ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - พล.ต.อ.รชต เย็นทรวง ยืนยันปมฆ่า “พีระ ตันติเศรณี” มาจากเรื่องการเมืองท้องถิ่น เผยรู้ชื่อ 3 มือปืนที่ถูกจ้างวานฆ่าแล้ว ส่วนผู้บงการหนีกบดานสิงคโปร์ ส่วนการเลือกตั้งนายกเทศมนตรีนครสงขลาคนใหม่ต้องรออีก 60 วัน
วันนี้ (9 พ.ย.) ที่ห้องประชุมกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสงขลา อ.เมือง จ.สงขลา พล.ต.อ.รชต เย็นทรวง ที่ปรึกษา (สบ 10) ได้เดินทางมาเพื่อรับทราบข้อมูลความคืบหน้า และเร่งรัดคดีเกี่ยวกับกรณีที่นายพีระ ตันติเศรณี นายกเทศมนตรีนครสงขลา ถูกคนร้ายใช้อาวุธปืนสงครามยิงเสียชีวิตคาที่บริเวณสำนักงานสงขลา ฟอรั่ม ช่วงค่ำของคืนวันที่ 7 พ.ย.ที่ผ่านมา โดยมี พล.ต.ต.สุวิทย์ เชิญสิริ ผบก.ภ.จ.สงขลา พ.ต.อ.คำรณ ยอดรักษ์ รอง ผบก.ภ.จ.สงขลา พ.ต.อ. อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ รอง ผบก.ภ.จ.สงขลา และนายตำรวจที่เกี่ยวข้องกับคดีนี้ พร้อมทั้งนายตำรวจจากกองปราบปรามเข้าร่วมประชุม โดยใช้เวลานานประมาณ 1 ชั่วโมง
ต่อจากนั้น พล.ต.อ.รชต เย็นทรวง ที่ปรึกษา (สบ 10) พร้อมคณะนายตำรวจสงขลา ได้เดินเข้าพบนายรฐชัย สงประสพ รองปลัดเทศบาลนครสงขลา (รักษาการ) เพื่อเยี่ยม และให้กำลังใจแก่พนักงานภายในเทศบาลนครสงขลา และกล่าวว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายได้ทำงานกันอย่างเต็มที่ ขอให้ทุกคนเชื่อมั่นในการทำงานของตำรวจ หลักฐานสาวไปถึงไหนก็จะจับผู้กระทำความผิดมาลงโทษตามกฎหมายให้ได้ โดยไม่เกรงกลัวผู้มีอิทธิพล จะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด เวลานี้ก็เหลือเพียงรองปลัดรักษาการแทน และกว่าจะมีการเลือกตั้งใหม่ก็อีก 60 วัน จึงมาให้กำลังใจในการทำงาน และขอให้ทุกคนเชื่อในการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ
จากนั้น พล.ต.อ.รชต เย็นทรวง ที่ปรึกษา (สบ 10) เปิดเผยว่า เวลานี้ได้เร่งรัดเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายทั้งสอบสวน สืบสวน และเจ้าหน้าที่วิทยาการในการที่จะรวบรวมพยานหลักฐานนำไปสู่การออกหมายจับผู้ต้องหา ขณะนี้ถือว่ามีความคืบหน้าไปมากแล้ว เวลานี้ยอมรับว่าใกล้เคียงแต่ถามว่าเมื่อไหร่นั้นคาดว่าเร็วที่สุดก็คงอีกวันสองวันนี้ ซึ่งยังต้องรอผลตรวจหลักฐานต่างๆ จากเจ้าหน้าที่วิทยาการ ตอนนี้ก็พอจะรู้ตัวแล้ว และได้ตัวผู้ต้องสงสัยมาบ้างแล้ว ส่วนปมเหตุทางเจ้าหน้าที่ได้มุ่งประเด็นหลักไปที่เรื่องการเมืองท้องถิ่น และให้น้ำหนักในเรื่องนี้มากที่สุดขณะนี้ โดยทุกฝ่ายได้ทุ่มเทในเรื่องนี้อย่างเต็มที่ เนื่องจากเป็นคดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญ มีประชาชนให้ความสนใจกันเป็นจำนวนมาก
อย่างไรก็ตาม ล่าสุดตำรวจได้ภาพจากกล้องวงจรปิดที่สามารถบันทึกภาพรถยนต์ของคนร้ายในขณะขับเข้ามาจอดเตรียมก่อเหตุ และเส้นทางที่ใช้หลบหนี และพบว่า รถที่ใช้ก่อเหตุมี 2 คันคือ รถยนต์กระบะวีโก้ 4 ประตู สีบรอนซ์ ที่จอดทิ้งอยู่ในลานจอดรถของสถานีวิทยุสมิหลาเรดิโอ และรถยนต์กระบะวีโก้ 4 ประตู สีดำ ที่จอดทิ้งไว้บริเวณสถานีขนส่งสงขลา
โดยตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบว่า ในเวลา 17.15 น. คนร้ายได้ขับรถยนต์กระบะวีโก้ 4 ประตู สีบรอนซ์ ผ่านสามแยกถนนนครใน ตัดธนาคารออมสิน เข้ามาจอดเตรียมก่อเหตุ และขับเข้ามาจอดยังจุดเกิดเหตุในเวลา 18.29 น. หลังลงมือสำเร็จได้ขับรถหลบหนีผ่านสี่แยกสะพานเหล็ก ในเวลา 19.32 น. มุ่งหน้าผ่านสามแยกถนนนครนอก ไปประมงใหม่ในเวลา 19.33 น. ก่อนที่จะเลี้ยวรถไปจอดทิ้งไว้ในสถานีวิทยุสมิหลาเรดิโอ ไม่เกิน 3 นาทีก็มีรถยนต์กระบะโตโยต้า วีโก้ สีดำ ขับออกมา ซึ่งเจ้าหน้าที่เชื่อว่าเป็นการสับเปลี่ยนรถเพื่อหลบหนี แล้วนำไปจอดทิ้งไว้ที่สถานีขนส่งสงขลา
ส่วนสาเหตุที่นายพีระ ตันติเศรณี นายกเล็กสงขลาถูกสั่งฆ่า ได้เน้นไปเรื่องการเมืองใน จ.สงขลา และคดีนี้หากสาวถึงใครก็จะดำเนินการจับกุมทั้งหมด ขอให้เจ้าหน้าที่ของเทศบาลนครสงขลาสบายใจได้
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ล่าสุด ในที่ประชุมได้มีการรวบรวมหลักฐานคำให้การของพยานที่เห็นเหตุการณ์ และพยานแวดล้อม เพื่อขอหมายจับคนร้ายจำนวน 4 คน ซึ่งเป็นผู้บงการ หรือจ้างวาน 1 คน และมือปืนอีก 3 คน ซึ่งในส่วนของมือปืนเจ้าหน้าที่มีชื่อทั้งหมดแล้ว และได้ส่งชุดปฏิบัติการพิเศษเข้าทำการประกบตัวไว้ทั้ง 3 คน เพราะยังกบดานในพื้นที่ ส่วนผู้จ้างวานนั้นมีการตรวจสอบพบว่า ได้หลบหนีไปยังประเทศสิงคโปร์ตั้งแต่วันที่ 8 พ.ย. หลังเกิดเหตุ
วันนี้ (9 พ.ย.) ที่ห้องประชุมกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสงขลา อ.เมือง จ.สงขลา พล.ต.อ.รชต เย็นทรวง ที่ปรึกษา (สบ 10) ได้เดินทางมาเพื่อรับทราบข้อมูลความคืบหน้า และเร่งรัดคดีเกี่ยวกับกรณีที่นายพีระ ตันติเศรณี นายกเทศมนตรีนครสงขลา ถูกคนร้ายใช้อาวุธปืนสงครามยิงเสียชีวิตคาที่บริเวณสำนักงานสงขลา ฟอรั่ม ช่วงค่ำของคืนวันที่ 7 พ.ย.ที่ผ่านมา โดยมี พล.ต.ต.สุวิทย์ เชิญสิริ ผบก.ภ.จ.สงขลา พ.ต.อ.คำรณ ยอดรักษ์ รอง ผบก.ภ.จ.สงขลา พ.ต.อ. อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ รอง ผบก.ภ.จ.สงขลา และนายตำรวจที่เกี่ยวข้องกับคดีนี้ พร้อมทั้งนายตำรวจจากกองปราบปรามเข้าร่วมประชุม โดยใช้เวลานานประมาณ 1 ชั่วโมง
ต่อจากนั้น พล.ต.อ.รชต เย็นทรวง ที่ปรึกษา (สบ 10) พร้อมคณะนายตำรวจสงขลา ได้เดินเข้าพบนายรฐชัย สงประสพ รองปลัดเทศบาลนครสงขลา (รักษาการ) เพื่อเยี่ยม และให้กำลังใจแก่พนักงานภายในเทศบาลนครสงขลา และกล่าวว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายได้ทำงานกันอย่างเต็มที่ ขอให้ทุกคนเชื่อมั่นในการทำงานของตำรวจ หลักฐานสาวไปถึงไหนก็จะจับผู้กระทำความผิดมาลงโทษตามกฎหมายให้ได้ โดยไม่เกรงกลัวผู้มีอิทธิพล จะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด เวลานี้ก็เหลือเพียงรองปลัดรักษาการแทน และกว่าจะมีการเลือกตั้งใหม่ก็อีก 60 วัน จึงมาให้กำลังใจในการทำงาน และขอให้ทุกคนเชื่อในการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ
จากนั้น พล.ต.อ.รชต เย็นทรวง ที่ปรึกษา (สบ 10) เปิดเผยว่า เวลานี้ได้เร่งรัดเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายทั้งสอบสวน สืบสวน และเจ้าหน้าที่วิทยาการในการที่จะรวบรวมพยานหลักฐานนำไปสู่การออกหมายจับผู้ต้องหา ขณะนี้ถือว่ามีความคืบหน้าไปมากแล้ว เวลานี้ยอมรับว่าใกล้เคียงแต่ถามว่าเมื่อไหร่นั้นคาดว่าเร็วที่สุดก็คงอีกวันสองวันนี้ ซึ่งยังต้องรอผลตรวจหลักฐานต่างๆ จากเจ้าหน้าที่วิทยาการ ตอนนี้ก็พอจะรู้ตัวแล้ว และได้ตัวผู้ต้องสงสัยมาบ้างแล้ว ส่วนปมเหตุทางเจ้าหน้าที่ได้มุ่งประเด็นหลักไปที่เรื่องการเมืองท้องถิ่น และให้น้ำหนักในเรื่องนี้มากที่สุดขณะนี้ โดยทุกฝ่ายได้ทุ่มเทในเรื่องนี้อย่างเต็มที่ เนื่องจากเป็นคดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญ มีประชาชนให้ความสนใจกันเป็นจำนวนมาก
อย่างไรก็ตาม ล่าสุดตำรวจได้ภาพจากกล้องวงจรปิดที่สามารถบันทึกภาพรถยนต์ของคนร้ายในขณะขับเข้ามาจอดเตรียมก่อเหตุ และเส้นทางที่ใช้หลบหนี และพบว่า รถที่ใช้ก่อเหตุมี 2 คันคือ รถยนต์กระบะวีโก้ 4 ประตู สีบรอนซ์ ที่จอดทิ้งอยู่ในลานจอดรถของสถานีวิทยุสมิหลาเรดิโอ และรถยนต์กระบะวีโก้ 4 ประตู สีดำ ที่จอดทิ้งไว้บริเวณสถานีขนส่งสงขลา
โดยตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบว่า ในเวลา 17.15 น. คนร้ายได้ขับรถยนต์กระบะวีโก้ 4 ประตู สีบรอนซ์ ผ่านสามแยกถนนนครใน ตัดธนาคารออมสิน เข้ามาจอดเตรียมก่อเหตุ และขับเข้ามาจอดยังจุดเกิดเหตุในเวลา 18.29 น. หลังลงมือสำเร็จได้ขับรถหลบหนีผ่านสี่แยกสะพานเหล็ก ในเวลา 19.32 น. มุ่งหน้าผ่านสามแยกถนนนครนอก ไปประมงใหม่ในเวลา 19.33 น. ก่อนที่จะเลี้ยวรถไปจอดทิ้งไว้ในสถานีวิทยุสมิหลาเรดิโอ ไม่เกิน 3 นาทีก็มีรถยนต์กระบะโตโยต้า วีโก้ สีดำ ขับออกมา ซึ่งเจ้าหน้าที่เชื่อว่าเป็นการสับเปลี่ยนรถเพื่อหลบหนี แล้วนำไปจอดทิ้งไว้ที่สถานีขนส่งสงขลา
ส่วนสาเหตุที่นายพีระ ตันติเศรณี นายกเล็กสงขลาถูกสั่งฆ่า ได้เน้นไปเรื่องการเมืองใน จ.สงขลา และคดีนี้หากสาวถึงใครก็จะดำเนินการจับกุมทั้งหมด ขอให้เจ้าหน้าที่ของเทศบาลนครสงขลาสบายใจได้
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ล่าสุด ในที่ประชุมได้มีการรวบรวมหลักฐานคำให้การของพยานที่เห็นเหตุการณ์ และพยานแวดล้อม เพื่อขอหมายจับคนร้ายจำนวน 4 คน ซึ่งเป็นผู้บงการ หรือจ้างวาน 1 คน และมือปืนอีก 3 คน ซึ่งในส่วนของมือปืนเจ้าหน้าที่มีชื่อทั้งหมดแล้ว และได้ส่งชุดปฏิบัติการพิเศษเข้าทำการประกบตัวไว้ทั้ง 3 คน เพราะยังกบดานในพื้นที่ ส่วนผู้จ้างวานนั้นมีการตรวจสอบพบว่า ได้หลบหนีไปยังประเทศสิงคโปร์ตั้งแต่วันที่ 8 พ.ย. หลังเกิดเหตุ
