ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - สรุปข่าวคดีสะเทือนขวัญกลางเมืองสงขลา กรณีมือปืนใช้อาวุธสงครามกราดยิง “พีระ ตันติเศรณี” นายกเทศมนตรีนครสงขลาเสียชีวิต ล่าสุด ตำรวจได้ตามแกะรอยคนร้ายจนสามารถออกหมายจับมือปืนได้แล้ว 1 ราย จ่อออกอีก 5 ส่วนผู้บงการสั่งฆ่าหลบหนีซุกตัวที่สิงคโปร์ทันทีหลังเกิดเหตุ
7 พ.ย.2555 มือปืนลั่นไกสังหาร “พีระ ตันติเศรณี”
เมื่อช่วงค่ำวันที่ 7 พ.ย.ที่ผ่านมา เกิดเหตุสะเทือนขวัญกลางเมืองสงขลา มือปืนใช้อาวุธสงครามบุกยิงนายพีระ ตันติเศรณี นายกเทศมนตรีนครสงขลา อย่างอุกอาจที่หน้าสำนักงานสงขลา ฟอรั่ม เลขที่ 97 ถนนนครใน เขตเทศบาลนครสงขลา อ.เมือง จ.สงขลา หลังจากเสร็จสิ้นจากการประชุมหารือกับกลุ่มเอ็นจีโอในพื้นที่เกี่ยวกับปัญหาที่บริษัทชลัมเบอร์เจอร์ โอเวอร์ซีส์ เอส.เอ.จำกัด เก็บสารกัมมันตรังสีไว้ในโกดังย่านเมืองเก่าสงขลา และในขณะที่กำลังเดินออกจากสำนักงานเพื่อไปขึ้นรถตู้ประจำตำแหน่งที่จอดรออยู่ มือปืนที่ดักซุ่มอยู่ก็ใช้ทั้งเอ็ม 16 และคาร์บิน กระหน่ำยิงใส่ไม่ยั้งมือ จนนายพีระเสียชีวิตคาที่
พบรถมือปืนจอดทิ้งในรั้ว “สมิหลาเรดิโอ” ของ “กิตติ ชูช่วย”
ต่อมา เมื่อกลางดึกวันที่ 7 พ.ย.55 ตำรวจพบรถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า ไฮลักซ์ สี่ประตู สีบรอนซ์เงิน หมายเลขทะเบียน ฌณ 6900 กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นรถที่คนร้ายใช้ก่อเหตุจอดอยู่ภายในสถานีวิทยุสมิหลาเรดิโอ เลขที่ 497/22 ถนนสงขลาพลาซ่า เขตเทศบาลนครสงขลา โดยสถานที่ดังกล่าวเป็นของ “นายกิตติ ชูช่วย” น้องชายนายอุทิศ ชูช่วย นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) สงขลา
สำหรับ “นายกิตติ ชูช่วย” นั้น เป็นอดีตผู้สมัครนายกเทศมนตรีนครสงขลา หัวหน้าทีมสงขลาพัฒนา คู่แข่งของนายพีระในการเลือกตั้งเทศบาลนครสงขลาเมื่อวันที่ 1 พ.ย.2552 แต่นายพีระที่เป็นหัวหน้าทีมสงขลาใหม่ ได้ชนะการเลือกตั้ง
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบรถคันดังกล่าวคาดว่าน่าจะนำเข้าจากประเทศมาเลเซีย และเตรียมมาเพื่อใช้ก่อเหตุครั้งนี้โดยเฉพาะ นอกจากนี้ ยังตรวจสอบรถยนต์อีก 5 คันที่จอดอยู่ที่ลานจอดรถสถานีวิทยุสมิหลาเรดิโอด้วย
ส่วนพยานหลักฐานอื่นๆ นั้น เจ้าหน้าที่ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดที่สามารถบันทึกภาพรถยนต์ของคนร้ายทั้งขณะขับเข้ามาเตรียมก่อเหตุ และเส้นทางที่ใช้หลบหนี พบว่า รถที่ใช้ในการก่อเหตุมี 2 คัน คือ รถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า วีโก้ สี่ประตู สีบรอนซ์ ซึ่งจอดอยู่ในลานจอดรถของสถานีวิทยุสมิหลาเรดิโอ และรถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า วีโก้ สี่ประตูสีดำ ที่จอดทิ้งไว้บริเวณสถานีขนส่งสงขลา
โดยพฤติกรรมในการก่อเหตุจากกล้องวงจรปิดพบว่า ในเวลา 17.15 น. คนร้ายได้ขับรถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า วีโก้ สี่ประตู สีบรอนซ์ ผ่านสามแยกถนนนครใน ตัดธนาคารออมสินเข้ามาจอดเตรียมก่อเหตุ และขับเข้ามาจอดยังจุดเกิดเหตุในเวลา 18.29 น. หลังลงมือสำเร็จได้ขับรถหลบหนีผ่านสี่แยกสะพานเหล็กในเวลา 19.32 น. มุ่งหน้าผ่านสามแยกถนนนครนอก ไปประมงใหม่ในเวลา 19.33 น. ก่อนที่จะเลี้ยวรถเข้าไปในสถานีวิทยุสมิหลาเรดิโอ และไม่เกิน 3 นาทีก็มีรถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า วีโก้ สีดำ ขับออกมา ซึ่งเจ้าหน้าที่เชื่อว่าเป็นการเปลี่ยนรถเพื่อหลบหนี ก่อนที่จะถูกนำไปจอดทิ้งไว้ที่สถานีขนส่งสงขลา
อย่างไรก็ตาม หลังจากเกิดเหตุสะเทือนขวัญดังกล่าวเพียง 2 วัน ในวันที่ 9 พ.ย.55 ตำรวจจาก สภ.สงขลา ได้ทำเรื่องเสนอต่อศาลจังหวัดสงขลาเพื่อขอออกหมายจับผู้ต้องหาในคดีลอบสังหารนายพีระ ตันติเศรณี โดยเตรียมขอออกหมายจับชุดแรก จำนวน 4 คน ประกอบด้วย ผู้บงการคือ นาย ก. กับมือปืนอีก 3 คน
ในส่วนของผู้บงการ ซึ่งก็คือ นาย ก. ถือเป็นนักการเมืองท้องถิ่น ผู้เคยเป็นทั้งผู้ร่วมงาน และเป็นคู่แข่งทางการเมืองของผู้ตายด้วยนั้น ภายหลังเกิดเหตุการณ์ได้หลบหายไปจากสังคมเมืองสงขลา และขณะนี้ แหล่งข่าวที่น่าเชื่อถือยืนยันว่าได้มีการหลบหนีออกไปยังประเทศสิงคโปร์ตั้งแต่วันที่ 8 พ.ย.แล้ว
และล่าสุด วันนี้ (10 พ.ย.) ศาลจังหวัดสงขลา ได้อนุมัติหมายจับคนร้ายแล้ว 1 คน คือ นายไพศาล หนูพันธ์ อยู่บ้านเลขที่ 2/10 ถ.แหล่งพระราม อ.เมือง จ.สงขลา ซึ่งเป็นมือปืนสังกัดซุ้มมือปืนใน อ.ระโนด จ.สงขลา นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจยังรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อเตรียมออกหมายจับผู้เกี่ยวข้อง ทั้งมือปืน และผู้บงการ รวมทั้งสิ้นอีก 5 คน
ทั้งนี้ สำหรับการออกหมายจับนายไพศาลซึ่งเป็นหนึ่งในมือปืนนั้น มีหลักฐานสำคัญจากปลอกกระสุนปืนคาร์บินที่ตกอยู่ในรถกระบะวีโก้ สี่ประตู สีบรอนซ์ ของคนร้าย ซึ่งผลการตรวจพิสูจน์ตรงกับปลอกกระสุนปืนที่ตกอยู่ในที่เกิดเหตุ รวมทั้งเอกสารคู่มือรถยนต์ และภาพถ่ายของหัวหน้าซุ้มมือปืนที่ตกอยู่ภายในรถด้วย