ตร.รวบสามีเจ้าหน้าที่ปกครองสาวใหญ่ซี 5 ปทุมธานี ตัวบงการจ้างมือปืนซุ้มโพรงมะเดื่อดักยิงเสียชีวิต เหตุหวังฮุบสมบัตินับสิบล้านและปิดปากกรณีทุจริตใบอนุญาตแรงงานต่างด้าว ผู้ต้องหารับสารภาพเหตุต้องฆ่าเพราะภรรยาป่วยเป็นมะเร็งและกำลังโอนถ่ายทรัพย์สินไปให้ญาติ
วันนี้ (22 ต.ค.) ความคืบหน้าคดีมือปืนดักยิง น.ส.สุรีย์ ยุวดำรงค์ชัย อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 57/110 หมู่ 11 ต.บึงทองหลาง อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี เจ้าหน้าที่ปกครองชำนาญงานระดับ 5 (ซี 5) ประจำหน้าห้องจ่าจังหวัดฉะเชิงเทรา เสียชีวิตคาเก๋งวีออส เหตุเกิดบริเวณสะพานข้ามคลองคลองทองหลาง 9 ถ.พหลโยธิน-ลำลูกกา หลักกิโลเมตรที่ 23 ต.บึงทองหลาง อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี เหตุเกิดเมื่อวันที่ 15 ต.ค.ที่ผ่านมา
ที่ สภ.ลำลูกกา จ.ปทุม ธานี พล.ต.ต.ชยุต ธนทวีรัชต์ รอง ผบช.ภ.1 คุมงานด้านการสอบสวนได้เดินทางมาที่ สภ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี จากนั้นได้เรียก พ.ต.อ.สมยศ รามกุล ผกก.สภ.ลำลูกกา พ.ต.ท.ไพบูลย์ สุขวัฒนานุกิจ รอง ผกก.สส.สภ.ลำลูกกา พร้อมกำลังชุดสืบสวนเข้าร่วมประชุม รายงานข่าวเปิดเผยว่า หลังจากชุดสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐานและควานหาตัวผู้ต้องสงสัยจนประสบความสำเร็จ โดยพบว่าบุคคลที่มีพิรุธมากที่สุดคือ นายสมควร แก้วเขียว อายุ 47 ปี สามีผู้ตาย ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ปกครองชำนาญงาน ประจำอยู่ที่วังไชยา นางเลิ้ง กทม. เนื่องจากนายสมควรและน.ส.สุรีย์ผู้ตาย ซึ่งเป็นภรรยาคนที่ 2 มีส่วนพัวพันกับขบวนการทุจริตใบอนุญาตแรงงานต่างด้าว จนเป็นเหตุให้กรมการปกครองสั่งย้ายกราวรูด โดยมี น.ส.สุรีย์ถูกย้ายด้วย
ทั้งนี้ ตำรวจพบว่าก่อน น.ส.สุรีย์ถูกยิงตายไม่นาน ได้ถอนเงินสดออกจากบัญชีของตนเอง 2 ล้านบาท รวมทั้งเงินสดในบัญชีนายสมควรอีก 2 ล้านบาท เมื่อตำรวจสอบปากคำนายสมควรในเรื่องเงิน 2 บัญชีรวม 4 ล้านบาท ปรากฏว่านายสมควรมีท่าทีปกปิด ก่อนจะยอมรับในภายหลังเพราะจำนนด้วยหลักฐาน และนำเงินสดรวม 4 ล้านบาทมาแสดงต่อตำรวจ ยอมรับว่าถอนออกมาเพราะกลัวจะถูกอายัดเนื่องจากการสอบสวนทุจริต และเงินก้อนนี้ตนเองเป็นผู้เก็บไว้ จากนั้นตำรวจเริ่มตรวจสอบพฤติกรรมส่วนตัวของนายสมควรพบว่ามีภรรยาหลายคน และหาก น.ส.สุรีย์เป็นอะไรไป นอกจากจะเป็นการปิดปากการทุจริตไม่ให้สาวมาถึงตนด้วยแล้ว ยังจะได้เงินสด ทอง และทรัพย์สินอื่นๆ ของ น.ส.สุรีย์มาครอบครองไว้เอง รวมมูลค่านับสิบล้านบาท
จากนั้นตำรวจได้ตรวจสอบการใช้โทรศัพท์ของนายสมควรในวันเกิดเหตุ พบว่าได้โทรศัพท์หา น.ส.สุรีย์หลายครั้ง โดยเฉพาะตอนใกล้เลิกงาน ลักษณะเหมือนจะเช็กเวลาออกจากที่ทำงานเพื่อส่งสัญญาณให้มือปืน ซึ่งพบว่านายสมควรได้โทรศัพท์ติดต่อไปยังคนในนครปฐมอีกด้วย เมื่อตำรวจสืบสาวจากเบอร์โทรศัพท์บุคคลในนครปฐม จึงพบว่าเป็นกลุ่มมือปืนและค้ายาเสพติดซุ้มโพรงมะเดื่อ จึงรวบรวมพยานหลักฐานจนนำไปสู่การจับกุมทีมสังหารในที่สุด
โดยผู้ต้องหาที่ตำรวจจับกุมได้ก่อนหน้านี้ คือ นายภาวินทร์ ก๋งเหม็ง หรือตุ้ย อายุ 26 ปี ทำหน้าที่มือปืน และนายดนัย มาตะราช หรือตูน อายุ 29 ปี ทำหน้าที่เป็นคนขับขี่จักรยานยนต์ให้มือปืน โดยจับได้ที่ ต.โพรงมะเดื่อ อ.เมือง จ.นครปฐม ในวันเกิดเหตุกลุ่มมือปืนใช้จักรยานยนต์สีน้ำเงิน จากนั้นได้หลบหนีไปอยู่ จ.นครปฐม แล้วพ่นสีรถเปลี่ยนมาเป็นสีเขียว โดยใช้อาวุธปืนขนาด .38 ยี่ห้อรีวอลเวอร์กระหน่ำยิงไป 5-6 นัด เบื้องต้นสารภาพว่าได้ก่อเหตุยิง น.ส.สุรีย์จริง โดยมีผู้จ้างวานที่รับงานมาจากใครยังไม่ทราบ
จากนั้นตำรวจได้จับกุมนายหนุ่ม ลูกพี่ของมือปืนและคนขี่จักรยานยนต์ได้เพิ่มเติมอีกราย โดยรับสารภาพว่าผู้ที่มาติดต่อให้จัดมือปืนไปยิงชื่อนายกฤษ พลสระคู ลูกจ้าง อบต.ทับหลวง จ.นครปฐม โดยจ่ายเงินผ่านตนเพื่อมอบให้กับลูกน้องทั้งสองจำนวน 2 แสนบาท ต่อมาตำรวจเดินทางไปจับกุมนายกฤษพบว่าหลบหนีไปแล้ว อย่างไรก็ตาม ตามพยานหลักฐานชี้ชัดว่านายสมควร สามีของผู้ตายเป็นผู้ติดต่อนายกฤษในการจ้างวานสังหารครั้งนี้ จึงเดินทางไปขออนุมัติหมายจับนายสมควรในข้อหาผู้จ้างวานฆ่าภรรยาตนเอง
เมื่อศาลอนุมัติหมายจับ ชุดสืบสวนจึงติดตามไปจับกุมนายสมควรเอาไว้ได้ขณะกำลังนำอังคารของ น.ส.สุรีย์ไปลอยน้ำที่มหาชัย พร้อมกับคุมตัวมาส่งมอบให้ พล.ต.ต.เมธี และพล.ต.ต.ชยุตสอบปากคำ ซึ่งนายสมควรยอมรับสารภาพในที่สุดว่าติดต่อจ้างวานมือ ปืนผ่านนายกฤษ โดยจ่ายเงินไปแล้วทั้งหมด 6 แสนบาท สาเหตุที่ตัดสินใจฆ่าเพราะ น.ส.สุรีย์ป่วยหนักเป็นมะเร็ง และอยู่ระหว่างถูกสอบสวนเรื่องทุจริต เกรงว่า น.ส.สุรีย์จะโอนย้ายเงินสดและทรัพย์สินไปให้ญาติ จึงชิงลงมือเพื่อปิดปากและเพื่อครอบครองสมบัติทั้งหมด ขณะนี้ตำรวจกำลังเร่งติดตามตัวนายกฤษมาดำเนินคดีอีกคนเพื่อให้คดีสมบูรณ์