สตูล - ประธานกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี จ.สตูล ตั้งเป้าภายใน 1 ปี ด้วยงบประมาณ 20 ล้านจะร่วมพัฒนาบทบาทสตรีให้สามารถยืนได้ด้วยลำแข้ง และพัฒนาบ้านเมืองให้เห็นเป็นรูปธรรม
นายวัชรินทร์ ทองสกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล ได้เชิญคณะกรรมการกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีจังหวัดสตูล และผู้เกี่ยวข้อง มาประชุมหารือที่สำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดสตูล เพื่อชี้แจงการทำงานของคณะกรรมการฯ ในการจัดทำแผนการบริหารจัดการกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีจังหวัดให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ทั้งนี้รัฐบาลได้โอนเงินกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีให้แก่จังหวัดสตูลแล้ว จำนวน 20 ล้านบาท เพื่อใช้เป็นแหล่งทุนสำคัญในการสร้างงาน สร้างอาชีพ ส่งเสริมกิจการแก้ปัญหา และพัฒนาศักยภาพสตรี รวมทั้งสร้างเครือข่ายสตรีให้มีความเข้มแข็ง รองรับเข้าสู่ประชาคมอาเซียน และการเปลี่ยนแปลงในสถานการณ์ปัจจุบัน และสามารถจัดสวัสดิการเพื่อช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาส
ซึ่งรองผู้ว่าราชการจังหวัด ได้กำชับให้คณะกรรมการบริหารกองทุนมุ่งมั่นตั้งใจทำงานให้มีประสิทธิภาพ เน้นให้ทุกภาคส่วนเข้ามามีส่วนร่วม เพื่อพัฒนาบทบาทของสตรีให้ครอบคลุมทั้ง 36 ตำบล และสามารถเห็นรูปธรรมภายใน 1 ปี
โอกาสเดียวกันนี้ ที่ประชุมได้มีการคัดเลือกตำแหน่งประธานกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีจังหวัดสตูล โดยคณะกรรมการกองทุนฯ จำนวน 12 คนเป็นผู้คัดเลือก มติที่ประชุมเสียงข้างมากเลือกนางผกาพันธ์ สรรค์สวาสดิ์ อายุ 49 ปี ปัจจุบัน เป็นประธานสตรีจังหวัดสตูล ให้ดำรงตำแหน่งประธานกองทุนพัฒนาบาทสตรีจังหวัดสตูล ซึ่งมีวาระการดำรงตำแหน่งคราวละ 2 ปี
นางผกาพันธ์ สรรค์สวาสดิ์ กล่าวถึงการได้รับตำแหน่งประธานกองทุนพัฒนาบาทสตรีคนแรกของจังหวัดสตูลว่า สตรีสตูลเป็นผู้มีบทบาทสำคัญต่อสถาบันครอบครัว และสังคม ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา สตรีในจังหวัดได้มีโอกาสพัฒนาตนเองไปหลายเรื่อง จนหลายคนกลายเป็นคนเก่ง มีอุดมการณ์ มีภาวะความเป็นผู้นำสูง แต่ก็มีบางสังคมที่ไม่ค่อยจะยอมรับ เมื่อเข้ามานั่งในตำแหน่งสำคัญนี้ก็มีความคิด และตั้งใจที่จะนำความรู้ และประสบการณ์ด้านการศึกษา สังคม และการเมืองมาพัฒนาบทบาทของสตรีให้มีศักยภาพมากที่สุด ทั้งคุณภาพชีวิตของสตรี และการยอมรับบทบาทของสตรีในทุกสังคม
ส่วนการบริหารเม็ดเงินจากกองทุนงวดแรก 20 ล้านบาทนั้น จะเน้นการใช้ให้เกิดประโยชน์มากที่สุด ทุกฝ่ายต้องมีส่วนร่วม และการพัฒนาจะครอบคลุมถึงระดับรากหญ้า หากสตรีทุกตำบลสามารถพึ่งพาตนเอง หรือยืนบนลำแข้งของตัวเองได้แล้ว เมื่อมีความมั่นคงในอาชีพ และเศรษฐกิจแล้ว ก็จะทำให้มีความพร้อมที่จะช่วยเหลือสังคม หรือเพื่อนมนุษย์ได้ เชื่อว่าในอนาคต เด็ก เยาวชน สตรี และคนชราของจังหวัดสตูลจะต้องได้รับการดูแล และพัฒนาอย่างทั่วถึงแน่นอน
นายวัชรินทร์ ทองสกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล ได้เชิญคณะกรรมการกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีจังหวัดสตูล และผู้เกี่ยวข้อง มาประชุมหารือที่สำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดสตูล เพื่อชี้แจงการทำงานของคณะกรรมการฯ ในการจัดทำแผนการบริหารจัดการกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีจังหวัดให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ทั้งนี้รัฐบาลได้โอนเงินกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีให้แก่จังหวัดสตูลแล้ว จำนวน 20 ล้านบาท เพื่อใช้เป็นแหล่งทุนสำคัญในการสร้างงาน สร้างอาชีพ ส่งเสริมกิจการแก้ปัญหา และพัฒนาศักยภาพสตรี รวมทั้งสร้างเครือข่ายสตรีให้มีความเข้มแข็ง รองรับเข้าสู่ประชาคมอาเซียน และการเปลี่ยนแปลงในสถานการณ์ปัจจุบัน และสามารถจัดสวัสดิการเพื่อช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาส
ซึ่งรองผู้ว่าราชการจังหวัด ได้กำชับให้คณะกรรมการบริหารกองทุนมุ่งมั่นตั้งใจทำงานให้มีประสิทธิภาพ เน้นให้ทุกภาคส่วนเข้ามามีส่วนร่วม เพื่อพัฒนาบทบาทของสตรีให้ครอบคลุมทั้ง 36 ตำบล และสามารถเห็นรูปธรรมภายใน 1 ปี
โอกาสเดียวกันนี้ ที่ประชุมได้มีการคัดเลือกตำแหน่งประธานกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีจังหวัดสตูล โดยคณะกรรมการกองทุนฯ จำนวน 12 คนเป็นผู้คัดเลือก มติที่ประชุมเสียงข้างมากเลือกนางผกาพันธ์ สรรค์สวาสดิ์ อายุ 49 ปี ปัจจุบัน เป็นประธานสตรีจังหวัดสตูล ให้ดำรงตำแหน่งประธานกองทุนพัฒนาบาทสตรีจังหวัดสตูล ซึ่งมีวาระการดำรงตำแหน่งคราวละ 2 ปี
นางผกาพันธ์ สรรค์สวาสดิ์ กล่าวถึงการได้รับตำแหน่งประธานกองทุนพัฒนาบาทสตรีคนแรกของจังหวัดสตูลว่า สตรีสตูลเป็นผู้มีบทบาทสำคัญต่อสถาบันครอบครัว และสังคม ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา สตรีในจังหวัดได้มีโอกาสพัฒนาตนเองไปหลายเรื่อง จนหลายคนกลายเป็นคนเก่ง มีอุดมการณ์ มีภาวะความเป็นผู้นำสูง แต่ก็มีบางสังคมที่ไม่ค่อยจะยอมรับ เมื่อเข้ามานั่งในตำแหน่งสำคัญนี้ก็มีความคิด และตั้งใจที่จะนำความรู้ และประสบการณ์ด้านการศึกษา สังคม และการเมืองมาพัฒนาบทบาทของสตรีให้มีศักยภาพมากที่สุด ทั้งคุณภาพชีวิตของสตรี และการยอมรับบทบาทของสตรีในทุกสังคม
ส่วนการบริหารเม็ดเงินจากกองทุนงวดแรก 20 ล้านบาทนั้น จะเน้นการใช้ให้เกิดประโยชน์มากที่สุด ทุกฝ่ายต้องมีส่วนร่วม และการพัฒนาจะครอบคลุมถึงระดับรากหญ้า หากสตรีทุกตำบลสามารถพึ่งพาตนเอง หรือยืนบนลำแข้งของตัวเองได้แล้ว เมื่อมีความมั่นคงในอาชีพ และเศรษฐกิจแล้ว ก็จะทำให้มีความพร้อมที่จะช่วยเหลือสังคม หรือเพื่อนมนุษย์ได้ เชื่อว่าในอนาคต เด็ก เยาวชน สตรี และคนชราของจังหวัดสตูลจะต้องได้รับการดูแล และพัฒนาอย่างทั่วถึงแน่นอน