“แม่ค้าปราสาท” สุรินทร์โวยแก๊งฉกทรัพย์อาละวาดหนัก-แจ้ง ตร.กลับหายเงียบไม่คืบ

สุรินทร์ - แม่ค้า อ.ปราสาท เมืองช้าง ผวาแก๊งฉกทรัพย์ในร้านค้าอาละวาดหนัก ตระเวนฉกเงินสด ทองคำในร้านเหยื่อไปแล้วหลายรายหมดตัวไปรายแสนบาท บางร้านเจอมาแล้วถึง 3 รอบ ล่าสุดกล้องวงจรปิดบันทึกภาพคนร้ายได้ชัดเจนมาเป็นแก๊งรวม 6 คน โวยแจ้งความตำรวจ สภ.ปราสาทหลายครั้งแต่หายเงียบไร้คืบหน้า ไม่สามารถจับคนร้ายได้แม้แต่รายเดียว

วันนี้ (30 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากนางสภาพ มณีเรือง อายุ 44 ปี เจ้าของร้านจำหน่ายเสื้อผ้าและสิ่งของเครื่องใช้ในครัวเรือน พร้อมด้วยนางบุญกอง สาคเรศ อายุ 51 ปี แม่ค้าขายผลไม้ในตลาดสดเทศบาลตำบลกังแอน อ.ปราสาท จ.สุรินทร์

โดยนางสุภาพ มณีเรือง บอกกับผู้สื่อข่าวว่า เมื่อวันที่ 25 ต.ค.ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 08.36 น.ได้มีแก๊งฉกทรัพย์สินในร้านค้าเข้ามาในร้านของตนจำนวน 6 คน เป็นหญิง 4 คน ชาย 1 คน และมีลูกเล็กอีก 1 คน ในจำนวนนี้เป็นผู้หญิงท้องแก่ด้วย 1 คน เข้ามาทำทีเลือกซื้อสินค้าภายในร้านค้า

โดยแต่ละคนทำเหมือนไม่รู้จักกันมาก่อนและชักชวนให้พนักงานในร้านเดินพูดคุยไปด้วย หยิบเลือกสินค้าไปเรื่อยแต่ไม่ยอมจ่ายเงินสักที ขณะที่คนอื่นๆ ก็พยายามหาทางเข้าฉกเอาทรัพย์สินในกระเป๋าที่ตนเก็บไว้ใส่ในลังพลาสติก ขณะที่คนอื่นอีก 3 คน คอยดูต้นทาง เมื่อสบโอกาสก็ได้หยิบเอากระเป๋าเงินของตนที่เก็บไว้ในลังพลาสติก เดินออกจากร้านไปโดยเร็ว

เมื่อตนรู้ตัวกลับมาดูกระเป๋าเงินที่ใส่ไว้ในลังพลาสติก ปรากฏว่ากระเป๋าที่มีเงินสดอยู่กว่า 1 แสนบาท รวมทั้งเอกสารต่างๆ ทั้งสมุดบัญชีเงินฝากธนาคาร บัตรเอทีเอ็ม กรมธรรม์ประกันภัย บัตรประจำตัวประชาชน และเอกสารอื่นๆ อีกจำนวนมากหายไปหมดแล้ว

ซึ่งเหตุการณ์ทั้งหมดกล้องโทรทัศน์วงจรปิดภายในร้านสามารถบันทึกภาพคนร้ายขณะก่อเหตุไว้ได้ทั้งหมดอย่างชัดเจน จึงได้ไปแจ้งความที่ สภ.ปราสาท เจ้าหน้าที่ตำรวจรับแจ้งความไว้แต่ไม่ทราบว่าจะสามารถจับกุมคนร้ายได้หรือไม่

“ตอนนี้ไม่มีความหวังเลย ไม่รู้จะพึ่งพาใครได้ จึงขอความเมตตาจากสื่อมวลชนช่วยเผยแพร่ภาพคนร้ายที่กล้องวงจรปิดบันทึกไว้ได้ หากใครพบเบาะแสช่วยแจ้งไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ปราสาท พวกเราจะมีรางวัลนำจับให้ 10,000 บาท” นางสุภาพกล่าว

ขณะที่นางบุญกอง สาคเรศ แม่ค้าผลไม้ บอกผู้สื่อข่าวว่า ตนถูกฉกทรัพย์สินในลักษณะนี้มา 3 ครั้งแล้ว หมดเงิน แหวนทองคำ ไปรวมมูลค่ากว่า 200,000 บาท และเชื่อว่าเป็นมิจฉาชีพกลุ่มเดียวกัน เพราะดูจากภาพกล้อวงจรปิดแล้วจำหน้าคนร้ายได้ว่าเป็นกลุ่มเดียวกันที่มาขโมยเอาทรัพย์สินตนไป โดยทำทีมาเลือกซื้อผลไม้ ก่อนฉกเอากระเป๋าใส่เงินของตนไป พอรู้ตัววิ่งตามหาก็ไม่พบแล้ว ซึ่งเหตุการณ์ล่าสุดเกิดขึ้นเมื่อเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา ทำให้สูญเสียเงินไปกว่า 100,000 บาท ไปแจ้งความต่อตำรวจ สภ.ปราสาทไว้แล้วแต่เรื่องหายเงียบไม่มีความคืบหน้า และยังไม่สามารถจับกุมคนร้ายได้แม้แต่รายเดียว

นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจากกลุ่มผู้ประกอบการร้านค้าตลาดนัดเคลื่อนที่ ว่า เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาได้มาตั้งร้านค้าจำหน่ายสินค้าโอทอปของดีสี่ภาคที่หอประชุม อ.ปราสาท เจ้าของร้านจำหน่ายเสื้อผ้าก็ถูกลักฉกทรัพย์สินในลักษณะเดียวกัน เป็นเงินสดกว่า 60,000 บาท และทองคำน้ำหนัก 2 บาท ไปแจ้งความที่ สภ.ปราสาท เจ้าหน้าที่ตำรวจก็จับคนร้ายไม่ได้เช่นกัน