย.) ที่บริเวณท่าเทียบเรือรัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต นายภูริพัฒน์ ธีระกุลพิศุทธิ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคที่ 5 สาขาภูเก็ต พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่จากสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคที่ 5 และเจ้าหน้าที่ประจำท่าเทียบเรือ ลงพื้นที่ตรวจสอบความพร้อมของท่าเทียบเรือรัษฎา รวมทั้งตรวจความพร้อมของคนขับเรือ นายท้ายเรือ อุปกรณ์ช่วยชีวิตประจำเรือ เพื่อเตรียมความในการรับมือการเปิดฤดูกาลท่องเที่ยวของจังหวัดอันดามัน รวมทั้งเพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่นักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต
นายภูริพัฒน์ ธีระกุลพิศุทธิ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคที่ 5 สาขาภูเก็ต กล่าวว่า ขณะนี้ในพื้นที่อันดามัน ภูเก็ต พังงา กระบี่ กำลังเข้าสู่ฤดูท่องเที่ยว และเป็นช่วงที่นักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาจำนวนมาก เรื่องของการดูแลความปลอดภัยให้แก่นักท่องเที่ยวที่ใช้บริการทางเรือเพื่อเดินทางไปยังแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ซึ่งโดยปกติการดูแลตรวจสอบความปลอดภัยบริเวณท่าเรือ คนขับเรือ การบรรทุกผู้โดยสาร รวมทั้งเรื่องของเสื้อชูชีพจะมีเจ้าหน้าที่ในการดูแลตรวจสอบเป็นประจำอยู่แล้ว แต่การลงพื้นที่ในครั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่ลงสุ่มตรวจเพื่อเพิ่มความเข้มในการตรวจสอบให้มากขึ้น
ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่า ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ปฏิบัติเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด โดยการตรวจสอบนั้นจะเน้นในเรื่องของเสื้อชูชีพ จะต้องมีครบตามจำนวนของผู้โดยสาร นอกจากนั้น สิ่งที่เน้นย้ำเป็นพิเศษคือเรื่องของการบรรทุกเกินน้ำหนัก ซึ่งเรื่องนี้ยอมไม่ได้เด็ดขาดเพราะถ้าเกิดอุบัติเหตุขึ้นจะทำให้เกิดความเสียหายมหาศาลกับชีวิตของนักท่องเที่ยว และอีกสิ่งหนึ่งที่จะต้องเน้นย้ำคือ เรื่องของถังดับเพลิง เรือทุกลำจะต้องมีถังดับเพลิงเพียงพอสำหรับการใช้เพื่อควบคุมเพลิง และจะต้องมีการตรวจเช็กเพื่อให้ใช้งานได้ตลอดเวลา ส่วนเรื่องของใบอนุญาตขับเรือ เป็นเรื่องที่จะต้องมีอยู่แล้ว ถ้าเรือไม่มีสิ่งเหล่านี้จะไม่อนุญาตให้ออกจากท่าเทียบเรือเด็ดขาด
โดยการตรวจสอบเข้มงวดนั้นปกติก็มีการดำเนินการเข้มงวดทุกท่าเทียบเรืออยู่แล้ว และสิ่งที่จะต้องเฝ้าตรวจสอบคือ เรื่องของการจอดเรือซ้อนลำเพราะเสี่ยงที่จะเกิดอันตรายแก่นักท่องเที่ยวที่ใช้บริการในการลงเรือด้วย อย่างไรก็ตาม สำหรับอุบัติเหตุทางเรือที่เกิดขึ้นในช่วงที่ผ่านมา ส่วนใหญ่เกิดจากเหตุสุดวิสัย ไม่ใช่เกิดจากการบรรทุกเกินน้ำหนัก
นายภูริพัฒน์ ยังได้กล่าวต่อไปถึงการใช้บริการเดินทางท่องเที่ยวโดยทางเรือของนักท่องเที่ยวเพื่อไปยังแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ว่า ในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยว และช่วงเทศกาลจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางโดยทางเรือผ่านท่าเทียบเรือต่างๆ ของจังหวัดภูเก็ตเป็นจำนวนมาก วันละประมาณ 7,000-8,000 คน หรือบางวันมีมากถึง 10,000 คน
นายภูริพัฒน์ ยังได้กล่าวต่อไปว่า นอกจากจัดกำลังเจ้าหน้าที่ในการดูแลความปลอดภัยบริเวณท่าเทียบเรือต่างๆ แล้ว ยังจัดกำลังเจ้าหน้าที่ดูแลความปลอดภัยในงานการลอยกระทงที่จะมีขึ้นในเร็วๆ นี้ โดยเฉพาะการจัดงานริมทะเล และท่าเรือต่างๆ รวมถึงโป๊ะที่ต่อลงไปยังทะเล ซึ่งจุดที่จะต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ คือ ท่าเทียบเรืออ่าวฉลอง ป่าตอง คลองมุดง หาดราไวย์ ซึ่งฝากเตือนไปยังผู้จัดงานให้ระมัดระวัง และจำกัดจำนวนคนที่จะลงไปอยู่ในโป๊ะต่างๆ เพราะถ้าลงไปมากอาจจะทำให้โป๊ะจมได้
เมื่อเวลา 08.00 น. วันนี้ (26 พ.ย.) ที่บริเวณท่าเทียบเรือรัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต นายภูริพัฒน์ ธีระกุลพิศุทธิ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคที่ 5 สาขาภูเก็ต พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่จากสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคที่ 5 และเจ้าหน้าที่ประจำท่าเทียบเรือ ลงพื้นที่ตรวจสอบความพร้อมของท่าเทียบเรือรัษฎา รวมทั้งตรวจความพร้อมของคนขับเรือ นายท้ายเรือ อุปกรณ์ช่วยชีวิตประจำเรือ เพื่อเตรียมความในการรับมือการเปิดฤดูกาลท่องเที่ยวของจังหวัดอันดามัน รวมทั้งเพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่นักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต
นายภูริพัฒน์ ธีระกุลพิศุทธิ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคที่ 5 สาขาภูเก็ต กล่าวว่า ขณะนี้ในพื้นที่อันดามัน ภูเก็ต พังงา กระบี่ กำลังเข้าสู่ฤดูท่องเที่ยว และเป็นช่วงที่นักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาจำนวนมาก เรื่องของการดูแลความปลอดภัยให้แก่นักท่องเที่ยวที่ใช้บริการทางเรือเพื่อเดินทางไปยังแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ซึ่งโดยปกติการดูแลตรวจสอบความปลอดภัยบริเวณท่าเรือ คนขับเรือ การบรรทุกผู้โดยสาร รวมทั้งเรื่องของเสื้อชูชีพจะมีเจ้าหน้าที่ในการดูแลตรวจสอบเป็นประจำอยู่แล้ว แต่การลงพื้นที่ในครั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่ลงสุ่มตรวจเพื่อเพิ่มความเข้มในการตรวจสอบให้มากขึ้น
ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่า ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ปฏิบัติเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด โดยการตรวจสอบนั้นจะเน้นในเรื่องของเสื้อชูชีพ จะต้องมีครบตามจำนวนของผู้โดยสาร นอกจากนั้น สิ่งที่เน้นย้ำเป็นพิเศษคือเรื่องของการบรรทุกเกินน้ำหนัก ซึ่งเรื่องนี้ยอมไม่ได้เด็ดขาดเพราะถ้าเกิดอุบัติเหตุขึ้นจะทำให้เกิดความเสียหายมหาศาลกับชีวิตของนักท่องเที่ยว และอีกสิ่งหนึ่งที่จะต้องเน้นย้ำคือ เรื่องของถังดับเพลิง เรือทุกลำจะต้องมีถังดับเพลิงเพียงพอสำหรับการใช้เพื่อควบคุมเพลิง และจะต้องมีการตรวจเช็กเพื่อให้ใช้งานได้ตลอดเวลา ส่วนเรื่องของใบอนุญาตขับเรือ เป็นเรื่องที่จะต้องมีอยู่แล้ว ถ้าเรือไม่มีสิ่งเหล่านี้จะไม่อนุญาตให้ออกจากท่าเทียบเรือเด็ดขาด
โดยการตรวจสอบเข้มงวดนั้นปกติก็มีการดำเนินการเข้มงวดทุกท่าเทียบเรืออยู่แล้ว และสิ่งที่จะต้องเฝ้าตรวจสอบคือ เรื่องของการจอดเรือซ้อนลำเพราะเสี่ยงที่จะเกิดอันตรายแก่นักท่องเที่ยวที่ใช้บริการในการลงเรือด้วย อย่างไรก็ตาม สำหรับอุบัติเหตุทางเรือที่เกิดขึ้นในช่วงที่ผ่านมา ส่วนใหญ่เกิดจากเหตุสุดวิสัย ไม่ใช่เกิดจากการบรรทุกเกินน้ำหนัก
นายภูริพัฒน์ ยังได้กล่าวต่อไปถึงการใช้บริการเดินทางท่องเที่ยวโดยทางเรือของนักท่องเที่ยวเพื่อไปยังแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ว่า ในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยว และช่วงเทศกาลจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางโดยทางเรือผ่านท่าเทียบเรือต่างๆ ของจังหวัดภูเก็ตเป็นจำนวนมาก วันละประมาณ 7,000-8,000 คน หรือบางวันมีมากถึง 10,000 คน
นายภูริพัฒน์ ยังได้กล่าวต่อไปว่า นอกจากจัดกำลังเจ้าหน้าที่ในการดูแลความปลอดภัยบริเวณท่าเทียบเรือต่างๆ แล้ว ยังจัดกำลังเจ้าหน้าที่ดูแลความปลอดภัยในงานการลอยกระทงที่จะมีขึ้นในเร็วๆ นี้ โดยเฉพาะการจัดงานริมทะเล และท่าเรือต่างๆ รวมถึงโป๊ะที่ต่อลงไปยังทะเล ซึ่งจุดที่จะต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ คือ ท่าเทียบเรืออ่าวฉลอง ป่าตอง คลองมุดง หาดราไวย์ ซึ่งฝากเตือนไปยังผู้จัดงานให้ระมัดระวัง และจำกัดจำนวนคนที่จะลงไปอยู่ในโป๊ะต่างๆ เพราะถ้าลงไปมากอาจจะทำให้โป๊ะจมได้
