xs
xsm
sm
md
lg

เงินหาย ความสุขก็หล่นหาย วลีเด็ด “สุทธิชัย” ผู้ตามหาเจ้าของเงินกว่าครึ่งแสนจนพบ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายสุทธิชัย จารุผดุง ผู้เก็บเงินกว่าครึ่งแสนคืนเจ้าของพร้อมแถมให้อีก 700 บาทเพื่อให้ครบ 60,000
“คนที่ทำเงินหายคือคนที่มีความทุกข์ และกังวลที่สุด เงินเป็นเหมือนความสุขของทุกคน หากใครทำเงินหายก็เหมือนกับทำความสุขหล่นหายไปด้วย”

นายสุทธิชัย จารุผดุง วัย 63 ปี กล่าวขึ้นเมื่อถูกถามที่มาที่ไปของข่าวซึ่งปรากฏในสื่อแทบทุกสำนักทั่วประเทศว่ามีความรู้สึกอย่างไร หลังจากเก็บเงินได้ 59,300 บาท และติดตามเฝ้ารอหาเจ้าของที่แท้จริง กระทั่งคืนเงินให้เจ้าของที่แท้จริงพร้อมกับมอบเงินให้อีก 700 บาท เพื่อให้ครบ 60,000 บาท ซึ่ง “ASTVผู้จัดการหาดใหญ่” ได้ขอสัมภาษณ์พิเศษที่ร้าน “แฟน” ย่านตลาดใหม่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ให้ทุกคนได้รู้จักมากขึ้น

นายสิทธิชัย เล่าให้ฟังว่า เมื่อวันที่ 16 ตุลาคมที่ผ่านมา ตนได้ไปเดินซื้อของที่ห้างแม็คโคร สาขาหาดใหญ่ และพบกระเป๋าเงินของผู้หญิงวางลืมไว้ที่ชั้นวางของ จึงได้รีบเก็บไว้แล้วนำไปแจ้งความที่ สภ.หาดใหญ่ เก็บไว้เพื่อติดตามหาเจ้าของซึ่งมีบัตรประจำตัวประชาชนอยู่ด้วย แต่ผ่านไปร่วมสัปดาห์ก็ยังไม่มีความคืบหน้า จึงตัดสินใจนำเรื่องไปแจ้งให้ผู้สื่อข่าวทั้งโทรทัศน์ และสื่อท้องถิ่นช่วยประกาศตามหาเจ้าของอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งพบตัว

“หลังจากไปแจ้งความไว้เรื่องก็เงียบหายไปร่วมสัปดาห์ ในเช้าวันที่ 22 ตุลาคม จึงตัดสินใจเข้าไปถามความคืบหน้าจากตำรวจ แต่ก็ยังไม่ได้รับข่าวดีใดๆ ด้วยความกังวล และร้อนใจที่อยากให้เงินจำนวนนี้กลับคืนสู่เจ้าของโดยเร็วที่สุด เพราะเงินที่เราเก็บได้ไม่ใช่ของเรานั้นแม้จะเป็นความทุกข์แล้ว แต่คนที่ทำเงินหายก็ต้องทุกข์ใจยิ่งกว่า ดังนั้น วันที่ 23 ตุลาคม ผมจึงได้ตัดสินใจนำเรื่องไปแจ้งทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 11 โชคดีเจ้าหน้าที่ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี และเปิดโอกาสให้นำเรื่องนี้มาเผยแพร่ออกอากาศในวันที่ 24 ตุลาคม ทั่วประเทศ” นายสิทธิชัยกล่าวต่ออีกว่า

และด้วยไม่รู้ผลจะออกมาอย่างไร แต่เขาต้องการที่จะให้เจ้าของมารับคืนเงินจำนวนนี้เร็วที่สุด จึงติดต่อให้เพื่อนตอนสมัยเรียนคือ นายเทวี เหาตะวานิช ซึ่งอยู่จังหวัดสตูลช่วยแจ้งข่าวให้แก่เจ้าของอีกแรง พร้อมกับการถ่ายสำเนาบันทึกแจ้งความเพื่อไปยืนยันให้ไปรับเงินที่เก็บรักษาไว้ สภ.หาดใหญ่

หลังจากนั้น วันที่ 2 พฤศจิกายน ก็ได้เข้าพบ พ.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้กำกับการ สภ.หาดใหญ่ เพื่อถามข่าวคราวถึงความคืบหน้า จึงสอบถามจากเจ้าของคดี และได้รับคำตอบว่า ได้คืนเงินให้แก่ น.ส.นัสรินทร์ เจ๊ะหมีน อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 177 ม.3 ต.วังประจัน อ.ควนโดน จ.สตูล ซึ่งเป็นเจ้าของร้านชำ และมารับเงินตั้งแต่วันที่ 24 ตุลาคมแล้ว โดยที่ไม่ได้แจ้งให้ฝ่ายตนซึ่งเป็นผู้พบเงินทราบ จึงมีประสานเจ้าของเงินเพื่อให้มีการรับมอบเงินอย่างเป็นทางการ โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นสักขีพยาน

“ท่านผู้กำกับสั่งให้ผู้กองเชิญเจ้าของเงินที่อยู่จังหวัดสตูลมาพบหน้าทำความรู้จัก ซึ่งผมก็ดีใจที่สุดท้ายก็ส่งเงินไปถึงมือเจ้าของ คือ คุณนัสรินทร์ เจ๊ะหมีน ทำให้ผมสบายใจมาก แม้วันที่เจอหน้ากัน คุณนัสรินทร์จะไม่ได้กล่าวคำขอบคุณหรืออะไร ซึ่งอาจจะเป็นเพราะเขาตื่นเต้น หรือดีใจจนลืม แต่ผมก็ไม่ได้หวังอะไรตรงนั้นอยู่แล้ว แค่อยากให้เขาได้ความสุขกลับคืนไป และทราบว่า เขาเพิ่งแต่งงานมีครอบครัวก็เลยอยากจะเติมเต็มความสุขให้อีกเพื่อเป็นการปลอบขวัญที่ตกใจที่ทำเงินหาย เลยปรึกษากับทางตำรวจว่าจะเป็นอะไรไหม ถ้าผมจะขอมอบเงินให้อีก 700 บาท เพื่อให้คุณนัสรินทร์ได้กลับบ้านพร้อมกับเงินครบ 60,000 บาท”

นายสิทธิชัยกล่าวด้วยรอยยิ้มก่อนจะเล่าต่อว่า เรื่องเจอเงิน หรือเจอของตกหล่นนั้นมีบ่อย แต่ก็คืนทุกครั้ง เพราะคิดว่าการที่เจอเงินเปรียบเหมือนการถือความทุกข์จากผู้อื่น เพราะเจ้าของย่อมเสียใจ และเสียดาย ยิ่งหากนำเงินนั้นไปใช้แล้ว ก็คือการบริโภคความทุกข์จากผู้อื่น และคนที่ต้องทุกข์ใจไปตลอดคือ เจ้าของเงิน เมื่อตนต้องเผชิญสถานการณ์นี้จึงอยากที่จะคืนความสุข และเติมเต็มความสุขนั้นให้เต็มร้อย เขาจะได้รู้ว่าขนาดเงินยังปลอดภัยแล้วคนที่มาเที่ยวมาเยี่ยมเยือนหาดใหญ่ก็ต้องปลอดภัยด้วยเหมือนกัน

และนี่คือแนวคิด..ตัวตนของพลเมืองดีที่ควรยกย่องให้เกียรติอีกหนึ่งคนในสังคมปัจจุบัน ที่ควรค่ากับการปฏิบัติตาม แม้จะไม่ใช่คนที่ร่ำรวยแต่ก็ยึดมั่นในการทำความดีอย่างไม่หวังสิ่งตอบแทน สำคัญที่สุดคือ การเตือนสติให้คนอื่นช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ด้วยกันเป็นอนาคตของชาติ ให้เติบโตไปพร้อมกับการมุ่งทำความดีเพื่อสังคม

 
 


ร้าน “แฟน” ย่านตลาดใหม่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ซึ่งเป็นร้านของของเบ็ดเตล็ดทั่วไป
สินค้าภายในร้าน แฟน
นอกจากของเบ็ดเตล็ดทั่วไปแล้ว ก็ยังมีขายหนังสือพิมพ์ด้วย
ภาพข่าวจากหนังสือพิมพ์ที่นายสุทธิชัยได้เก็บเงินจำนวนดังกล่าวได้
กำลังโหลดความคิดเห็น