ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - “พีระ ตันติเศรณี” แม้จะเป็นถึงนายกเทศมนตรีนครสงขลา แต่เรื่องราวเล่าขานเกี่ยวกับชีวิตของเขากลับไม่เป็นที่แพร่หลาย ข้อมูลข้างล่างที่ “ASTVผู้จัดการภาคใต้” สรรหามานำเสนอนี้ แม้จะเป็นเพียงเสี้ยว แต่ก็สามารถทำให้มองเห็นภาพชีวิต และตัวตนที่แท้จริงของเขาได้ไม่น้อย
“ผมเกิดที่บ้านท่าเข็น ตำบลคลองแดน อำเภอระโนด หน้าบ้านติดทะเล หลังบ้านติดคลองแดน ตายายทำนา เตี่ยกับแม่ทำประมงชายฝั่ง ชีวิตวัยเด็กจึงผูกพันกับวิถีเล-คลอง-ท้องนา จนเรียนจบ ป.๗ จากโรงเรียนวัดหัวคุ้งใกล้บ้าน จากนั้นก็มาสอบเข้าเรียน ม.ศ.๑-๕ ที่โรงเรียนมหาวชิราวุธ อยู่กับเตี่ย และแม่ที่มีเรือประมงอวนลากในช่วงยุคทองของการประมงไทย”
“บรรพบุรุษสายแม่ที่สืบสาวได้ คือ หลวงระวะการนิคม (เบ้งเลี่ยง วัตตธรรม) ผู้ปกครองแขวงปละท่า (ระโนด กระแสสินธุ์ และสะทิงพระในปัจจุบัน) สมัยที่สงขลามีเจ้าเมืองปกครอง ส.ส.ประพร เอกอุรุ นั้นมีศักดิ์เป็นลูกพี่ลูกน้อง เครือญาติก็อยู่ในสายตระกูลทุม โฆสิต อนันตพงศ์ เอกอุรุ สุพัฒนกุล พัฒนกุล วัตตธรรม พร้อมมูล จันทรโชติ หิรัญสาลี พานิชยพงศ์ สุขโข ยกรัตน์ ฯลฯ ซึ่งพื้นเพดั้งเดิมอยู่แถบชายทะเลตั้งแต่ท่าเข็นจนถึงวัดกระ รวมทั้งแหลมสน และบ่อยาง”
“เรียนเก่งจนได้ที่ ๑ ของโรงเรียนมหาวชิราวุธในช่วง ม.ศ.๑-๒ ระลอกคลื่นสิบสี่ตุลาซัดมาถึงสงขลา เริ่มอ่านงานของ อนุช อาภาภิรม ในนิตยสารวิทยาสารและชัยพฤกษ์วิทยาศาสตร์ ฟังเพลง คาราวาน ช่วง ม.ศ.๔-๕ ได้รับเลือกเป็นสมาชิกสภานักเรียนโรงเรียนมหาฯ เป็นคณะกรรมการฝ่ายตุลาการร่วมกับอุทิศ ชูช่วย ภายใต้พรรคเยาวชนก้าวหน้าของเพื่อนชื่อ นิพนธ์ บุญญามณี ที่เป็นประธานนักเรียน พร้อมๆ กับการเคลื่อนไหวประสานกับศูนย์กลางนักเรียนแห่งประเทศไทย และศูนย์กลางนิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย จนเกิดเหตุการณ์ ๖ ตุลาคม เพื่อนหลายคนหนีเข้าป่า ผมหอบหนังสือซ้ายใส่ลังกระดาษกลับบ้านท่าเข็น”
“หลัง ๖ ตุลา เข้าเรียนคณะสาธารณสุขศาสตร์ มหิดล ร่วมกับผู้นำนักศึกษารุ่นพี่เคลื่อนไหวฟื้นขบวนการนักศึกษา หนึ่งในนั้นคือ หมอเลี้ยบ สุรพงศ์ สืบวงศ์ลี รมต.คลัง ขึ้นปีสองเข้าเป็นสมาชิกสันนิบาตเยาวชนประชาธิปไตยแห่งประเทศไทย (สยท.) ซึ่งเป็นองค์กรจัดตั้งปิดลับของ พคท. เขตงานกรุงเทพฯ ขึ้นปีสี่พรรคคอมฯ เริ่มแตก อดีตผู้นำนักศึกษากลับสู่เมือง ผมเชิญ สมพงษ์ สระกวี ไปพูดให้แอ็กติวิสต์ฟังที่ตึกกิจกรรม มหิดล แล้วอำลาจากพรรคคอมฯ”
“เรียนต่อปริญญาโทด้านการพัฒนาเศรษฐกิจที่ NIDA ๒ ปี จบจึงไปเป็นอาจารย์ประจำที่คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหิดล ทำงานสอน/วิจัยอยู่ ๕ ปี ช่วงนั้นเป็นนักวิจัยร่วมกับศูนย์ศึกษานโยบายสาธารณสุข และสถาบันชุมชนท้องถิ่นพัฒนาที่มี หมอประเวศ วะสี และ อาจารย์เสน่ห์ จามริก เป็นหัวเรือใหญ่ งานส่วนใหญ่เป็นเรื่องโครงการบัตรสุขภาพ (ที่พัฒนามาเป็นโครงการประกันสุขภาพแห่งชาติปัจจุบัน) และงานพัฒนา และรับจ็อบเป็นผู้จัดการโครงการเศรษฐศาสตร์สาธารณสุขของ USAID/กระทรวงสาธารณสุข”
“ราวปี ๒๕๓๒ ใช้สิทธิอาจารย์ลาเขียนตำรา ๑ ปี กลับมาอยู่สงขลา ได้ตำราเศรษฐศาสตร์สาธารณสุขหนึ่งเล่ม ส่งงานเสร็จก็ลาออกตามความตั้งใจแต่วัยรุ่น มารับตำแหน่งผู้จัดการท่าเทียบเรือประมงใหม่อยู่ช่วงหนึ่ง แล้วได้รับเลือกเป็นนายกสมาคมนักเรียนเก่ามหาวชิราวุธ”
“แปดปีที่แล้วร่วมกับ อุทิศ ชูช่วย ตั้งทีมสงขลาพัฒนา ยึดอำนาจรัฐท้องถิ่นสำเร็จ ได้เป็นเทศมนตรีนครสงขลา ซึ่งมีอุทิศเป็นนายกฯ สี่ปีที่แล้วเข้าร่วมทีมบริหาร อบจ.สงขลา ที่มี นวพล บุญญมณี เป็นนายกฯ ในตำแหน่งรองนายก อบจ.สงขลา คนที่ ๑
*** ความประทับใจ ***
๑) คำขวัญประจำตัวที่เขียนในหนังสือรุ่น ม.ศ.๕ โรงเรียนมหาฯ หลังหกตุลา ในฐานะบรรณาธิการ หนังสือถูกแบน…
“ยืนหยัด ทระนง อุดมการณ์กำหนดชีวิต”
๒) บทกลอนของ สถาพร ศรีสัจจัง อ่านจากหนังสือระหว่างนั่งรถทัวร์กลับสงขลา ผ่านเทือกเขาบรรทัดกลางดึก...
“เขาพับผ้าเหมือนผ้าพับรองรับศพ
ของนักรบแห่งป่าชาวนานั่น
จรยุทธสงครามนานข้ามวัน
ขวบปีผันดอกไม้ใกล้เบ่งบาน”
๓) บทกวีของ พี่สุวิทย์ วัดหนู โฆษกม็อบพันธมิตรฯ ต้านทักษิณ พี่ที่ไม่เคยพบหน้ากันเลย…
“บนเส้นทางสายธารที่ผ่านพบ
คือทำนบเหี้ยมโหดบนโขดหิน
ตำนานปวงประชาน้ำตาริน
ขอเป็นคนเดินดินจนสิ้นใจ”
(คัดลอกจาก http://www.cityvariety.com/athatyai/index.php?cmd=life&mode=detail&id=227)
