ระนอง - ทหารชุดเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 25 กองกำลังเทพสตรี นำกำลังซุ่มในสวนข้างทาง ม.6 บ้านน้ำขาว ตำบล จ.ป.ร. อ.กระรี จ.ระนอง จับแรงงานต่างด้าวชาวพม่า 57 คน รถรถยนต์จำนวน 3 คัน คนขับ 1 คัน ส่วนคนขับอีก 2 คนสามารถหลบหนีการจับกุมไปได้ แรงงานส่วนใหญ่บอกต้องการไปทำงานที่หาดใหญ่ เสียค่าใช้จ่ายคนละ 6,000 บาท และมีบางส่วนต้องการเดินทางไปมาเลเซีย ต้องเสียค่าใช้จ่ายถึง 10,000 บาท
พ.อ. เกรียงไกร ศรีรักษ์ ผู้บังคับการหน่วยเฉพาะกินกรมทหารราบที่ 25 กองกำลังเทพสตรี พร้อมด้วย พ.อ.อุทิศ อนันตนานนท์ รองบังคับการหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 25 กองกำลังเทพสตรี ร.ท.ธวัชชัย ทิวะศะศิธร์ รอง ผบ.ร้อยร.2521 ชุดเฉพาะกิจ ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุม ขบวนการลักลอบขนแรงงานต่างด้าวชาวพม่า ทั้งหญิงและชายรวมจำนวน 57 คน มีรถยนต์ของกลางจำนวน 3 คัน คนขับคนไทย 1 คน ส่วนอีก 2 คนสามารถหลหนีไปได้
พ.อ. เกรียงไกร เปิดเผยว่า การจับกุมครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 05.30 น.วันที่ 15 พ.ย.55เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม ได้รับแจ้งจากสายว่าจะมีขบวนการลักลอบขนแรงงานต่างด้างชาวพม่าออกจากพื้นที่จังหวัดระนอง และจะอาจจะมีอีกส่วนหนึ่งที่ลักลอบเข้ามาในจังหวัดระนอง หัวหน้าชุดจับกุมได้รายงานให้ทราบ จึงสั่งการให้ออกไปทำการเฝ้าซุ่มในบริเวณพื้นที่ สวนปาลืมน้ำมัน โดยซุ่มอยู่ข้างทาง ม.6 บ้านน้ำขาว ตำบล จ.ป.ร. อ.กระรี จ.ระนอง
จากนั้นได้มีรถยนต์สีขาวไม่ติดป้ายทะเบียน และรถยนต์กระบะแบบตอนครึ่งสีฟ้า หมายเลขทะเบียนบท-2674 ชุมพร วิ่งผ่านมา ซึ่งตรงกับที่ได้รับรายงาน เจ้าหน้าที่จึงออกมาจากที่ซุ่มพร้อมแสดงตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่ แต่คนขับรถทั้ง 2คัน กลับเร่งเครื่องหนี เจ้าหน้าที่จึงได้ขับรถไล่ตามตาม สามารถควบคุมตัวแรงงานชาวพม่าในรถ รถยนต์กระบะสีขาวได้จำนวน 24 คน และรถยนต์กระบะสีฟ้า จำนวน 29 คน แต่คนขับสามารถวิ่งหลบหนีไปในความมืดได้ และในระหว่างที่เจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบรถทั้ง 2 คันดังกล่าว ได้มีรถยนต์กระบะสีแดงตอนเดียวหมายเลขทะเลียน บก-9934 ระนอง วิ่งผ่านมา เจ้าหน้าที่จึงเรียกทำการตรวจค้น พบแรงงานชาวพม่าจำนวน 4 คน พร้อมคนขับคือนายมานิตย์ มีมุสิก อายุ 54 ปีอยู่บ้านเลขที่ 22 ม.7 ต.วังไผ่ อ.เมือง จ.ชุมพร เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า รับชาวพม่ามาจากท่ารถแห่งหนึ่งในจังหวัดชุดพร ได้ค่าจ้างหัวละ 500 บาทเพื่อมาส่งที่ท่าเรือจ้างในตัวเมืองจังหวัดระนอง
พ.อ. เกรียงไกร กล่าวต่อว่า จากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ทราบว่าแรงงานพม่าส่วนใหญ่มาจากจังหวัดเกาะสอง ของประเทศพม่า ต้องการเดินทางไปทำงานที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เสียค่าใช้คนละ 6,000 บาท และมีบางส่วนต้องการเดินทางไปยังประเทศมาเลเซียต้องเสียค่าใช้จ่ายคนละ 10,000 บาท โดยหลังจากนี้จะให้เจ้าหน้าที่ทำการสอบสวนอย่างละเอียด เพื่อจะได้สืบหาผู้ต้องหาและขบวนการลักลอบขนแรงงานต่างด้าวดำเนินคดีต่อไป ก่อนจะส่งให้ร้อยเวรเจ้าของพื้นที่ดำเนินคดีตามกฎหมาย
พ.อ. เกรียงไกร ศรีรักษ์ ผู้บังคับการหน่วยเฉพาะกินกรมทหารราบที่ 25 กองกำลังเทพสตรี พร้อมด้วย พ.อ.อุทิศ อนันตนานนท์ รองบังคับการหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 25 กองกำลังเทพสตรี ร.ท.ธวัชชัย ทิวะศะศิธร์ รอง ผบ.ร้อยร.2521 ชุดเฉพาะกิจ ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุม ขบวนการลักลอบขนแรงงานต่างด้าวชาวพม่า ทั้งหญิงและชายรวมจำนวน 57 คน มีรถยนต์ของกลางจำนวน 3 คัน คนขับคนไทย 1 คน ส่วนอีก 2 คนสามารถหลหนีไปได้
พ.อ. เกรียงไกร เปิดเผยว่า การจับกุมครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 05.30 น.วันที่ 15 พ.ย.55เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม ได้รับแจ้งจากสายว่าจะมีขบวนการลักลอบขนแรงงานต่างด้างชาวพม่าออกจากพื้นที่จังหวัดระนอง และจะอาจจะมีอีกส่วนหนึ่งที่ลักลอบเข้ามาในจังหวัดระนอง หัวหน้าชุดจับกุมได้รายงานให้ทราบ จึงสั่งการให้ออกไปทำการเฝ้าซุ่มในบริเวณพื้นที่ สวนปาลืมน้ำมัน โดยซุ่มอยู่ข้างทาง ม.6 บ้านน้ำขาว ตำบล จ.ป.ร. อ.กระรี จ.ระนอง
จากนั้นได้มีรถยนต์สีขาวไม่ติดป้ายทะเบียน และรถยนต์กระบะแบบตอนครึ่งสีฟ้า หมายเลขทะเบียนบท-2674 ชุมพร วิ่งผ่านมา ซึ่งตรงกับที่ได้รับรายงาน เจ้าหน้าที่จึงออกมาจากที่ซุ่มพร้อมแสดงตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่ แต่คนขับรถทั้ง 2คัน กลับเร่งเครื่องหนี เจ้าหน้าที่จึงได้ขับรถไล่ตามตาม สามารถควบคุมตัวแรงงานชาวพม่าในรถ รถยนต์กระบะสีขาวได้จำนวน 24 คน และรถยนต์กระบะสีฟ้า จำนวน 29 คน แต่คนขับสามารถวิ่งหลบหนีไปในความมืดได้ และในระหว่างที่เจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบรถทั้ง 2 คันดังกล่าว ได้มีรถยนต์กระบะสีแดงตอนเดียวหมายเลขทะเลียน บก-9934 ระนอง วิ่งผ่านมา เจ้าหน้าที่จึงเรียกทำการตรวจค้น พบแรงงานชาวพม่าจำนวน 4 คน พร้อมคนขับคือนายมานิตย์ มีมุสิก อายุ 54 ปีอยู่บ้านเลขที่ 22 ม.7 ต.วังไผ่ อ.เมือง จ.ชุมพร เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า รับชาวพม่ามาจากท่ารถแห่งหนึ่งในจังหวัดชุดพร ได้ค่าจ้างหัวละ 500 บาทเพื่อมาส่งที่ท่าเรือจ้างในตัวเมืองจังหวัดระนอง
พ.อ. เกรียงไกร กล่าวต่อว่า จากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ทราบว่าแรงงานพม่าส่วนใหญ่มาจากจังหวัดเกาะสอง ของประเทศพม่า ต้องการเดินทางไปทำงานที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เสียค่าใช้คนละ 6,000 บาท และมีบางส่วนต้องการเดินทางไปยังประเทศมาเลเซียต้องเสียค่าใช้จ่ายคนละ 10,000 บาท โดยหลังจากนี้จะให้เจ้าหน้าที่ทำการสอบสวนอย่างละเอียด เพื่อจะได้สืบหาผู้ต้องหาและขบวนการลักลอบขนแรงงานต่างด้าวดำเนินคดีต่อไป ก่อนจะส่งให้ร้อยเวรเจ้าของพื้นที่ดำเนินคดีตามกฎหมาย