ป.ร่วมสางคดียิง จนท.สาวปกครอง-ตั้งปมฆ่าตัดตอนเนื่องจากผู้ตายกำความลับทุจริตงานพิสูจน์สัญชาติแรงงานต่างด้าว
วันนี้ (16 ต.ค.) ที่กองปราบปราม ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าคดีมือปืนตามประกบยิง น.ส.สุรีย์ ยุวดำรงค์ชัย อายุ 48 ปี เจ้าหน้าที่ปกครองชำนาญงาน ระดับ 5 (ซี 5) ประจำหน้าห้องจ่าจังหวัดฉะเชิงเทรา จนเสียชีวิตคาเก๋งวีออส บริเวณทางลงสะพานข้ามคลองสิบ ลำลูกกา จ.ปทุมธานี เมื่อวันที่ 15 ต.ค.ที่ผ่านมาว่า พ.ต.อ.นิรันดร์ นามสุวรรณ ผกก.2 บก.ป.ได้สั่งการให้ พ.ต.ท.ต่อศักดิ์ ปานกลิ่นพุฒ สว.กก.2 บก.ป. เข้าประสานข้อมูลกับตำรวจท้องที่เพื่อร่วมคลี่คลายคดีดังกล่าว โดย พ.ต.ท.ต่อศักดิ์ได้นำหลักฐานภาพจากกล้องวงจรปิดของกรมการปกครองมาทำการตรวจสอบเพื่อหาร่องรอยของคนร้ายด้วย
จากการตรวจสอบพบรถยนต์ต้องสงสัยเป็นรถยนต์ฮอนด้า แจ๊ซ ซึ่งมีผู้นั่งมาด้วยกันไม่ต่ำกว่า 2 คน มาดักรอผู้ตายระหว่างขับรถไปทำงาน เมื่อรถของผู้ตายวิ่งออกจากแฟลตของกรมการปกครองแล้ว รถต้องสงสัยคันดังกล่าวก็ขับติดตามไปทันที แต่หลังจากนั้นไม่สามารถหาหลักฐานเพิ่มเติมได้ เนื่องจากกล้องวงจรปิดสามารถจับภาพได้แค่นั้น ส่วนบริเวณจุดเกิดเหตุเป็นร้านค้าสะดวกซื้อและวินรถจักรยานยนต์ แต่เนื่องจากอยู่ในช่วงเช้า จึงไม่มีใครเห็นเหตุการณ์
ส่วนรถยนต์ต้องสงสัยว่าจะเป็นรถของคนร้ายนั้น จากภาพหลักฐานพบว่าจอดอยู่ใต้ร่มไม้ จึงทำให้ยังไม่สามารถระบุทะเบียนรถได้ ดังนั้นทางชุดสืบสวนอยู่ระหว่างตามเก็บภาพหลักฐานจากกล้องวงจรปิดตลอดเส้นทางช่วงก่อนเกิดเหตุ เนื่องจากเชื่อว่าคนร้ายต้องมาสังเกตุการณ์ก่อนที่จะลงมือสังหาร
สำหรับปมการสังหารที่ได้ตั้งไว้เบื้องต้น เช่น เรื่องชู้สาว และเงินกู้นั้น ไม่พบว่ามีปัญหาอะไร โดยเฉพาะเรื่องเงินกู้เป็นการปล่อยกู้รายเล็กๆ เช่นแม่บ้าน เป็นเงินไม่มาก ดอกเบี้ยก็ได้เพียงเดือนละไม่กี่ร้อยบาท ส่วนใหญ่ผู้ตายจะเอาดอกเบี้ยที่ได้มาซื้อขนมเลี้ยงเพื่อนที่ทำงานเท่านั้น ซึ่งขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้มุ่งไปที่เรื่องปมขัดแย้งในเรื่องหน้าที่การงานเป็นหลัก
จากการสอบสวนพบว่าผู้ตายมีหน้าที่รับผิดชอบเกี่ยวกับงานพิสูจน์สัญชาติแรงงานต่างด้าวของกรมการปกครอง ที่ผ่านมามีการทุจริตจนอธิบดีกรมการปกครองสั่งย้ายเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องไปช่วยงานที่อื่น รวมทั้งผู้ตายด้วย โดยเจ้าหน้าที่เชื่อว่าผู้ตายน่าจะเป็นผู้ที่เก็บความลับดังกล่าวเอาไว้หากมีการสอบสวน เมื่อผู้ตายแฉความลับทั้งหมดก็จะทำให้ผู้ร่วมขบวนการรายอื่นได้รับความเดือดร้อนไปด้วย จนถึงต้องมีการจ้างวานฆ่าดังกล่าว
วันนี้ (16 ต.ค.) ที่กองปราบปราม ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าคดีมือปืนตามประกบยิง น.ส.สุรีย์ ยุวดำรงค์ชัย อายุ 48 ปี เจ้าหน้าที่ปกครองชำนาญงาน ระดับ 5 (ซี 5) ประจำหน้าห้องจ่าจังหวัดฉะเชิงเทรา จนเสียชีวิตคาเก๋งวีออส บริเวณทางลงสะพานข้ามคลองสิบ ลำลูกกา จ.ปทุมธานี เมื่อวันที่ 15 ต.ค.ที่ผ่านมาว่า พ.ต.อ.นิรันดร์ นามสุวรรณ ผกก.2 บก.ป.ได้สั่งการให้ พ.ต.ท.ต่อศักดิ์ ปานกลิ่นพุฒ สว.กก.2 บก.ป. เข้าประสานข้อมูลกับตำรวจท้องที่เพื่อร่วมคลี่คลายคดีดังกล่าว โดย พ.ต.ท.ต่อศักดิ์ได้นำหลักฐานภาพจากกล้องวงจรปิดของกรมการปกครองมาทำการตรวจสอบเพื่อหาร่องรอยของคนร้ายด้วย
จากการตรวจสอบพบรถยนต์ต้องสงสัยเป็นรถยนต์ฮอนด้า แจ๊ซ ซึ่งมีผู้นั่งมาด้วยกันไม่ต่ำกว่า 2 คน มาดักรอผู้ตายระหว่างขับรถไปทำงาน เมื่อรถของผู้ตายวิ่งออกจากแฟลตของกรมการปกครองแล้ว รถต้องสงสัยคันดังกล่าวก็ขับติดตามไปทันที แต่หลังจากนั้นไม่สามารถหาหลักฐานเพิ่มเติมได้ เนื่องจากกล้องวงจรปิดสามารถจับภาพได้แค่นั้น ส่วนบริเวณจุดเกิดเหตุเป็นร้านค้าสะดวกซื้อและวินรถจักรยานยนต์ แต่เนื่องจากอยู่ในช่วงเช้า จึงไม่มีใครเห็นเหตุการณ์
ส่วนรถยนต์ต้องสงสัยว่าจะเป็นรถของคนร้ายนั้น จากภาพหลักฐานพบว่าจอดอยู่ใต้ร่มไม้ จึงทำให้ยังไม่สามารถระบุทะเบียนรถได้ ดังนั้นทางชุดสืบสวนอยู่ระหว่างตามเก็บภาพหลักฐานจากกล้องวงจรปิดตลอดเส้นทางช่วงก่อนเกิดเหตุ เนื่องจากเชื่อว่าคนร้ายต้องมาสังเกตุการณ์ก่อนที่จะลงมือสังหาร
สำหรับปมการสังหารที่ได้ตั้งไว้เบื้องต้น เช่น เรื่องชู้สาว และเงินกู้นั้น ไม่พบว่ามีปัญหาอะไร โดยเฉพาะเรื่องเงินกู้เป็นการปล่อยกู้รายเล็กๆ เช่นแม่บ้าน เป็นเงินไม่มาก ดอกเบี้ยก็ได้เพียงเดือนละไม่กี่ร้อยบาท ส่วนใหญ่ผู้ตายจะเอาดอกเบี้ยที่ได้มาซื้อขนมเลี้ยงเพื่อนที่ทำงานเท่านั้น ซึ่งขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้มุ่งไปที่เรื่องปมขัดแย้งในเรื่องหน้าที่การงานเป็นหลัก
จากการสอบสวนพบว่าผู้ตายมีหน้าที่รับผิดชอบเกี่ยวกับงานพิสูจน์สัญชาติแรงงานต่างด้าวของกรมการปกครอง ที่ผ่านมามีการทุจริตจนอธิบดีกรมการปกครองสั่งย้ายเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องไปช่วยงานที่อื่น รวมทั้งผู้ตายด้วย โดยเจ้าหน้าที่เชื่อว่าผู้ตายน่าจะเป็นผู้ที่เก็บความลับดังกล่าวเอาไว้หากมีการสอบสวน เมื่อผู้ตายแฉความลับทั้งหมดก็จะทำให้ผู้ร่วมขบวนการรายอื่นได้รับความเดือดร้อนไปด้วย จนถึงต้องมีการจ้างวานฆ่าดังกล่าว
