ชุมพร - ตำรวจทางหลวงจับแก๊งขนแรงงานเถื่อนใช้รถตู้ติดโลโก้เลียนแบบช่อง 7 และข่าวเด็ด 7 สี หวังตบตาเจ้าหน้าที่ลักลอบขนต่างด้าวจาก จ.สมุทรสาคร ลงภาคใต้ เผยทำมาแล้วหลายครั้ง หวังหาเงินวิ่งเต้นสู้คดีขนต่างด้าว-ยาเสพติด ที่ถูกจับกุมก่อนหน้านี้
เมื่อเวลา 10.30 น. วันนี้ (11 ต.ค.) พ.ต.ท.เจริญพงษ์ ขันติโล สว.ส.ทล.4 กก.2 ชุมพร ได้รับแจ้งจากสายข่าวว่า จะมีขบวนการค้าแรงงานต่างด้าวลักลอบขนแรงงานจาก จ.สมุทรสาคร ปลายทาง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา โดยจะนำพามากับรถยนต์ตู้ยี่ห้อโตโยต้า สีขาว หมายเลขทะเบียน นข 6711 สงขลา จึงได้สั่งการให้ทาง ร.ต.ท.ภานุวัฒน์ โฉมยงค์ รอง สว.ส.ทล.4 กก.2 ชุมพร, ด.ต.บุญส่ง โพธิสวรรค์, ด.ต.นรินทร์ มณฑิราช, ด.ต.ชัยวุฒิ น้อมสุวรรณศรี ผบ.หมู่ ส.ทล.4 กก.2 บก.ทล. นำรถตรวจการณ์ออกตั้งจุดสกัดบนถนนเอเชีย 41 หลัก กม.13-14 ต.ทุ่งคา อ.เมือง จ.ชุมพร
กระทั่งพบรถยนต์ตู้ยี่ห้อโตโยต้า สีขาว ทะเบียน นข 6711 สงขลา กระจกหน้ารถติดข้อความ “ข่าวเด็ด 7 สี” และประตูทั้งสองข้างสติกเกอร์ขนาดใหญ่เป็นโลโก้เลียนแบบของสถานีโทรทัศน์ช่อง 7 ซึ่งเป็นรถเป้าหมายตามที่ได้รับแจ้ง ได้ขับผ่านจุดตรวจมุ่งหน้าลงภาคใต้ จึงได้เรียกให้หยุดรถเพื่อตรวจสอบ ทราบคนขับชื่อ นายอรรฆพร วงศ์ประเสริฐ อายุ 52 ปี อยู่บ้านเลขที่ 516 ซอยบรมราชชนนี 70 ถนนบรมราชชนนี เขตทวีวัฒนา กรุงเทพฯ ตรวจสอบภายในรถพบว่ามีบุคคลต่างด้าวจำนวน 20 คน เป็นชาย 18 คน และหญิง 2 คน แยกเป็นชาวมอญ 2 คน พม่า 3 คน และโรฮิงญา จำนวน 15 คนนั่งอัดแน่นมาภายในรถ ซึ่งทุกคนไม่มีเอกสารนำมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ จึงได้นำตัวทั้งหมดมาสอบสวนที่สถานีตำรวจทางหลวงชุมพร
จากการสอบสวนนายอรรฆพร ผู้ขับขี่ให้การรับสารภาพว่า ก่อนหน้านี้ตนเองมีอาชีพเป็นพนักงานขับรถบัสของบริษัทหนึ่ง แต่ถูกไล่ออกเนื่องจากลักลอบขนแรงงานต่างด้าวในลักษณะนี้ และยังถูกตรวจพบยาเสพติดจำนวนหนึ่ง ซึ่งคดีอยู่ในชั้นอัยการทำให้ตนเองต้องหาเงินเพื่อนำไปวิ่งเต้นจ้างทนายสู้คดี จึงหันกลับมารับจ้างขนแรงงานต่างด้าว ซึ่งจะได้ค่าจ้างเป็นรายหัวๆ ละ 2,000-5000 บาท และที่ผ่านมา ได้ทำการลักลอบขนแรงงานต่างด้าวจาก จ.สมุทรสาคร ไปส่งยังพื้นที่ จ.สงขลา มาแล้วหลายครั้ง โดยที่ไม่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับได้ เนื่องจากได้ติดสติกเกอร์ของสถานีโทรทัศน์ช่อง 7 อำพรางว่าเป็นรถข่าว และผ่านด่านตรวจมาได้ตลอด แต่มาครั้งนี้ไม่รอดถูกจับได้ในที่สุด
ในเบื้องต้น เจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาช่วยเหลือ หรือช่วยด้วยประการใดๆ ให้บุคคลต่างด้าวพ้นจากการจับกุม ซึ่งรู้ว่าเป็นบุคคลต่างด้าว (พม่า) เดินทางเข้ามาในเมืองโดยผิดกฎหมาย ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.วิสัยเหนือ จ.ชุมพร ดำเนินคดีต่อไป
เมื่อเวลา 10.30 น. วันนี้ (11 ต.ค.) พ.ต.ท.เจริญพงษ์ ขันติโล สว.ส.ทล.4 กก.2 ชุมพร ได้รับแจ้งจากสายข่าวว่า จะมีขบวนการค้าแรงงานต่างด้าวลักลอบขนแรงงานจาก จ.สมุทรสาคร ปลายทาง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา โดยจะนำพามากับรถยนต์ตู้ยี่ห้อโตโยต้า สีขาว หมายเลขทะเบียน นข 6711 สงขลา จึงได้สั่งการให้ทาง ร.ต.ท.ภานุวัฒน์ โฉมยงค์ รอง สว.ส.ทล.4 กก.2 ชุมพร, ด.ต.บุญส่ง โพธิสวรรค์, ด.ต.นรินทร์ มณฑิราช, ด.ต.ชัยวุฒิ น้อมสุวรรณศรี ผบ.หมู่ ส.ทล.4 กก.2 บก.ทล. นำรถตรวจการณ์ออกตั้งจุดสกัดบนถนนเอเชีย 41 หลัก กม.13-14 ต.ทุ่งคา อ.เมือง จ.ชุมพร
กระทั่งพบรถยนต์ตู้ยี่ห้อโตโยต้า สีขาว ทะเบียน นข 6711 สงขลา กระจกหน้ารถติดข้อความ “ข่าวเด็ด 7 สี” และประตูทั้งสองข้างสติกเกอร์ขนาดใหญ่เป็นโลโก้เลียนแบบของสถานีโทรทัศน์ช่อง 7 ซึ่งเป็นรถเป้าหมายตามที่ได้รับแจ้ง ได้ขับผ่านจุดตรวจมุ่งหน้าลงภาคใต้ จึงได้เรียกให้หยุดรถเพื่อตรวจสอบ ทราบคนขับชื่อ นายอรรฆพร วงศ์ประเสริฐ อายุ 52 ปี อยู่บ้านเลขที่ 516 ซอยบรมราชชนนี 70 ถนนบรมราชชนนี เขตทวีวัฒนา กรุงเทพฯ ตรวจสอบภายในรถพบว่ามีบุคคลต่างด้าวจำนวน 20 คน เป็นชาย 18 คน และหญิง 2 คน แยกเป็นชาวมอญ 2 คน พม่า 3 คน และโรฮิงญา จำนวน 15 คนนั่งอัดแน่นมาภายในรถ ซึ่งทุกคนไม่มีเอกสารนำมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ จึงได้นำตัวทั้งหมดมาสอบสวนที่สถานีตำรวจทางหลวงชุมพร
จากการสอบสวนนายอรรฆพร ผู้ขับขี่ให้การรับสารภาพว่า ก่อนหน้านี้ตนเองมีอาชีพเป็นพนักงานขับรถบัสของบริษัทหนึ่ง แต่ถูกไล่ออกเนื่องจากลักลอบขนแรงงานต่างด้าวในลักษณะนี้ และยังถูกตรวจพบยาเสพติดจำนวนหนึ่ง ซึ่งคดีอยู่ในชั้นอัยการทำให้ตนเองต้องหาเงินเพื่อนำไปวิ่งเต้นจ้างทนายสู้คดี จึงหันกลับมารับจ้างขนแรงงานต่างด้าว ซึ่งจะได้ค่าจ้างเป็นรายหัวๆ ละ 2,000-5000 บาท และที่ผ่านมา ได้ทำการลักลอบขนแรงงานต่างด้าวจาก จ.สมุทรสาคร ไปส่งยังพื้นที่ จ.สงขลา มาแล้วหลายครั้ง โดยที่ไม่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับได้ เนื่องจากได้ติดสติกเกอร์ของสถานีโทรทัศน์ช่อง 7 อำพรางว่าเป็นรถข่าว และผ่านด่านตรวจมาได้ตลอด แต่มาครั้งนี้ไม่รอดถูกจับได้ในที่สุด
ในเบื้องต้น เจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาช่วยเหลือ หรือช่วยด้วยประการใดๆ ให้บุคคลต่างด้าวพ้นจากการจับกุม ซึ่งรู้ว่าเป็นบุคคลต่างด้าว (พม่า) เดินทางเข้ามาในเมืองโดยผิดกฎหมาย ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.วิสัยเหนือ จ.ชุมพร ดำเนินคดีต่อไป