ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - “สมัชชาองค์กรเอกชนด้านการคุ้มครองสิ่งแวดล้อมและอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ” ร่อนแถลงการณ์มอบกำลังใจครอบครัว “พีระ ตันติเศรณี” และ “ชาวสงขลา” จี้ให้เร่งจับทีมฆาตกร และผู้บงการ ย้ายที่ตั้งสารกัมมันตรังสี เติมทรายให้ชายหาดสมิหลา รักษาป่าแหลมสนอ่อน ปกป้องแหล่งน้ำมัน ตามเจตนารมณ์ “ร่วมสร้างสงขลา ให้เป็นเมืองน่าอยู่”
นายหาญณรงค์ เยาวเลิศ ประธานสมัชชาองค์กรเอกชนด้านการคุ้มครองสิ่งแวดล้อมและอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ ได้ออกแถลงการณ์ ฉบับที่ ๒/๒๕๕๕ ลงวันที่ ๑๔ เดือนธันวาคม พ.ศ.๒๕๕๕ โดยใช้หัวเรื่องว่า มอบกำลังใจครอบครัว นายพีระ ตันติเศรณี และชาวสงขลา เร่งจับทีมฆาตกร และผู้บงการ ย้ายที่ตั้งสารกัมมันตรังสี เติมทรายให้ชายหาดสมิหลา รักษาป่าแหลมสนอ่อน ปกป้องแหล่งน้ำมัน “ร่วมสร้างสงขลา ให้เป็นเมืองน่าอยู่”
ทั้งนี้ เนื้อหาในแถลงการณ์ดังกล่าวระบุว่า จากการนำเสนอข่าวของสื่อมวลชนช่วงเหตุการณ์ฆาตกรรม นายพีระ ตันติเศรณี นายกเทศมนตรีนครสงขลา เมื่อคืนวันที่ ๗ พฤศจิกายน ๒๕๕๕ ที่ผ่านมา บริเวณหน้าสำนักงานสงขลาฟอรั่ม ถนนนครใน หลังเสร็จการประชุมกับกลุ่มพลเมืองสงขลา นักกิจกรรมทางสังคม นักวิชาการ และนักพัฒนาเอกชน หรือเอ็นจีโอ เรื่องการเคลื่อนย้ายที่ตั้งสารกัมมันตรังสีให้ออกไปจากเขตตัวเมืองสงขลา จนเกิดเป็นเรื่องสะเทือนขวัญแก่สังคมไทยเป็นอย่างมาก ซึ่งนับได้ว่าเป็นเหตุการณ์ครั้งประวัติศาสตร์ที่สำคัญที่ผู้นำท้องถิ่นระดับนายกเทศมนตรีนครสงขลา เมืองใหญ่ทางภาคใต้ถูกกระทำด้วยลักษณะที่อุกอาจเช่นนี้
ที่ผ่านมา สมัชชาองค์กรพัฒนาเอกชนด้านการคุ้มครองทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เห็นว่า นายพีระ ตันติเศรณี นายกเทศมนตรีนครสงขลา เป็นนักการเมือง “น้ำดีและหัวก้าวหน้า” เป็นนักอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มีสำนึกเพื่อแผ่นดินเกิด ทำงานทุ่มเทเพื่อชาวสงขลา เห็นได้จากการพัฒนาเมืองสงขลาให้เป็นเมืองน่าอยู่ สร้างการมีส่วนร่วมกับประชาชนทุกภาคีเครือข่าย รักษาป่าสนชายหาดแหลมสนอ่อน หาดสมิหลา การฟื้นฟูชายหาดสมิหลาที่ถูกกัดเซาะด้วยการเติมทราย ฟื้นฟูและรักษาวัฒนธรรม วิถีชีวิตผู้คนชุมชนเมืองเก่านครนอก นครใน ถนนนางงาม และถนนคนเดิน ทำให้สงขลาเป็นเมืองเขตปลอดมลพิษ ซึ่งเป็นทิศทางการพัฒนาตามนโยบายของนายพีระที่ดีงาม
และต่อมา เมื่อเกิดเหตุการณ์การคัดค้านการเก็บสารกัมมันตรังสีในเมืองสงขลาของบริษัทเอกชน ให้ย้ายออกไปจากตัวเมืองสงขลา ตลอดจนคัดค้านการอนุญาตแปลงสัมปทานขุดเจาะน้ำมันของบริษัทเอกชนบริเวณทะเลหน้าอ่าวสงขลา การคัดค้านการทำลาย และเปลี่ยนแปลงสภาพพื้นที่ป่าสนชายหาดแหลมสนอ่อน หาดสมิหลา ตามโครงการจัดสร้างกระเช้าลอยฟ้า ด้วยแนวคิดการตัดสินใจบนผลประโยชน์ และความยั่งยืนของคนท้องถิ่น คนสงขลา และประเทศชาติ ทำให้เกิดการหารือกับประชาชน หน่วยงานที่เกี่ยวข้องหลายภาคส่วน ซึ่งเป็นกระบวนการหารือที่ดี เพื่อผลประโยชน์ของสงขลาโดยรวม เป็นที่น่าสนใจอย่างยิ่งในบทบาททางการเมืองท้องถิ่น ที่เป็นการดำเนินงานทางการเมืองเพื่อผลประโยชน์ของท้องถิ่น
ดังนั้น สมัชชาองค์กรพัฒนาเอกชนด้านการคุ้มครองทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ขอทำความเข้าใจให้แก่สังคมไทย และชาวจังหวัดสงขลาว่า การฆาตกรรมนายพีระ ตันติเศรณี เป็นการตายเพื่อพิทักษ์ผลประโยชน์ของท้องถิ่น คนสงขลา และประเทศชาติ และขอให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กำกับ ติดตาม การจับกุม และดำเนินคดีกับทีมฆาตกร และผู้บงการโดยเร่งด่วน ส่วนกรณีผลักดันให้ย้ายที่ตั้งสารกัมมันตรังสีให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการโดยเร่งด่วน ยกเลิกการยึดป่าสนชายหาดไปทำกระเช้าลอยฟ้า และยกเลิกการอนุญาตสัมปทานขุดเจาะน้ำมันบริเวณหาดหน้าอ่าวสงขลาที่ส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศทางทะเล และการประกอบอาชีพประมง
“อย่าให้คนชั่วลอยนวล ทบทวนการสัมปทานน้ำมัน หยุดการยึดป่าสนชายหาด สร้างสรรค์สงขลาเมืองให้น่าอยู่ คู่แผ่นดินไทย” แถลงการณ์ระบุก่อนจะตบท้ายว่า ด้วยจิตคารวะ ศรัทธา และอาลัย